shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

ครึ่งหลังเดือนกันยายน – รู้หลบ

ดังที่ทราบกัน กันยายน เป็นเดือนหนึ่งในสองของปี ที่ฝนมากที่สุด ครั้นถึงช่วงครึ่งหลังของเดือน ก็พอจะวางใจได้ว่า ต่อจากนี้ ที่จะเห็นฝนหนัก ก็จะน้อยลง โอกาสน้ำท่วมขัง ค้างนานในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง รวมถึง กรุงเทพฯ ก็มีน้อยลงไปด้วย ส่วนที่จะมีฝนกระหน่ำจุดใดจุดหนึ่งในปริมาณมาก จนระบบระบายไม่ทัน จะมีคั่งค้าง ขังอยู่ผิวจราจร พื้นราบ บ้างเป็นบางที่ ก็ต้องยอมรับ ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ช่วงวันที่ 14 – 20 กันยายน กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ร่องมรสุมกำลังแรง พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในเวลาเดียวกัน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ก็จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ อาจมีฝนตกหนัก ถึงหนักมาก บางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมในทะเลอันดามัน จะมีกำลังแรง สูง 2-3 เมตร ช่วงวันที่ 16 – 18 ก.ย.บริเวณประเทศไทย จะมีฝนเพิ่มขึ้น คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังแรง เพราะมีพายุโซนร้อน “คัลแมกี” (Kalmaegi) ทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มเคลื่อนตัว ผ่านเกาะลูซอนลงทะเลจีนใต้ตอนบน ในวันที่ 15 ก.ย. จากนั้นจะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แนวเกาะไหหลำ พายุนี้ มีอิทธิพลต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงด้วย กรมอุตุฯ คาดหมายว่า ผู้อยู่ทาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ต้องระวังอันตรายจากฝนหนัก ชาวเรือในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ให้เพิ่มความระมัดระวัง ในการเดินเรือ คำเตือนสำหรับเรือเล็ก ให้งดออกจากฝั่ง ถึงจะมีฝนหลายพื้นที่ แต่ข้อมูลล่าสุดสถานการณ์น้ำกักเก็บในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ก็ยังไว้ใจไม่ได้ ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ รายงานล่าสุด เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีน้ำ 5 พันล้านลูกบาศก์เมตร (คิว)หรือร้อยละ 37 แต่ใช้ได้จริง 1.2พันล้านคิว เขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำ 5 พันคิว เท่ากัน ปริมาณที่ใช้การได้จริง 2.1 ล้านคิว อ่างเก็บน้ำอื่น ก็ลักษณะเดียวกัน ดังนั้น ณ เวลานี้ ทุกเขื่อนยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีก 1.37 หมื่นล้านคิว ตีความได้ว่า ปริมาณน้ำที่ได้ยังน้อย จนอาจกระทบกับฤดูแล้งที่จะมาถึง ภัยแล้ง ไม่ได้ส่งผลเฉพาะภาคเกษตรกรรม แต่ภาคอุตสาหกรรมและกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปก็เดือดร้อน เวลานี้ สภาอุตสาหกรรมเริ่มมีความห่วงใย ต่อภาวะน้ำน้อยในพื้นที่ภาคตะวันออก แม้กรมชลประทาน เตรียมการลำเลียงจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง ที่มีมากกว่าไปให้อ่างเก็บน้ำอื่นในพื้นที่ ก็ยังมีความกังวล กรมชลประทาน จึงควรประชุมชี้แจงทำความเข้าใจให้วงการอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ทราบกันอย่างทั่วถึง เพื่อผลต่อความเชื่อมั่นในการประกอบกิจการ อันจะเกิดเป็นความร่วมมือในการใช้น้ำอย่างประหยัด เดือนที่ฝนมากที่สุดกำลังจะผ่านไป โอกาสจะได้น้ำใหม่มาเติมจะน้อยลงไปอีก ไม่เขียมใช้ จะลำบาก หยาดน้ำฟ้า

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ครึ่งหลังเดือนกันยายน – รู้หลบ

Posts related

 














อภิมหาเศรษฐีแห่งแดนมังกร – รอบรู้ไอที รอบโลกเทคโนโลยี

ถ้าลองมองย้อนไปดูในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา คุณผู้อ่านคอลัมน์วันพุธของผมเคยสังเกตไหมครับว่า ธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีเป็นธุรกิจที่มีความเป็นพลวัตค่อนข้างสูง ใช้เวลาไม่นานก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นธุรกิจแถวหน้าในโลกศตวรรษที่ 21 นี้ได้ มีบุคคลธรรมดามากมายโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่อาศัยธุรกิจด้านเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยให้เขาเหล่านั้นผงาดขึ้นมาเป็นอภิมหาเศรษฐีแถวหน้าของโลกได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี ไล่ตั้งแต่ บิล เกตส์ (Bill Gates) ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ แลร์รี เพจ (Larry Page) ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล หรือแม้แต่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก โดยที่มูลค่าทรัพย์สินของแต่ละชื่อที่ผมกล่าวมานี้มหาศาลขนาดใกล้เคียงกับระดับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในของประเทศไทย (GDP) เลยครับ ชื่อของเหล่าอภิมหาเศรษฐีฝั่งโลกตะวันตกนี้คงเป็นที่คุ้นหูคุณผู้อ่านกันอยู่แล้วไม่มากก็น้อย แต่ถ้ากลับมาที่ฝั่งโลกตะวันออกของเราบ้างล่ะ ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เป็นรองก็เพียงสหรัฐอเมริกา คุณผู้อ่านเคยสงสัยไหมครับว่าบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่แบบนี้คือใคร และธุรกิจแบบไหนที่เขาผู้นั้นทำอยู่ ชื่อของ แจ็ค หม่า (Jack Ma) อาจไม่เป็นที่คุ้นหูของคุณผู้อ่านเท่าไหร่นัก แต่ถ้าพูดถึงบริษัทอาลีบาบา (Alibaba) ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซขายส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งของประเทศจีน เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายคนคงเริ่มคลับคล้ายคลับคลาบ้าง หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่า อาลีบาบาเกิดจากคนจีนเป็นผู้ก่อตั้ง เพราะฉะนั้นปัจจุบันก็น่าจะเป็นของคนจีน แต่ถ้าไปดูที่ตัวเลขผู้ถือหุ้นจริง ๆ ปัจจุบันอาลีบาบา มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ บริษัทซอฟต์แบงค์ (SoftBank) ของประเทศญี่ปุ่นที่ถือหุ้นถึง 34.4% ตามมาด้วย ยาฮู (Yahoo) ที่ถือหุ้นอยู่ที่ 22.6% ส่วนผู้ก่อตั้งอย่าง แจ็ค หม่า นั้นมีหุ้นอยู่เพียง 9% เท่านั้นเอง แต่เป็น 9% ของเงินจำนวนอภิมหาศาลเลยล่ะครับ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ได้เปิดเผยว่า แจ็ค หม่า ชาวจีนผู้ก่อตั้งอาลีบาบาคนนี้ล่ะครับ ที่ถือครองทรัพย์สินมูลค่ามากกว่าสองหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 7 แสนล้านบาท ซึ่งเหนือกว่าสถิติทรัพย์สินของนักธุรกิจทุกรายในจีนแผ่นดินใหญ่ (ยกเว้นฮ่องกง) หรือว่าง่าย ๆ ก็คือเขาคนนี้นี่ล่ะครับ อภิมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในแดนมังกรของจีนแผ่นดินใหญ่ การประเมินของสำนักข่าวบลูมเบิร์กนี้ เกิดขึ้นจากการที่บริษัทอาลีบาบาได้ตัดสินใจเข้าสู่ตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกาโดยที่จะเปิดขายหุ้นครั้งแรกหรือ IPOภายในเดือนนี้ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าการเปิดขาย IPOของบริษัทอาลีบาบานี้จะเป็นการขายหุ้นบริษัทครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นสหรัฐเลยก็ว่าได้ อีกทั้งหลายฝ่ายก็วิเคราะห์ด้วยว่าหุ้นของอาลีบาบาน่าจะขายได้ในราคาที่สูง จนอาจทำให้มูลค่ากิจการของบริษัทพุ่งขึ้นไปถึง 168,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5 ล้านล้านบาทได้เลยล่ะครับ แต่คุณผู้อ่านทราบไหมครับว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกเงินทุนทหาศาลขนาดนี้ เพิ่งจะถูกก่อตั้งมาได้ราว 15 ปีเท่านั้นเอง ( ก่อตั้งในปีค.ศ .1999) แถมจำนวนสมาชิกรุ่นก่อตั้งบริษัทที่ร่วมแรงร่วมใจกับ แจ็ค หม่า ในการสร้างบริษัทอาลีบาบานี้ขึ้นมาก็เริ่มต้นจากคนเพียงแค่ 18 คนเท่านั้น ปรากฏการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดที่อาลีบาบาประเทศจีนที่เดียวนะครับ ไม่ว่าจะเป็นอินสตาแกรม เฟซบุ๊ก หรือ กูเกิลเอง ต่างก็มีจุดร่วมที่เป็นบริษัทธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่เริ่มก้าวแรกจากจำนวนพนักงานเพียงหยิบมือ โดยหัวหอกผู้ก่อตั้งที่เป็นคนธรรมดาไม่ได้ร่ำรวย ไม่มีเงินทุนสนับสนุนจากครอบครัวมาให้ใช้ในการก่อร่างสร้างบริษัทได้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน อาศัยเพียงความสามารถในการนำความรู้ที่พวกเขามีอยู่มาบูรณาการเข้ากับเครื่องมือแห่งโลกยุคสารสนเทศ ยิ่งพอเสริมเข้าไปด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่มาได้จังหวะเหมาะเจาะด้วยแล้ว ผลที่ได้ก็ส่งให้คนธรรมดา ๆ อย่างพวกเขาผงาดขึ้นมาเป็นอภิมหาเศรษฐีระดับโลก ที่จะถูกจารึกจดจำไว้ในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์โลกในฐานะผู้สร้างมรดกตกทอดทางนวัตกรรมที่เป็นฟันเฟืองที่ช่วยให้โลกใบเล็ก ๆ ของเราหมุนต่อไปได้อย่างมีพลวัต . ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช มหาวิทยาลัยรังสิต chutisant.k@rsu.ac.th   

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : อภิมหาเศรษฐีแห่งแดนมังกร – รอบรู้ไอที รอบโลกเทคโนโลยี

กสทยังไม่ได้ช้อสรุปหลังถกช่อง3

วันที่ 16 ก.ย. เวลา 16.00 น. ที่ตึกเอ็กซิมแบงก์ ผู้บริหารบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด หรือ ช่อง 3 นำโดยนายประสาร มาลีนนท์ นายประวิทย์ มาลีนนท์ นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ และนายฉัตรชัย เทียมทอง ได้เดินทางเข้าร่วมหารือเจรจาหาแนวทางการออกอากาศคู่ขนาน ร่วมกับคณะกรรมกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ประกอบด้วย พ.อ.ดร. นที ศุกลรัตน์ ประธานกสท. , พล.ท. พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ , นายธวัชชัย จิตรภาษนันท์ กรรมการ และ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ ทั้งนี้การประชุมใช้เวลานานร่วม 2ชั่วโมง โดยบรรยากาศหลังจากการเจรจาแล้วเสร็จผู้บริหารช่อง 3 เดินทางกลับโดยมีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด ส่วนด้านกรรมการกสท.มีใบหน้าที่ตึงเครียดพ.อ.ดร. นที ศุกลรัตน์ รองประธานกสทช. และประธานกสท. เปิดเผยภายหลังการเจรจากับช่อง 3 ว่า การเจรจาเป็นไปได้โดยดี แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป พร้อมจะไม่เปิดเผยรายละเอียดนอกห้องประชุม แต่ยืนยันว่าทั้งกสท.และช่อง 3 ต้องการให้เกิดแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และขอเวลาให้ทั้ง 2ฝ่ายหาแนวทางออกโดยจะมีการเจรจาต่อไปในโอกาสหน้า ส่วนจะจอดำภายใน 15 วันหลังโครงข่ายดาวเทียม เคเบิล ได้รับหนังสือคำสั่ง หรือไม่ตนขอไม่พูดถึงเรื่องดังกล่าวน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช.และกสท. เปิดเผยว่า ช่อง 3 ยินยอมออกอากาศคู่ขนานกับช่อง 33HD แบบมีเงื่อนไข โดยการขอชดเชยค่าเสียหายที่มากจนเกินไปรับไม่ได้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบเรื่องความไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ซึ่งบอร์ดกสท.มีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน ส่วนที่เห็นยอมเฉพาะลดค่าธรรมเนียม 4% โดยคาดว่าอาจจะมีการเรียกคุยกับช่อง 3 อีกครั้งในวันที่ 18 ก.ย. นี้ อยากขอให้ทุกอย่างจบภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนด 28ก.ย.นี้อย่างไรก็ตามมองว่า การยอมออกอากาศคู่ขนานของช่อง 3 นั้นเป็นเงื่อนไขที่มากจนเกินไป ซึ่งเยอะจนไม่ต้องออกอากาศคู่ขนานแล้วก็ปล่อยให้จอดำไปภายหลังโครงข่ายดาวเทียม เคเบิล ต้องดึงสัญญาณช่อง 3 ออกหลังรับหนังสือคำสั่งภายใน 15 วัน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสทยังไม่ได้ช้อสรุปหลังถกช่อง3

Page 104 of 805:« First« 101 102 103 104 105 106 107 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file