shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

กสท เอาใจลูกค้าองค์กร ขายเน็ตพ่วงไว-ไฟฟรี

กสท ขายเน็ตพ่วงไวไฟฟรี ให้ลูกค้าองค์กร รับการแข่งขันที่รุนแรง ล่าสุด ผนึกศาลยุติธรรมให้บริการไวไฟฟรีแก่ประชาชนและผู้มาใช้บริการที่ศาลยุติธรรม ให้เข้าถึงข้อมูลแล้ว โดยจะครอบคลุมที่ทำการศาลยุติธรรมทั่วประเทศภายใน 6 เดือนหลังจากนี้  นายสุรพล สงวนศิลป์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานโครงข่าย บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อบริโภคข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องและตลอดเวลาของประชาชนในปัจจุบัน กสท ในฐานะผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ ๆ ทั้งนี้ เพื่อความไม่เอาเปรียบลูกค้าองค์กร กสท จึงมีแนวคิดในการให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หรือ CAT WiFi ซึ่ง ในการให้บริการไวไฟฟรีแก่ลูกค้าแต่ละองค์กรก็จะขึ้นอยู่กับการทำสัญญาร่วมกันด้วย อย่างไรก็ตาม บริการดังกล่าวถือเป็นการให้บริการในลักษณะโครงการ ไอซีที ฟรีไวไฟ ที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้มีการดำเนินการก่อนหน้านี้ แต่ก็ได้ยุติลงไป ซึ่ง กสท เห็นว่า เป็นโครงการที่มีประโยชน์ทั้งในส่วนขององค์กรและลูกค้าหรือประชาชนที่มาใช้บริการในสถานที่นั้น ๆ ด้วย สำหรับผู้ใช้บริการทั่วไป สามารถเข้ารหัสใช้งานโดยลงทะเบียนด้วยเลขที่บัตรประชาชนในจุดที่ กสท ให้บริการที่มีสัญลักษณ์ CAT WiFiโดยจะมีสิทธิใช้งานฟรีวันละ 2-4 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน เนื่องจากส่วนใหญ่ กสท จะให้บริการแก่สถานที่ราชการที่ร่วมเป็นพันธมิตรกัน ล่าสุด กสท ได้ให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะแบบไร้สายโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนและข้าราชการฝ่ายตุลาการแก่ศาลยุติธรรมทั่วประเทศ ถือเป็นการตอบแทนลูกค้าของ กสท ด้วย เพราะสำนักงานศาลยุติธรรมถือเป็นลูกค้ากับ กสท โดยทำสัญญาเบื้องต้น 3 ปี ซึ่งเมื่อหมดสัญญาการให้บริการ กสท อาจจะต้องยกเลิกการให้บริการไวไฟฟรีดังกล่าว เพราะถือว่าระบบอินเทอร์เน็ตหลังบ้านที่ให้บริการในศาลจะต้องยกเลิกไปด้วย แต่หากศาลยุติธรรมพร้อมที่จะต่อสัญญากับ กสท บริการฟรีไวไฟ  ก็จะยังคงให้บริการเช่นเดิมหรือเปลี่ยนแปลงไปตามความเหมาะสม ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถติดตั้งไวไฟฟรีให้กับศาลยุติธรรมทั่วประเทศภายใน 6 เดือนหลังจากนี้.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสท เอาใจลูกค้าองค์กร ขายเน็ตพ่วงไว-ไฟฟรี

Posts related

 














‘ซีจีซี’ ผนึก ‘เอปสัน’ สร้างศูนย์ไอที

 ซีจีซี ทุ่ม 20 ล้านบาท สร้างศูนย์รวมเทคโนโลยีรับลูกค้าองค์กรที่มีการเติบโตสูงขึ้น ล่าสุด จับมือ เอปสัน ชูจุดเด่นแอพพลิเคชั่นสมัยใหม่ช่วยต่อยอดธุรกิจให้ลูกค้าองค์กร  นายชัยทัต แซ่ตั้ง ประธานกลุ่ม บริษัท CGC กล่าวถึงการเปิดศูนย์ ซีจีซี อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ (CGC Innovation Center) ที่ร่วมกับเอปสัน ว่า บริษัทฯ ใช้เงินลงทุนทั้งหมด 20 ล้านบาท เพื่อให้บริการกลุ่มองค์กรที่เป็นศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคต โดยลูกค้าจะเกิดทางเลือกใหม่ในการใช้งานในผลิตภัณฑ์เอปสัน ทั้งการต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนของเอปสัน เพื่อความมั่นใจในเรื่องบริการหลังการขาย และเพิ่มซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยซีจีซี เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าองค์กรแต่ละราย ตั้งแต่การมีระบบเอสเอ็มเอสแจ้งเตือนสำหรับเครื่องซ่อมเสร็จ, แอพพลิเคชั่นตรวจสอบสถานะการซ่อม, การแจ้งราคาประเมินค่าซ่อม, พร้อมระยะเวลาซ่อมที่เร็วเป็นพิเศษ เป็นต้น สำหรับการพัฒนาโชว์รูมของเอปสันในครั้งนี้ ถือเป็นต้นแบบใหม่ของทั้ง 2 บริษัท ในขณะที่เอปสันสนับสนุนอุปกรณ์และองค์ความรู้ของผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งไม่มีขายในท้องตลาดปกติ มาแสดงในโชว์รูมให้ลูกค้าได้ทดลองใช้งาน ซีดีซี จะพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมต่อยอด เป็นการสร้างโอกาสใหม่ให้กับตลาดประเทศไทย และเอปสันก็ได้แอพพลิเคชั่นนำไปขยายในตลาดประเทศอื่น ๆ ได้ด้วย ทั้งนี้ ตั้งเป้ารายได้ที่จะมาจากการทำธุรกิจร่วมกันในปีนี้ที่ 30 ล้านบาท จะเติบโตอีกประมาณ 10% ต่อปี อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกลุ่มบริษัท ซีจีซี ประกอบด้วย บริษัท ไชยกาญจน์ คอนเซ้าท์ติ้ง, บริษัท บอสอัพ โซลูชั่น, และบริษัท ดรีมไลน์ ครีเอชั่นส์ มียอดขายรวมประมาณปีละ 200 ล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้เติบโต 25% ซึ่งกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันจะเป็นกลุ่มราชการและกลุ่มรัฐวิสาหกิจ 70% และองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ 30% ซึ่งภายใน 2 ปีนี้ จะมีการปรับพอร์ตเพิ่มสัดส่วนของภาคเอกชนขึ้นเป็น 50-50.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘ซีจีซี’ ผนึก ‘เอปสัน’ สร้างศูนย์ไอที

‘ทรู อินคิวบ์ รุ่น 2’ ดันผลงานออกสู่ตลาดจริง – ฉลาดสุดๆ

ช่วงนี้วงการสตาร์ตอัพ หรือผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีหน้าใหม่ของไทยกำลังคึกคัก เมื่อหลายเวทีสตาร์ตอัพที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ หรือ โอปเรเตอร์ แต่ละรายเป็นผู้จัดขึ้น เริ่มประกาศผลและนำผลงานทีมผู้ชนะเลิศออกสู่ตลาดแล้ว โครงการทรู อินคิวบ์ (True Incube) ของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือเป็นหลักสูตรบ่มเพาะผู้ประกอบการไทยด้านเทคโนโลยี ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่ฝันจะสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและเกิดขึ้นได้จริง ก็เป็นหนึ่งในเวทีที่ได้แนะนำผลงานของ 5 ทีม ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของโครงการรุ่นที่ 2 ต่อนักลงทุนชั้นนำของโลกเช่นกัน นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ผู้อำนวยการบริหาร ทรู อินคิวบ์ กล่าวว่า หลังจาก 5 ทีม เข้าบูทแคมป์ 90 วัน จนสามารถผลิตและพัฒนาผลงานออกมาได้จริงและพร้อมที่จะนำออกสู่ตลาด จึงได้มีการจัด เดโม เดย์ แนะนำผลงานให้นักลงทุนมากกว่า 15 ราย จากทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และไทย ฯลฯ ซึ่งมี 3-4 ทีมที่เริ่มได้รับเงินทุนจากกลุ่มนักลงทุนแล้ว และมี 2 ทีม ที่นำผลงานออกสู่ตลาดและเริ่มมีรายได้กลับเข้ามาแล้ว “ต่อจากนี้ไปหลังจากเสร็จสิ้นการแนะนำผลงานกับกลุ่มนักลงทุนแล้ว ทางทรู จะให้การสนับสนุนเงินทุนตั้งต้น และเข้าไปแนะนำการดำเนินธุรกิจของแต่ละทีม การหารายได้ รูปแบบธุรกิจ รวมถึงการแนะนำผลงานเข้าสู่ตลาด พร้อมการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ผลงานเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น” สำหรับผลงาน 5 ทีม ประกอบด้วย คอร์ส สแควร์ (Course Square) เป็นศูนย์กลางระหว่างผู้เรียนและผู้สอนออนไลน์ของประเทศ ไทย โดย นายอัคคสิทธิ์ ตรุงกานนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งคอร์ส สแควร์ กล่าวว่า ผลงานเป็นเว็บไซต์ที่เป็นศูนย์กลางรวบรวมคอร์สเรียนออนไลน์ ที่เปิดให้สถาบันและผู้สอนต่าง ๆ นำหลักสูตร หรือคอร์สการเรียนออนไลน์มานำเสนอให้กับผู้ที่สนใจเรียน และสามารถเก็บค่าเรียนผ่านระบบออนไลน์ได้ โดยขณะนี้มี 15 สถาบัน ที่นำ คอร์สการเรียนเข้ามาร่วมมากกว่า 340 บท เนื้อหามีทั้งเรื่องการลงทุน ไอที คอมพิวเตอร์ และวิชาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และมีผู้ลงทะเบียนเรียนแล้วกว่า 100 คน  “สถาบันต่าง ๆ สนใจนำคอร์สการเรียนเข้าร่วมเพราะถือเป็นช่องทางที่เพิ่มรายได้  ขณะที่ผู้เรียนเข้ามาที่เดียวสามารถหาคอร์สที่สนใจได้ครบถ้วนและยังสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา สำหรับรูปแบบธุรกิจทางทีมจะมีรายได้มาจากส่วนแบ่งค่าเรียนของคอร์สนั้น ๆ อนาคตมีแผนจะพัฒนาเป็นแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือด้วย” สำหรับผลงานทีมที่ 2 คือ แฮงก์สเตอร์ (Hankster) ซึ่งเป็นบริการนัดแฮงก์เอาต์แห่งเดียวในไทย ซึ่งก็ได้รับความสนใจจาก อุ๊คบี และเอ็ม 8 ให้เงินลงทุนร่วมกับทางทรูแล้วกว่า 1 ล้านบาท โดยนายศิขริน ชลประทิน ผู้ร่วมก่อตั้ง กล่าวว่า บริการของ แฮงก์สเตอร์ มีทั้งแพลต ฟอร์มที่เป็นเว็บไซต์และโมบายแอพพลิเคชั่น โดยจะเป็นตัวกลางนัดแฮงก์เอาต์จับคู่เป็นกลุ่มชาย 3 หญิง 3 เพื่อไปเจอกันตามร้านอาหารและบาร์ต่าง ๆ พร้อมมอบส่วนลดในการใช้บริการ โดยหลังจากเปิดให้บริการ 2 เดือน มีผู้ลงทะเบียนแล้วมากกว่า 1,000 คน และเกิดการจับคู่แล้วมากกว่า 25 ครั้ง  “บริการของแฮงสเตอร์ คล้าย ๆ เป็นการซื้อดีลร้านอาหาร เพื่อจะได้ไปพบเพื่อนใหม่ โดยจะคิดว่าบริการ 500 บาท ต่อคน และจะได้เครื่องดื่ม 1 ดริ๊งค์ และทางบริษัทจะจับคู่กลุ่มคนที่มีความชอบเหมือนกันให้ได้เลือก พร้อมกับติดต่อจองโต๊ะร้านอาหารให้ตามเวลาที่ลูกค้าต้องการ ขณะนี้มีร้านที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า 10 ร้านอยู่ตามโซนต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ที่คนนิยมไปแฮงก์เอาต์กัน อนาคตเตรียมขยายไปในต่างจังหวัดด้วย” ขณะที่ผลงานทีมที่ 3 คือ เว็ตไซต์ (Vetside) เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กสำหรับสัตวแพทย์ แห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย  นสพ.ธนพัฒน์ สุขวิสุทธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง กล่าวว่า ให้บริการในแพลตฟอร์มเว็บไซต์ (www.vetside.net) แต่ในเร็ว ๆ นี้เพิ่มในรูปแบบแอพพลิเคชั่น โดยผู้ที่เข้ามาใช้งานต้องเป็นสัตวแพทย์และลงทะเบียนยืนยันตัวตน ขณะนี้มีสัตวแพทย์เข้ามาลงทะเบียนใช้งานแล้ว 700 คน จากสัตวแพทย์ในประเทศไทยทั้งหมด 7,000 คน โดยต้องการให้เป็นสังคมออนไลน์ที่เป็นแหล่งรวมข้อมูลในการรักษาสัตว์ประเภทต่าง ๆ โดยสัตวแพทย์ที่ลงทะเบียนสามารถเข้ามาแชร์กรณีศึกษาและวิธีการรักษาให้กับคนอื่น ๆ ได้ เนื่องจากแต่ละคนก็มีความเชี่ยวชาญในการรักษาสัตว์ที่ต่างกัน ซึ่งปัจจุบันมีเคสแปลก ๆ ในการรักษามากมาย เช่น การผ่าตัดงูที่กินขวดยาคูลท์เข้าไป ซึ่งสัตว์แพทย์ที่ทำการผ่าตัดก็เข้ามาแชร์วิธีและรูปภาพการรักษา ซึ่งงูตัวนั้นก็สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ ฯลฯ “รูปแบบธุรกิจและรายได้ จะมาจากโฆษณายาและเวชภัณฑ์ที่ใช้รักษาสัตว์ที่มีมูลค่าตลาดประมาณ 24,000 ล้านบาทต่อปี แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่สามารถโฆษณาได้ตามสื่อต่าง ๆ เนื่องจากติดข้อจำกัดทางกฎหมาย ซึ่งขณะนี้เริ่มมีบริษัทยาติดต่อเข้ามาเพื่อสนับสนุนโฆษณาแล้ว ซึ่งสามารถทำได้เนื่องจากเป็นระบบปิด” นอกจากนี้ยังมี 2 ทีม ที่มีผลงานน่าสนใจไม่แพ้กัน คือ โฮลา (Hola) ที่เป็นแชต แอพพลิเคชั่นบนแผนที่ ซึ่งสามารถแชตกับเพื่อนบนแผนที่ได้ และสามารถรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวในพื้นที่บริเวณเดียวกันได้ และยังสร้าง อวาตาร (avatar) และตกแต่งเพื่อใช้แทนตัวตนของผู้เล่น เป็นการสร้างโลกเสมือนจริงบนสมาร์ทโฟน โดยเปิดให้ดาวน์โหลดแล้วในระบบปฏิบัติการณ์ไอโอเอส และแอนดรอยด์ และมียอดผู้ใช้งานแล้วมากกว่า 2,000 คน มีการซื้อของบนแอพพลิเคชั่นแล้วมากว่า 33,000 รายการ โดยโฮลา ก็ได้รับความสนใจจากกลุ่ม 500 สตาร์ตอัพให้เงินลงทุนเรียบร้อยแล้ว ส่วนผลงานสุดท้าย คือ ทีม Puun ที่ได้รับเงินลงทุนจากกลุ่ม เอ็ม 8 แล้วเช่นกัน โดยเป็นโซลูชั่นระบบจัดการข้อมูลทางบัญชีที่ช่วยแปลงข้อมูลตัวเลขที่เข้าใจยากและน่าเบื่อให้เป็นข้อมูลเชิงกราฟิก พร้อมระบบหลังบ้าน เพื่อสามารถติดต่อลูกค้าและติดตามผล ขณะนี้ได้เป็นพันธมิตรกับสำนักงานบัญชี 10 ราย และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งสำนักงานบัญชีทั้ง 10 ราย มีฐานลูกค้ารวมกันมากกว่า 1,000 บริษัท  ถือเป็นผลงาน 5 ทีมสุดท้ายที่ได้รับการผลักดันให้พัฒนาออกสู่ตลาดจริง ๆ จากนี้คงต้องรอวัดผลความสำเร็จในไทยและตลาดโลกต่อไป.  จิราวัฒน์ จารุพันธ์ JirawatJ@dailynews.co.th

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘ทรู อินคิวบ์ รุ่น 2’ ดันผลงานออกสู่ตลาดจริง – ฉลาดสุดๆ

Page 158 of 805:« First« 155 156 157 158 159 160 161 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file