shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

กสทช.เข็นแอพฯ 2 แซะ กระตุ้นยอดลงทะเบียนซิมการ์ด

 วันนี้(21 ส.ค.)ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) น.ส.จิตสถา ศรีประเสริฐสุข  ผู้อำนวยการสำนักและจัดการเลขหมายโทรคมนาคม เปิดเผยว่าสำหรับความคืบหน้าการลงทะเบียนซิมการ์ดระบบเติมเงิน ผ่านสมาร์ทโฟนแอพพลิเคชั่น 2 แซะ ปัจจุบันมีการลงทะเบียนไปแล้วประมาณ 1 แสนเลขหมายและคาดว่าจะมีการลงทะเบียนเพิ่มขึ้น เนื่องจากกสทช.เตรียมที่จะบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับร้านค้า7-11 จำนวน 7,700แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ประชาชนที่ซื้อซิมการ์ดระบบเติมเงินที่ร้าน7-11 จะสามารถลงทะเบียนได้ทันที โดยจะเริ่มให้บริการได้ประมาณต้นเดือนต.ค.นี้ในขณะร้านโมเดิร์นเทรด อาทิ บิ๊กซี โลตัส คาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ประมาณภายในสิ้นปี57  ทั้งนี้กสทช.ยังจะดำเนินการรณรงค์ไปยังต่างจังหวัดอาทิอยุธยา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พิษณุโลก เชียงใหม่ เป็นต้น    เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าใจรับทราบถึงความจำเป็นในการลงทะเบียนแสดงยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน  โดยสแกนบัตรประจำตัวประชาชนส่วนชาวต่างชาติสแกนพาสปอร์ตหรือบัตรต่างด้าวกับลูกค้าที่มาซื้อซิมการ์ดโดยไม่ต้องสำเนาเอกสารให้ร้านค้าที่จำหน่ายซิมการ์ดเก็บไว้หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกส่งมายังฐานข้อมูลกลางของสำนักงาน กสทช.และฐานข้อมูลของผู้ให้บริการมือถือโดยตรงโดยจะไม่มีการบันทึกภาพและข้อมูลดังกล่าวไว้ภายในเครื่องแน่นอน น.ส.จิตสถา กล่าวว่า  กสทช.ยังเตรียมทำระบบให้สามารถลงทะเบียนผ่านเครื่องการ์ดรีดเดอร์ที่สามารถเสียบบัตรประจำตัวประชาชนเพื่ออ่านข้อมูล และกดเลขหมายซิมการ์ด ก็สามารถลงทะเบียนได้หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกส่งเข้ามายังฐานข้อมูลกลางได้ทันที  ซึ่งจะเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกโดยเฉพาะธนาคารกรุงไทยจำนวน 1,200 แห่งทั่วประเทศที่คาดว่าจะสามารถให้บริหารได้ภายในปีนี้เนื่องจากมีความพร้อมทั้งเรื่องอุปกรณ์ และบุคคลากร

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสทช.เข็นแอพฯ 2 แซะ กระตุ้นยอดลงทะเบียนซิมการ์ด

Posts related

 














เผยไทย-มาเลย์ต้องการใช้เน็ตบนมือถือสูงสุดในโลก

เทเลนอร์กรุ๊ปร่วมกับทีเอ็นเอสทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างอายุระหว่าง 16 – 35 ปีกว่า 2,600 คนในประเทศไทย มาเลเซีย สวีเดน และนอร์เวย์ที่ใช้อินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ โดยเทเลนอร์ให้คำจำกัดความกลุ่มคนเหล่านี้ว่า 'ผู้นำเทรนด์ดิจิทัล’ ซึ่งเป็นเสมือนผู้นำเทรนด์และการเคลื่อนไหวต่างๆในเรื่องเทคโนโลยีการสื่อสาร ทั้งนี้ เทรนด์และเทคโนโลยีที่พวกเขาเลือกมักจะถูกนำไปใช้ในการคาดคะเนถึงสิ่งที่จะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นของประเทศนั้นๆในอนาคตในขณะที่ตลาดมือถือของสแกนดิเนเวียมีความก้าวหน้าอย่างมากในทุกกลุ่มผู้ใช้งานและมีการดาวน์โหลดข้อมูลในปริมาณที่มากกว่ากลุ่มตัวอย่างของผู้ใช้มือถือในไทยและมาเลเซียกลับมีแนวโน้มการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่สูงกว่ากลุ่มตัวอย่างในประเทศสวีเดนและนอร์เวย์โดยผ่านแพลตฟอร์มการสื่อสารที่มีความหลากหลายมากกว่านายซิคเว่ เบรคเก้ รองประธานบริหารเทเลนอร์ กรุ๊ป และเจ้าหน้าบริหารสูงสุด เทเลนอร์ เอเชีย ระบุว่า การเลือกใช้แอพพลิเคชั่นและบริการล่าสุดบนมือถือของวัยรุ่นในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่ง 'ผู้นำเทรนด์ดิจิทัล’ ของเราบางส่วนในประเทศไทยและมาเลเซียกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีและโทรศัพท์มือถือมากที่สุดในโลกไปแล้ว สิ่งนี้บ่งชี้ว่า โอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจเทคโนโลยีบนมือถือในตลาดเหล่านี้อาจจะมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ยังพบว่า ร้อยละ81 ของคนไทยและมาเลเซียใช้แอพพลิเคชั่นแชต (chatapp) เพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวันในขณะที่คนสวีเดนและนอร์เวย์ใช้เพียงร้อยละ 44และร้อยละ 57 เท่านั้นความนิยมในแอพพลิเคชั่นที่โด่งดัง เช่น Whatsapp, Line หรือ WeChat แตกต่างกันไปในสี่ประเทศนี้โดยมีเพียง Facebook Chat เท่านั้นที่ได้รับความนิยมเท่ากันในทุกประเทศ โดย Whatsapp และWeChat เป็นแอพพลิเคชั่นแชตที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่ม'ผู้นำเทรนด์ดิจิทัล’ มาเลเซียในขณะที่ชาวไทยนิยมแอพพลิเคชั่น Lineและ Facebook Messenger มากกว่าโดยประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกที่มีการใช้งาน Lineส่วน บริการส่งข้อความสั้น(SMS) ยังคงได้รับความนิยมในประเทศมาเลเซีย สวีเดนและนอร์เวย์ โดยร้อยละ 70ของกลุ่มตัวอย่างใช้บริการนี้เป็นประจำทุกวันส่วน ประเทศไทย มีเพียงร้อยละ 31ของกลุ่มตัวอย่างใช้บริการส่งข้อความสั้นเพียงแค่วันละครั้งเท่านั้น ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะความนิยมในการใช้บริการ Lineหรือ Whatsapp มีมากกว่าประเทศที่มีการใช้งานโซเชียลมีเดียมากที่สุดคือประเทศไทย โดยร้อยละ 72ของกลุ่มตัวอย่างโพสต์ข้อมูลบนโซเชียลมีเดียผ่านอุปกรณ์พกพาเป็นประจำทุกวัน ตามมาด้วยประเทศมาเลเซียร้อยละ 58 ประเทศสวีเดนร้อยละ 30 และประเทศนอร์เวย์เพียงร้อยละ 11การโทรศัพท์ยังคงเป็นที่นิยมในทั้งสองภูมิภาคโดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 84 ของประเทศไทย ร้อยละ 73 ของประเทศมาเลเซีย ร้อยละ 63 ของประเทศสวีเดน และร้อยละ 67ของประเทศนอร์เวย์ จะโทรออกอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้งร้อยละ 50ของกลุ่มตัวอย่างจากประเทศไทยและมาเลเซียส่งอีเมล์ผ่านโทรศัพท์มือถือในขณะที่กลุ่มตัวอย่างจากประเทศสวีเดนและนอร์เวย์ส่งอีเมลผ่านโทรศัพท์มือถือร้อยละ31 และร้อยละ 21ตามลำดับในส่วนของการโทรคุยแบบเห็นหน้า ร้อยละ 30ของกลุ่มตัวอย่างจากประเทศไทยและมาเลเซียใช้บริการดังกล่าวในขณะที่กลุ่มตัวอย่างจากประเทศสวีเดนและนอร์เวย์ใช้บริการนี้เพียงร้อยละ 14และร้อยละ 4 เท่านั้นการศึกษาสรุปได้ว่า ผู้นำเทรนด์ดิจิทัลในประเทศไทยและมาเลเซียใช้บริการการสื่อสารบนมือถือมากกว่าผู้นำเทรนด์ดิจิตอลในประเทศแถบสแกนดิเนเวียไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดเพราะพวกเขาเลือกที่จะสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มการให้บริการที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นแอพลิเคชั่น โซเชียลมีเดีย และการโทรศัพท์อย่างไรก็ตาม การศึกษากลุ่มตัวอย่างพบว่าถึงแม้ประเทศไทยและมาเลเซียจะใช้บริการออนไลน์และแอพพลิเคชั่นหลากหลายมากกว่ากลุ่มตัวอย่างจากประเทศสวีเดนและนอร์เวย์แต่กลุ่มตัวอย่างจากประเทศสวีเดนและนอร์เวย์กลับมีการดาวน์โหลดและใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ตมากกว่ากลุ่มตัวอย่างจากประเทศไทยและมาเลเซียเป็นอย่างมาก

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เผยไทย-มาเลย์ต้องการใช้เน็ตบนมือถือสูงสุดในโลก

มือถือจีนพุ่งแรง – โลกาภิวัตน์

เสี่ยวมิ (Xiaomi) มือถืออัจฉริยะจีน เริ่มจากศูนย์ใช้เวลาเพียง 4 ปี ได้มาเป็นผู้ครองตลาดจีนอันดับหนึ่งในอนาคตอเมริกาห่วงว่าว่าจะเข้ามาครองตลาดอเมริกา เรื่องธุรกิจไฮเทคจีนประมาทไม่ได้ นอกจากอาลีบาบาของแจ๊คหม่า ยังมีมิถืออัจฉริยะที่มาแรงและขายดีมาก สำนักวิจัยคานาลิสได้ศึกษาถึงตลาดมือถือ ได้ศึกษาตลาดมือถือจีนและพบว่าเสี่ยวมิเปิดตัวได้แค่สองควอเตอร์ก็สามารถแบ่งตลาดมาได้ 14% ซึ่งหมายถึงจำนวน 14ล้านเครื่อง ปัจจุบันเสี่ยวมิครองตลาดถึง97% ในประเทศจีนก็เลยทำให้เสี่ยวมิ ได้กลายเป็นผู้ผลิตมือถือใหญ่อันดับ 5 ของโลกโดยตามหลัง แซมซุง แอ้ปเปิ้ล หัวเหว่ย และลีโนโว หลังจากเสี่ยวมิตีตลาดในประเทศจีนได้สำเร็จเลยก็จะเข้าไปยังอินโดนีเซีย เม็กชิโก รัสเซีย ไทย และตุรกีภายในปลายปีนี้ คนไทยคงจะรอไม่นานจะได้รู้ว่าดีสมค่ำล่ำลือเท่าใด ทางตะวันตกได้วิเคราะห์ความสำเร็จของเสี่ยวมิว่ามาจากการขายในราคาถูกพร้อมพ่วงกับการขายบริการออนไลน์ไปด้วย ซึ่งถ้าหากจะเข้าไปครองตลาดโลกไม่ง่าย เพราะนอกจากประเทศจีนแล้วโลกภายนอกมีน้อยคนที่รู้จักเสี่ยวมิ ถ้าหากผู้ประกอบการโทรคมนาคมเจ้าใดอยากจะขายเสี่ยวมิก็จะต้องหั่นราคาบริการออนไลน์ลงไปด้วยเพื่อที่จะบุกตลาด เจสซิกาวี แห่งสำนักวิจัยคานาลิสได้กล่าวว่า “เรื่องการใช้กลยุทธ์ราคาทำให้ดังมากในประเทศจีน แต่ความท้าทายก็คือการปรับใช้ วิธีการเรื่องกลยุทธ์ราคาให้เกิดกำไรและเติบโตอย่างรวดเร็ว ให้ประสบความสำเร็จในระดับโลกอาจจะเป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้” “เสี่ยวมิมีศักยภาพพอทีจะขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมทางธุรกิจแบบเปลี่ยนกลไกตลาดเลยก็ได้และผู้จัดจำหน่ายนานาชาติทั้งหลายคงจะต้องสนใจเรื่องนี้” สำนักข่าวตะวันตกวิเคราะห์ว่าแม้เสี่ยวมิจะประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ แต่การที่จะเจาะเข้าตลาดสหรัฐอเมริกาคงจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะมือถืออัจฉริยะของเอเชียมีแต่แซมซุงเท่านั้นที่เป็นผู้ขายรายสำคัญในสหรัฐอเมริกา สำนักข่าวตะวันตกยังวิเคราะห์ไปอีกว่าตลาดในสหรัฐอเมริกาพิสูจน์แล้วว่าผู้เล่นต่างชาติเข้าเล่นได้ยาก ตัวอย่างเช่น10 ปีที่แล้วโนเกียซึ่งเคยเป็นผู้นำโลกด้านมือถือ แต่ตอนนี้ในสหรัฐอเมริกาแทบไม่เหลือเลย แอลจีและโซนี่ ประสบความสำเร็จการขายใน ตลาดระหว่างประเทศแต่ก็ล้มเหลวในสหรัฐอเมริกา ในสหรัฐอเมริกาตลาดมือถืออัจฉริยะมีแต่แซมซุงและแอ้ปเปิ้ลแข่งขันซึ่งสองบริษัทครองตลาด 69% ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา รามอน ลามาส ผู้จัดการวิจัยด้านมือถือแห่งไอดีซีกล่าวว่า “ส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกานั้นเป็นตลาดมือถืออัจฉริยะ ถึงแม้ผู้ใช้มือถือจะเลือกอย่างพิถีพิถันมากตามสไตล์ แต่คนอเมริกาสนใจเรื่องแบรนด์และแพลทฟอร์ม ถ้าผู้จำหน่ายยี่ห้ออื่นมาคงจะไม่คุ้น” โมโตโรลาพยายามขายด้วยการด้วยการพ่วงออนไลน์คล้ายกับเสี่ยวมิแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ แต่กรณีเสี่ยวมิกำไรไม่ได้มาจากการขายเครื่องในราคาถูกซึ่งราคาไม่เกิน 4,000 บาทแต่รายได้มาจากอื่นๆและแอ๊พส์มากกว่า และอาจจะมีเคล็ดลับการตลาดที่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จกับรสนิยมการใช้งานของผู้บรโภคจำนวนมากในจีน ลามาสแห่งไอดีซีกล่าวว่า “เสี่ยวมิมีอะไรที่แตกต่างเป็นพิเศษหรือเปล่าหรือเป็นแค่แอนดรอยด์ที่สถานะคล้ายไอโฟน ในตลาดสหรัฐอเมริกา ถ้าจะขายเริ่มจากศูนย์และไม่มีแบรนด์เนมเห็นถ้าจะยาก” ท่านผู้อ่านก็ลองติดตามดูว่าจะเชื่อคานาลิสหรือไอดีซีผมว่าไม่เกิน 2ถึง3ปีน่าจะรู้ว่าจีนเข้าตีตลาดในอเมริกาได้หรือไม่. รศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด boonmark@stammford.edu

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : มือถือจีนพุ่งแรง – โลกาภิวัตน์

Page 168 of 805:« First« 165 166 167 168 169 170 171 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file