shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

กระทรวงวิทย์หนุนเพิ่มเด็กเรียนวิทย์

กระทรวงวิทย์ เดินหน้าเปิดห้องเรียนวิทยาศาสตร์ทั่วทุกภาค พร้อมส่งเสริมครบวงจร ตั้งเป้าเพิ่มยอดเด็กเรียนวิทย์ รองรับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนรศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่าตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2550 ได้มอบหมายให้กระทรวงวิทย์ มีหน้าที่หลักในการดำเนินโครงการสนับสนุนการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน  โดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย(โครงการ วมว.)  เพื่อบ่มเพาะนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่ระดับมัธยมปลายในการพัฒนาเพื่อเป็นฐานนักวิจัยหรือนักประดิษฐ์คิดค้นที่มีคุณภาพของประเทศในอนาคต ปัจจุบันมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ 16 แห่ง ทั่วประเทศทั้งนี้จากการนำร่องใน 5 ปีแรกพบว่านักเรียนในโครงการเข้าศึกษาต่อด้านวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับปริญญาตรีประมาณ 27% ส่วนที่เหลือยังคงเลือกศึกษาต่อในสาขาที่เป็นที่นิยมทั้งแพทย์และวิศวะ  เนื่องจากโครงการนี้ไม่ได้มีข้อบังคับ อย่างไรก็ดีเพื่อผลักดันให้มีจำนวนนักเรียนที่สนใจศึกษาต่อในสายวิทยาศาสตร์เพิ่มมากขึ้น  เป็น 50% ในโครงการระยะที่ 2 นี้ ได้มีการดำเนินการโดยใช้วิธีการที่เรียกว่าบันได 3 ขั้น ขั้นแรกคือการบ่มเพาะให้เด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นวิทยาศาสตร์และเรียนด้านวิทยาศาสตร์ที่มากกว่าหลักสูตรทั่วไป ขั้นที่สองคือการส่งต่อให้กับมหาวิทยาลัย ซึ่งมีโอกาสคัดเลือกและให้ทุนอย่างต่อเนื่อง   และขั้นที่สามคือการต่อยอดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในการรองรับการทำงานในอนาคตสำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ดูรายละเอียดได้ที่ http://scius.most.go.th.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กระทรวงวิทย์หนุนเพิ่มเด็กเรียนวิทย์

Posts related

 














‘เคลม ดิ’ ดาวเด่นจาก ‘ดีแทค แอคเซลเลอเรท’ – ฉลาดสุดๆ

ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการบ่มเพาะผู้ประกอบการด้านไอทีหน้าใหม่หรือ “สตาร์ต อัพ” ที่มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ สำหรับ โครงการดีแทค แอคเซลเลอเรท (dtac Accelerate) เมื่อหนึ่งในทีมสตาร์ตอัพของโครงการในปีนี้ คือ ทีมบริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด (Anywhere to go) ผู้ก่อตั้งและพัฒนาแอพพลิเคชั่น “เคลม ดิ” (Claim di) สามารถได้รับเงินทุนเริ่มต้นประมาณ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกลุ่มนักลงทุนแนวหน้าจากทั่วโลกโดยจุดเริ่มต้นจากดีลครั้งนี้มาจากงาน  Geeks on a  plane ที่ทาง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค และ เทเลนอร์ ดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า  และ บริษัท สามารถ มัลติมีเดีย จำกัด ร่วมกันจัดงานขึ้น และได้เชิญนักลงทุนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี  ผู้ประกอบการ และ ผู้ทรงอิทธิพลทางด้านนี้ จากทั่วโลกมายังประเทศไทย และทีม anywhere to go ได้มีโอกาสนำเสนอผลงานท่ามกลางนักลงทุนเหล่านี้ ซึ่งประกอบด้วย venture capital  รายใหญ่ เช่น 500 startup  และ Golden Gate Venture  รวมถึงนักลงทุนแนวหน้า เช่น ไมค์ ปราสาท  (Mike Prasad), ทาเคชิ อิบาร่า  (Takeshi Ebihara), รีไบรท์ พาร์ทเนอร์  (Rebright Partner),  แซมเมอร์ คาเร็ม  (Samer Karam),  อลิซ ทอมมี่ เชียร์ ( Alice Tommy Chia),  ซุปเปอร์ เอซเสซ เวนเจอร์ (Super Aces Ventures), ราวี อกราวาล (Ravi Agarwal) และ เอนเกจสปาร์ค (engageSpark)    สำหรับ “เคลม ดิ” เป็นแอพพลิเคชั่น บนโทรศัพท์มือถือที่ให้ผู้ใช้งานสามารถทำการเคลมประกันได้ ณ จุดเกิดเหตุภายใน 15 นาที และช่วยประหยัดเวลาได้มากถึง 90% โดยไม่ต้องเสียเวลารอตัวแทนจากบริษัทประกัน หรือ เซอร์เวยเยอร์ มาถ่ายรูป แต่ผู้ใช้สามารถถ่ายรูปแล้วส่งให้บริษัทประกันทางแอพพลิเคชั่น ส่วนบริษัทประกันก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายลง 80% และลดการโกงได้ 100% เนื่องจากการส่งเซอร์เวยเยอร์ออกไปยังจุดเกิดเหตุ 1 ครั้ง ใน กทม.มีต้นทุน 550 บาทต่อครั้ง หรือต่อ 1 ทรานเซคชั่นเคลมประกัน หากใช้แอพพลิเคชั่นจะเสียค่าบริการให้บริษัทเพียง 50 บาท ต่อครั้งลดต้นทุนได้ถึง 500 บาทนายกิตตินันท์ อนุพันธ์ ซีอีโอบริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด กล่าวว่า เงินที่ได้จากนักลงทุนได้เตรียมนำไปทำการตลาดเพื่อให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนรู้จัก เคลม ดิ มากยิ่งขึ้น เพื่อให้มีการดาวน์ โหลด เมื่อขับรถประสบอุบัติเหตุต้องเรียกประกันภัยก็ให้นึกถึงและเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นของเรา รวมถึงต้องวางแผนการตลาดทั้งในประเทศ และการขยายตลาดไปยังประเทศอื่น ๆ ในปีหน้า อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง อินโดนีเซีย จีน ไต้หวัน และประเทศที่เทเลนอร์เข้าไปทำธุรกิจอยู่“เคลม ดิ” เปิดให้ดาวน์โหลดตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ถูกต่อยอดมาจาก เอนนี่แวร์ ทู เคลม ซึ่งที่ผ่านมา มีบริษัทประกันภัยใช้งานแล้ว 11 ราย คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 40% ของตลาดประกันภัยรถยนต์ที่มีผู้ซื้อกรมธรรม์จำนวน 8 ล้านคัน และมีการทำทรานเซคชั่นเคลมประกันภัยทุกประเภทจำนวน 14 ล้านครั้งต่อปี ซึ่งปัจจุบันได้นำแอพพลิเคชั่น เคลม ดิ ไปเสนอให้บริษัทประกันแล้ว 4 รายและ 1 รายจะมีการเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้” นายกิตตินันท์ กล่าวด้าน นายไคลี อึ้ง หุ้นส่วนนักลงทุนของ 500 สตาร์ตอัพ ของภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ในช่วง 12 เดือน ที่ผ่านมาระบบนิเวศ หรือแอพพลิเคชั่น อีโคซิสเต็มของไทยเติบโตและมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก นักลงทุนจากทั่วโลกต่างโฟกัสมายังไทย ซึ่งปัจจุบัน 500 สตาร์ต อัพได้ลงทุนใน 800 บริษัท สตาร์ตอัพใน 40 ประเทศทั่วโลก สำหรับในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มีการลงทุนในไทยมากถึง 40% ถือเป็นสัดส่วนมากกว่าในสิงคโปร์ โดยในไทยได้เข้าไปลงทุนแล้วใน 7 บริษัท ที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ประกอบด้วย ประกอบด้วย Noonswoon, Play  basic, Builk, EKO, Pomelo, Taamkru และล่าสุด คือ Claim di“การเลือกลงทุนในสตารต์อัพ ทางกลุ่มจะมองว่าบริษัทนั้น ๆ จะต้องมีแนวโน้มที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และมีโอกาสที่จะขายเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมให้กับบริษัทรายใหญ่ได้ ซึ่งทาง เคลม ดิ มีศักยภาพที่จะเดินไปถึงจุดนั้น โดยใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา บริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก ก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ในอนาคต”ถือเป็นการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ปัจจุบันโครงการอยู่ในระหว่างบูธแคมป์ เดือนที่ 3 และจะมีการเดโม เดย์ (DEMO Day) ในวันที่ 19 ส.ค.นี้.จิราวัฒน์ จารุพันธ์jirawatj@dailynews.co.th

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘เคลม ดิ’ ดาวเด่นจาก ‘ดีแทค แอคเซลเลอเรท’ – ฉลาดสุดๆ

กสทช.ระดมสมองหารือป้องเด็ก-สตรีในสื่อทีวี

วันนี้ (18ส.ค.) ที่โรงแรมเดอะสุโกศล สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) จัดเวทีเสวนา เรื่อง การปกป้องสิทธิเด็กและสตรี ในรายการข่าวทางสื่อโทรทัศน์ โดย น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช.และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ต้องการให้เกิดความร่วมมือของสื่อโทรทัศน์ทุกประเภท มีมาตรฐานและแนวปฏิบัติการนำเสนอข่าวสารที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กและสตรีอย่างเหมาะสม ไม่ละเมิดสิทธิและความเป็นส่วนตัว รวมถึงปรับทัศนคติการนำเสนอตัวละครของเด็กและสตรีในละครต่างๆซึ่งในขณะนี้มีรายการต่างๆที่ร้องเรียนมายัง กสทช.และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาในหลายกระบวนการนอกจากนี้ขอให้สถานีโทรทัศน์ระบบอะนาล็อก จัดทำแผนแนวทางปฎิบัติวิชาชีพในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมการกำกับกันเอง ตามม.39 และม.40 พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 เพื่อนนำไปเป็นแบบอย่างให้แก่ช่องทีวีดิจิตอล ที่ในขณะนี้แผนที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลเสนอมานั้นยังกว้างมากจนเกินไป ซึ่งคาดว่าอาจจะมีการจัดทำกิจกรรมสร้างความเข้าใจเพื่อสร้างแนวทางการปฎิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกันนพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า มองว่าการนำเสนอข่าวสารยังไม่ค่อยน่าห่วง เมื่อเทียบกับละคร ภาพยนตร์ การ์ตูน ในสื่อโทรทัศน์ดิจิตอล ที่นำเอาภาพยนตร์เน้นรสชาติ อารมณ์ความรุนแรงของตัวละคร อารมณ์ความรุนแรงทางเพศ ภาษาพูดที่ไม่เหมาะสม นำมาเสนอมากกว่าเน้นเรื่องความมีคุณค่า ซึ่งถือว่าการนำเสนอลักษณะดังกล่าวเป็นการละเมิดเด็ก และสตรีด้าน ผศ. รุจน์ โกมลบุตร คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การกำหนดเนื้อหาในละครเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องได้รับการปฏิรูป เพราะความรุนแรงที่แฝงมาในสื่อบันเทิงอันตรายต่อคนดูที่ไม่ทันตั้งรับในเรื่องนี้ ซึ่งกสท. ควรเข้มงวดเรื่องเนื้อหาให้มากขึ้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสทช.ระดมสมองหารือป้องเด็ก-สตรีในสื่อทีวี

Page 175 of 805:« First« 172 173 174 175 176 177 178 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file