shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

องค์กรผู้บริโภค พบ ปปช.วอนเร่งตรวจสอบคดีฮั้วประมูล 3 จี

วันนี้ (25 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือต่อนายชูศักดิ์ ปริปุญโญ รองเลขาธิการ ปปช.เพื่อทวงถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบการฮั้วประมูลและธรรมาภิบาลในการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ ที่จัดขึ้นโดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ที่ทางสหพันธ์ฯ ได้ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2555ทั้งนี้เนื่องจากขณะนี้ ระยะเวลานานนับปีประกอบกับกรณีดังกล่าวมีผลกระทบต่อประโยชน์ของประเทศชาติ ถือเป็นจำนวนเงินมหาศาลนอกจากนี้ หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง การปล่อยให้เรื่องดังกล่าวช้าออกไปจะทำให้บุคคลที่กระทำความผิดอยู่ในตำแหน่ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินทางนโยบายที่ทำให้ประเทศชาติต้องเสียหายเพิ่มขึ้น อาทิ การออกประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาติสัมปทาน หรือ สัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่พ.ศ.2556 นอกจากนี้ยังมีการออกแบบการประมูลคลื่นความถี่ที่หมดสัญญาสัมปทานในย่าน 1800 แมกะเฮิร์ตซและ ย่านความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ เป็นต้น“สหพันธ์ฯอยากทราบความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงอยากขอให้ปปช.พิจารณาอย่างเร่งด่วนและให้ความเป็นธรรมแก่ประเทศชาติด้วย เพราะในอนาคตจะมีการจัดประมูลเกิดขึ้น คลื่นความถี่เป็นสมบัติของชาติที่ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง โดยรองเลขาธิการปปช.ได้ชี้แจงมาว่าอนุกรรมการปปช.ได้ชี้มูลเรื่องดังกล่าวไปแล้วว่ามีความผิดจริงแต่ขณะนี้กรรมการชุดใหญ่อยู่ระหว่างพิจารณาทางเอกสารของกรรมการ กสทช.ที่ถูกกล่าวหาเพื่อชี้แจงเพิ่มเติมคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 31 ก.ค. นี้ เพื่อจะได้พิจารณาตัดสินต่อไปพร้อมยื่นยันว่าการตัดสินของกรรมการชุดใหญ่จะมีความอิสระจากอนุกรรมการที่ส่งเรื่องขึ้นมา” นางสาวบุญยืน กล่าว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : องค์กรผู้บริโภค พบ ปปช.วอนเร่งตรวจสอบคดีฮั้วประมูล 3 จี

Posts related

 














หน้าปกและมาสคอตในตำนาน – 1001

อีกไม่ถึงหนึ่งเดือน มหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทยจะเปิดเทอมภาคต้น ปีการศึกษา  2557  แล้วครับ ในเทอมต้นนี้  ผมจะสอนวิชาบังคับตัวหนึ่งของหลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ทั่วโลกคือ วิชาระบบปฏิบัติการ (Operating System) ดังนั้นผมจึงเตรียมตำราที่จะใช้ประกอบการสอนวิชานี้ ซึ่งมีหน้าปกเป็นรูปไดโนเสาร์ ดังนั้น คนในวงการคอมพิวเตอร์จึงเรียกหนังสือเล่มนี้ว่าหนังสือไดโนเสาร์ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไดโนเสาร์เลย เพราะผู้เขียนต้องการเปรียบเทียบระบบปฏิบัติการแต่ละชนิดว่าเหมือนไดโนเสาร์แต่ละประเภทนั่นเอง แต่นอกจากหนังสือระบบปฏิบัติการเล่มนี้ที่มีหน้าปกคิดนอกกรอบ แล้ว ยังมีหนังสือคอมพิวเตอร์ในตำนานอีกหลายเล่มที่มีหน้าปกแปลก ๆ  ดังนี้ครับ ตำราวิชาตัวแปลโปรแกรมหรือคอมไพเลอร์ที่ใช้เรียนทั่วโลกมีหน้าปกเป็นรูปอัศวินต่อสู้มังกร ดังนั้นวงการคอมพิวเตอร์เรียกตำราเล่มนี้ว่า หนังสือมังกร หรือ Dragon Book เพราะผู้เขียนต้องการเปรียบเทียบว่า ต่อสู้ความสลับซับซ้อนของการสร้างตัวโปรแกรมครับ คัมภีร์โปรแกรมภาษาเพิร์ล (Perl) ซึ่งเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการประมวลผลข้อความหรือจัดการเว็บไซต์ทั้งหลายมีหน้าปกเป็นรูปอูฐ ดังนั้นวงการไอทีเรียกหนังสือเล่มนี้ว่าหนังสืออูฐหรือ Camel Book นอกจากหน้าปกหนังสือคอมพิวเตอร์เหล่านี้ ในวงการคอมพิวเตอร์ยังมีมาสคอตหรือตุ๊กตาสัญลักษณ์ที่โด่งดังซึ่งรู้จักกันอย่างแพร่หลายเช่นกันครับ ทุกวันนี้ ใคร ๆ ก็รู้จักมาสคอตของโปรแกรมไลน์หรือเกมแองกรี้เบิร์ด แต่ในวงการวิชาการคอมพิวเตอร์ก็มีมาสคอตที่โด่งดังหลายตัวเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ปิศาจน้อยหรือ daemon แห่งระบบปฏิบัติการยูนิกซ์บีเอสดี ซึ่งหนังสือที่อธิบายการทำงานของระบบปฏิบัติการยูนิกซ์บีเอสดีก็ใช้เจ้าปิศาจน้อยในหน้าปกเช่นกัน มาสคอตตัวถัดมาคือเพนกวินผู้น่ารักแห่งระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ ซึ่งพัฒนามาจากระบบปฏิบัติการยูนิกซ์เช่นกันครับ เพนกวินตัวนี้มีชื่อว่าทักซ์ (tux) และมาสคอตตัวสุดท้ายที่ผมจะแนะนำในวันนี้คือดุ๊ค (duke) ซึ่งเป็นตัวแทนของภาษาคอมพิวเตอร์ที่นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ทุกคนต้องเรียนคือ ภาษาจาวา ครับ วงการวิชาการคอมพิวเตอร์ไม่ได้มีแต่เรื่องแห้งแล้งหรือตัวเลขที่น่าเบื่อเสมอไป แต่ยังมีความคิดสร้างสรรค์ การคิดนอกกรอบและเกร็ดสนุกอีกมากมายครับ โปรดติดตามอ่านได้ในคอลัมน์ 1001  ครับ !.  อ.ธงชัย โรจน์กังสดาล ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย thongnet@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หน้าปกและมาสคอตในตำนาน – 1001

กสทช.ตั้งจุดรับคืนแบต-มือถือเก่า

กสทช. ตั้งจุดรับคืนแบตเตอรี่มือถือเก่าทั่วกทม.-ปริมณฑล 300 จุด ดึงกรมควบคุมมลพิษ คัดแยกขยะพิษออกจากขยะทั่วไป  รองรับชิ้นส่วนมือถือพุ่งสูง นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันการใช้งานมือถือมีจำนวนมากกว่า 110 ล้านเลขหมาย ส่งผลให้ชิ้นส่วนมือถือมีจำนวนมากขึ้นตามการใช้งานที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า WEEE ที่เป็นซากผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าซึ่งใช้งานไม่ได้ หรือไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงหมดอายุการใช้งานแล้ว  จึงจัดทำกล่องรับคืนแบตเตอรี่เก่า  ตั้งไว้บริเวณศูนย์บริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าทั่วไป  กว่า 300 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปรวบรวมจัดการแยกขยะมีพิษดังกล่าวออกจากขยะทั่วไป สำหรับปริมาณข้อมูลกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า แนวโน้มปริมาณซากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยปี พ.ศ.2556 มีปริมาณ 20.88 ล้านเครื่อง โดยโทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์บ้านมีสัดส่วนสูงสุด 9.14 ล้านเครื่อง และในปี พ.ศ.2557 คาดว่าปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์จะเพิ่มเป็น 22.08 ล้านเครื่อง ส่วนใหญ่เป็นโทรศัพท์มือถือ–บ้าน 9.75 ล้านเครื่อง และคาดว่าโทรศัพท์มือถือ -บ้าน จะเพิ่มเป็น 10.9 ล้านเครื่องในปี 2559 ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า การทิ้งซากโทรศัพท์มือถือและแบตเตอรี่ปะปนไปกับขยะมูลฝอยชุมชน วัสดุห่อหุ้มโทรศัพท์และแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพ ผุกร่อน สารเคมีภายในที่เสื่อมสภาพจะไหลออกสู่สิ่งแวดล้อม  จึงต้องจัดกิจกรรมรองรับขยะอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ด้านโทรคมนาคม “คืนแบตเก่า เรารักษ์โลก” เพื่อให้ผู้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนประชาชนทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสทช.ตั้งจุดรับคืนแบต-มือถือเก่า

Page 225 of 805:« First« 222 223 224 225 226 227 228 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file