shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

แว่นตาสามมิติกับเกมบนเฟซบุ๊ก – รอบรู้ไอที รอบโลกเทคโนโลยี

พูดถึงเกมแล้วก็ต้องนึกถึงอะไรที่มันสนุก ๆ ใช่ไหมครับ เชื่อว่าคุณผู้อ่านเองสมัยเด็ก ๆ หรือแม้แต่ในปัจจุบันก็ตามน่าจะเคยเล่นเกมคอมพิวเตอร์กันมาบ้าง เทียบกับสมัยก่อนแล้วเกมคอมพิวเตอร์เดี๋ยวนี้ก็ถือว่าพัฒนาไปมาก จากเกมกดหน้าจอขาวดำ สัตว์เลี้ยงทามาก็อตจิ เกมเพลย์สเตชั่นวันในสมัยสิบกว่าปีที่แล้ว มาจนถึงสมัยของเกมคอมพิวเตอร์แนว RPG หรือแนวที่ผู้เล่นรับบทบาทเป็นตัวละครในเกมซึ่งได้รับความนิยมมาก เพราะให้ความรู้สึกเสมือนกับว่าเราได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยในเกมนั้นจริง ๆ แต่ด้วยโลกเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุดหมุน ปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีการสร้างโลกเสมือน (Virtual Reality) เข้ามาช่วยทำให้สามารถสร้างลูกเล่นในเกม RPG ให้ตื่นตาตื่นใจได้มากกว่าเดิม ที่สำคัญคือสมจริงยิ่งขึ้นเสมือนกับว่าเราได้หลุดเข้าไปโลดแล่นในมิติแห่งเกมนั้นจริง ๆ เลยทีเดียวครับ วันพุธนี้ผมจะพาคุณผู้อ่านคอลัมน์ของผมมารู้จักกับ Oculus Rift หรือแว่นตาสามมิติซึ่งได้รับการกล่าวถึงในนิตยสาร Future Gamer เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ครับ แว่นนี้ถูกออกแบบมาสำหรับเล่นเกมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) เป็นอุปกรณ์สวมศีรษะที่มีลักษณะคล้ายกับที่คาดตานอนหลับหรือแว่นตาขนาดใหญ่ โดยเมื่อสวมแว่นนี้แล้วเราก็จะมองเห็นภาพรอบตัวเป็นแต่ภาพสามมิติที่ Oculus Rift สร้างขึ้นมาเท่านั้น เลยเหมือนกับว่าเราหลุดจากโลกปัจจุบันเข้าไปอยู่ในโลกของเกมนั้นจริง ๆ เลยล่ะครับ  ว่ากันจริง ๆ แล้ววิธีแสดงภาพสามมิติแบบโลกเสมือนหรือ Virtual Reality (VR) ด้วยอุปกรณ์สวมศีรษะนี้ก็ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่อะไร เพราะมีการนำมาใช้ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1990 หรือราว ๆ 24 ปีที่แล้ว เพียงแต่ในสมัยนั้นผลลัพธ์ที่ได้ยังมีคุณภาพไม่ดีและมีปัญหาในหลาย ๆ เรื่อง เช่น การประมวลผลที่ทำได้เฉพาะงานง่าย ๆ ที่ไม่ซับซ้อน การตอบสนองที่เชื่องช้า ตลอดจนความละเอียดของภาพที่ถือได้ว่าหยาบมาก ที่สำคัญคือราคาครับ ในสมัยนั้นราคาของอุปกรณ์ประเภทนี้แพงมาก นอกจากห้องวิจัยทดลองแล้วก็ยากที่บุคคลธรรมดาทั่วไปจะซื้อหานำมาพัฒนาเป็นอุปกรณ์สำหรับการเล่นเกมหรือเพื่อการค้าระดับครัวเรือนได้ ซึ่งประเด็นปัญหาเหล่านี้ล่ะครับคือสิ่งที่ Oculus Rift พยายามจะแก้ให้ได้ในปัจจุบัน ในส่วนฮาร์ดแวร์ของ Oculus Rift นั้นก็ถือได้ว่าน่าสนใจมากทีเดียวครับ ที่เลนส์ทั้ง 2 ข้างมีจอภาพ LCD ขนาดถึง 7 นิ้วอยู่ด้านหน้าสำหรับใช้แสดงผลแบบ Stereoscopic 3D หรือภาพสามมิตินั่นเอง โดยภาพที่แสดงสำหรับ    ตาซ้ายและตาขวาจะมีความเหลื่อมกันเล็กน้อยเลียนแบบจากการมองเห็นของตาทั้งสอง     ข้างของมนุษย์เรานั่นเองครับ ส่วนสีที่แสดงก็สามารถแสดงได้ถึง 24 บิตทำให้ได้สีที่สวยงามสมจริง แถมด้วยรูปลักษณ์การออก แบบพิเศษของ Oculus Rift เองที่ให้ภาพที่ใกล้เคียงกับการมองเห็นปกติของสายตาของมนุษย์เราเอามาก ๆ เรียกได้ว่าถ้าดูแต่ภาพแล้วก็สมจริงสุด ๆ เลยละครับ ความสามารถเด่น ๆ ที่เป็นจุดขายของ Oculus Rift ก็คือ มุมมองที่กว้าง ทำให้ไม่มีเงาของแว่น ขอบดำของเลนส์ หรือภาพจากอะไรก็ตามในโลกแห่งความเป็นจริงหลุดรอดเข้ามารบกวนสายตาและอารมณ์ของผู้ใช้ได้เลยครับ ยิ่งรวมเข้ากับภาพความคมชัดสูงที่มีความละเอียดระดับ Full HD ด้วยแล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจเลยนะครับถ้าคุณผู้อ่านจะบังเอิญไปเห็นคนสวม Oculus Rift กำลังเล่นเกมแล้วออกอาการหรือออกท่าทางอินในเกมนั้น ๆ เอามาก ๆ  ไม่สนใจใครที่ยืนมุงดูอยู่เลย ก็เพราะ Oculus Rift ได้พาเขาคนนั้นเข้าไปสู่โลกเสมือนจริงในเกมเรียบร้อยแล้วนั่นเองครับ เทคโนโลยี Oculus Rift นี้ถือได้ว่าเนื้อหอมไม่เบาเลยครับ เพราะในเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง ก็ถูกเฟซบุ๊กเข้าซื้อกิจการไปด้วยมูลค่ามากถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภายหลังจากการเข้าซื้อกิจการ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ทางเฟซบุ๊กจะเน้นการพัฒนา Oculus Rift สำหรับการเล่นเกมก่อนเป็นอันดับแรก โดยจะสนับสนุนให้มีเกมออกมารองรับการใช้งานกับแว่นสามมิตินี้ในอนาคต หลังจากนั้นจึงจะหันไปพัฒนาการใช้งานสำหรับแอพพลิเคชั่นเสมือนจริงอื่น ๆ เช่น การพบแพทย์แบบเผชิญหน้ากันในโลกเสมือน การเรียนในห้องเรียนร่วมกับผู้อื่นทั่วโลก การรับชมการแข่งขันต่าง ๆ แบบเสมือนอยู่ติดสนามจริง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผลจากการที่เฟซบุ๊กประกาศซื้อ Oculus Rift ไปด้วยมูลค่าที่สูงมากนั้น กลับสร้างความไม่มั่นใจและความกังวลให้กับบรรดาเกมเมอร์และนักพัฒนาเกมหลายรายที่ก่อนนี้ต่างเฝ้ารอการมาของ Oculus Rift นี้อยู่ สาเหตุก็มาจากความไม่มั่นใจในแนวทางการพัฒนา Oculus Rift ต่อไปในอนาคตของฝั่งเฟซบุ๊ก เพราะยังไงเสียเฟซบุ๊กก็ไม่ใช่บริษัทที่มุ่งพัฒนาเกมโดยตรง แต่เป็นบริษัทโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เน้นการสร้างยอดผู้ใช้ ถึงขนาดที่ มาร์คัส เพิร์สสัน ผู้สร้างเกม Minecraft ที่เป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบันได้ออกมาประกาศว่า เขาไม่ต้องการที่จะทำงานร่วมกับเฟซบุ๊กซึ่งยังไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัดในการพัฒนา Oculus Rift  ความเปลี่ยนแปลงมักนำมาซึ่งความกังขา ไม่แน่ใจ และกังวลใจเสมอนะครับ กรณี Oculus Rift กับเฟซบุ๊กนี้ ตอนนี้คงยังเร็วไปที่จะให้คำตอบฟันธงว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของเฟซบุ๊กถูกต้องหรือไม่ พวกเราคงต้องจับตารอดูกันต่อไปครับ ว่าความสามารถของนักพัฒนาและผู้เชี่ยว ชาญจากทั้ง Oculus Rift และเฟซบุ๊กรวมถึงมูลค่าเม็ดเงินมหาศาลที่ลงไปนั้น จะให้ผลออกมาเป็นอย่างไร จะเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะย่างก้าวแห่งความสำเร็จของศตวรรษที่ 21 นี้ หรือจะเป็นก้าวที่ผิดพลาดสำหรับเป็นบทเรียนให้กับเฟซบุ๊กและนักลงทุนในภายภาคหน้า คงต้องจับตาดูกันครับ. ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต chutisant.k@rsu.ac.th

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แว่นตาสามมิติกับเกมบนเฟซบุ๊ก – รอบรู้ไอที รอบโลกเทคโนโลยี

Posts related

 














Google Translate ต่อยอดการศึกษาไทย

ด้วยจำนวนประชากรในไทยที่มีจำนวนมาก การแข่งขันยิ่งสูงขึ้น การพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพจึงต้องเริ่มด้วยการศึกษา แต่ด้วยความเหลื่อมล้ำทางสังคม จึงทำให้กลุ่มคนที่มีรายได้น้อยไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาที่ดีเท่าที่ควร  อาจารย์อรภัค สุวรรณภักดี นักวิชาการอิสระด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และผู้ก่อตั้งชมรมเรียนฟรี กับ สถาบันเอ็มไอที เล่าว่า แม้ว่าสถาบันต่าง ๆ อาทิ MIT Open Courseware จะเปิดโอกาสให้เรียนฟรีมาหลายปีแล้วผ่านโซเชียลมีเดีย แต่ในประเทศไทยถือว่าการเข้าถึงยังน้อย เนื่องจากคนไทยส่วนมากอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก ถึงอ่านออกก็มีปัญหาในการอ่านตำราเรียนที่ยากและเอกสารทางวิชาการต่าง ๆ จึงทำให้เกิดอุปสรรคในการต่อยอดองค์ความรู้เรียนฟรี ในขณะที่บางประเทศที่สามารถอ่านภาษาอังกฤษได้ เช่น อินเดีย หรืออื่น ๆ สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนฟรีจากสถาบันระดับโลกได้ง่าย ๆ อีกทั้งบางประเทศที่มีการสนับสนุนจากรัฐบาลจะมีการแปลแหล่งเรียนฟรีต่าง ๆ ให้อยู่ในภาษาท้องถิ่น ทำให้มีคนที่ไม่รู้ภาษาสามารถเข้าถึงตำราที่แปลมาแล้วได้ แต่อุปสรรคในการพัฒนาการศึกษาของโลก ยังคงเหมือนเดิม คือ ภาษา แม้ว่าจะสามารถศึกษาฟรีได้ก็จริง แต่ก็ยังคงอ่านไม่ออกอยู่ดี จะรอการแปลภาษาโดยรัฐบาลต้องตั้งงบประมาณเพื่อจัดล่ามมาแปล ก็จะยุ่งยากและใช้เวลา “บางประเทศในอาเซียนมีการนำเอาเนื้อหาของ MIT Open Courseware มาแปลแต่ต้องใช้งบประมาณสูงและเปลืองเวลาในการแปล บางครั้งแม่แบบมีการปรับปรุง หรืออัพเดทข้อมูลก็มีผลกระทบกับเวลาที่ใช้ในการแปล” ล่าสุด Google translate ในเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด สามารถต่อยอดการพัฒนาการศึกษาเรียนฟรี กับ MIT ได้ เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้าถึงแหล่งเรียนฟรีอย่าง Courseware ต่าง ๆ ที่สถาบันระดับโลกนำมาแจกฟรีได้ง่ายขึ้น  ถือเป็นการพัฒนาให้มีการแปลได้ถูกต้องมากขึ้น สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเรียนฟรี เช่น การแปลโครงสร้างหลักสูตรต่าง ๆ เนื้อหารายวิชา พร้อมทั้งสามารถแปลอีบุ๊ก หรือข่าวสารสำคัญในระดับโลก แต่หากไม่รู้ภาษาอังกฤษ และไม่มีเครื่องแปลออนไลน์ จะไม่สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องได้ตรงตามเวลา สำหรับฟีเจอร์ของ Google Translate สามารถแปลได้เป็นคำ เป็นข้อความ และมีความสามารถเพิ่มในการแปล Word และ PDF ไฟล์ได้ โดยต้องอัพโหลดข้อมูลขึ้นไป และสามารถลิงก์ต่อกับ MIT Open Courseware ได้ ทำให้อุปสรรคสำหรับผู้ต้องการศึกษาหลักสูตรเรียนฟรีลดลง ส่งผลให้อุปสรรคภาษาจะไม่เป็นปัญหาใหญ่อีกต่อไป อย่างไรก็ดี Google Translate ยังมีข้อจำกัดบางด้านในการแปลภาษาซึ่งเชื่อว่า จะมีความลงตัวมากขึ้นในอนาคต สำหรับภาษาไทยได้มีการแปลเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง และในอดีตยังมีความไม่ลงตัว หากเทียบกับปัจจุบัน ทั้งนี้ จากการได้ทดลองนำเอา Google Translate มาทดสอบประยุกต์ใช้ในการอ่านเนื้อหาเรียนฟรี ocw.mit.edu และแหล่งการเรียนฟรีระดับโลกอื่น ๆ พบว่า เทคโนโลยีตัวนี้ เมื่อนำมาประยุกต์แล้วถือเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาที่มีคุณค่ามหาศาลกับวงการศึกษาไทย เพราะครูอาจารย์ นักเรียน นัก ศึกษาหรือผู้ที่ต้องการศึกษาทั่วไป นอกจากนี้ Google Translate สามารถประหยัดงบประมาณของรัฐบาลในเรื่องนี้ได้หลายร้อยล้านบาท ในเรื่องของการใช้งานเทคโนโลยี สามารถศึกษาการใช้ Google translate และทดลองทำได้ด้วยตนเอง แม้ไม่ง่าย แต่ก็สามารถทำได้ โดยนำมาแปลข่าวจาก CNN, Wall Street Journal, Bloomberg และแหล่งข่าวอื่น ๆ ในด้านเศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ ในอีก 3 ปีข้างหน้า การเชื่อมต่อวัฒนธรรม โดยการรับรู้ข่าวสารนานาชาติทุกมุมโลกมีผลกับการดำรงชีวิต และการทำธุรกิจและอื่น ๆ เราสามารถใช้ Google Translate แปลภาษาในอาเซียนมาอ่านก็ได้เช่นกัน ทำให้โลกของการสื่อสารและการเชื่อมต่อพัฒนาทั้งทางด้านการศึกษา การเมือง การค้า เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม แนะนำลองศึกษารายละเอียดง่าย ๆ ที่ http://www.facebook.com/MITOCWCLUBTHAILAND หวังว่าหลักสูตรเรียนฟรีออนไลน์ จะทำให้คนไทยกลุ่มใหญ่ที่มีปัญหาการเข้าถึงการศึกษาจะได้ประโยชน์จากการเปิดกว้างสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้. กัญณัฏฐ์ บุตรดี Kanyanat25@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : Google Translate ต่อยอดการศึกษาไทย

เดลล์ อินสไปรอน 5000 โน้ตบุ๊ก สีสวย – ฉลาดใช้

เดลล์ส่งโน้ตบุ๊ก เดลล์ รุ่น อินสไปรอน 5000 ซีรีส์ 5547 มาให้ทดสอบ เห็นครั้งแรกแทบจะถอดใจ  ได้แต่นึกในใจ แบกกันหลังหักอีกแน่  เลยตัดสินใจวางทิ้งไว้ในตู้เกือบสัปดาห์ จนกระทั่งมีความจำเป็นต้องพึ่งพาโน้ตบุ๊ก  จึงหยิบมาใช้ ทำให้รับรู้ได้ว่า แม้ขนาดจอจะใหญ่ แต่เดลล์กลับออกแบบตัวเครื่องได้บาง และ น้ำหนักไม่มากเท่าไหร่นัก เดลล์ อินสไปรอน 5000 ซีรีส์ 5547 ตัวเครื่องบางเบาเพียง  21.8 มม. มีกล้องเอชดี เว็บแคม รองรับการทำงานวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ทั้งภาพและเสียง แบตเตอรี่อึดได้ทั้งวัน แบบสบาย ๆ เทคโนโลยีดูอัลแบรนด์ ไวเลส ทำให้เชื่อมต่อกับไว-ไฟ ได้เร็วและเสถียรมากขึ้น ราคาเริ่มต้น 21,490 บาท ที่ชอบคือ ดีไซน์ตัวเครื่อง ที่ออกแบบฝาพับแบบเทลาด ทำให้ดูบาง เป็นวัสดุอะลูมิเนียม สีฟ้าน้ำทะเลสวยงาม ดูหรูหรา และสวยงามจริง ๆ หน่วยประมวลผล เป็นอินเทลเจนเนเรชั่น 4 ไอ 3 จอของอินสไปรอนรุ่นนี้คมชัดสวยงาม วันก่อน เปิดจอแล้วเสียบเข้ากับลำโพงแบบเอ็กซเทอร์นัล เต้น T 25 กับผองเพื่อน  สมาชิกที่เต้นแถวสอง ถึงกับชมว่า ภาพบนจอสวยและคมชัด ในมุมมองแบบกว้าง เดลล์รุ่นนี้ ราคาเริ่มต้น 21,490 บาท ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ ยังมีความเชื่อมั่นว่า แม้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต จะได้รับความนิยมจนกระทบต่อตลาดคอมพิวเตอร์ทั้งพีซีและโน้ตบุ๊ก แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ผู้ใช้แท็บเล็ตก็ยังจะหาซื้อโน้ตบุ๊กไว้ใช้งานควบคู่กันอีกเครื่อง เพราะแท็บเล็ตไม่สามารถตอบสนองการทำงานได้ทุกอย่าง การเลือกซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ ขึ้นกับการนำไปใช้เป็นหลัก ซื้อมาแล้วก็ใช้ให้คุ้มค่า เพราะแต่ละอย่างราคาไม่ต่ำกว่าหมื่น.  ปรารถนา ฉายประเสริฐ prathana.chai@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เดลล์ อินสไปรอน 5000 โน้ตบุ๊ก สีสวย – ฉลาดใช้

Page 233 of 805:« First« 230 231 232 233 234 235 236 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file