นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดผยว่า ต้องการให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ใช้คลื่น 2 จีที่มีอยู่เดิมและยังว่างจากการใช้งาน นำมาจัดสรรคลื่นเพื่อให้บริการคนมีรายได้น้อย โดยคิดค่าบริการรายเดือนไม่เกิน 150 บาท ซึ่งอาจของบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐให้ช่วยส่วนหนึ่งด้วย ทั้งนี้ เพราะทั้งสองหน่วยงานถือเป็นหน่วยงานโทรคมนาคมของประเทศ จึงควรมีการจัดสรรคลื่นที่ถือครองอยู่นำมาให้บริการดังกล่าว เพราะการแสวงหากำไรเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการเอกชนบนคลื่น 3 จี 2.1 กิกะเฮิร์ตซ ซึ่งอาจมุ่งเจาะกลุ่มคนที่มีความต้องการใช้งานดาต้าสูง แต่สำหรับคนมีรายได้น้อยต้องการเพียงคลื่นความถี่ที่สามารถสื่อสารได้ในราคาถูกปัจจุบัน ทีโอที และ กสท มีคลื่นที่สามารถนำมาจัดสรรได้บางส่วน เช่น คลื่น 800 2300 และ 2600 เมกะเฮิร์ตซ เป็นต้น ซึ่งสามารถชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ความจำเป็นในการใช้งานและยังไม่คืนกลับไปที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้”มีแผนให้ทีโอที และ กสท รวมหน่วยธุรกิจที่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อจะได้ไม่แข่งขันกันเอง เช่น การให้เช่าสถานีฐาน (ทาวเวอร์โค) เนื่องจากขณะนี้ทั้งสองหน่วยงานต้องเร่งปรับตัวสร้างรายได้หลังต้องนำส่งรายได้จากสัมปทานให้กับกสทช. ตามมาตรา 84 พ.ร.บ. กสทช. ตั้งแต่ ปี 2557 เป็นต้นไป” นายสุรชัย กล่าว
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ปลัดไอซีที ใช้คลื่น 2จี ทีโอที-กสท ให้บริการ 150 บ./เดือน
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs
นายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เปิดเผยว่า อพวช. ได้มีการจัดการแข่งขันจรวดขวดน้ำระดับประเทศสำหรับเยาวชนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 จนถึงปี พ.ศ. 2556 โดยจัด เป็นครั้งที่ 12 แล้ว โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท คือ ความไกลและความแม่นยำ ซึ่งในแต่ละปีจะเห็นพัฒนาการการประดิษฐ์จรวดของเยาวชนพัฒนาขึ้นทุกปีจน อพวช. ต้องจำกัดแรงดันอากาศ รูปแบบการประดิษฐ์จรวด เพื่อให้เหมาะสมกับสนามที่ทำการแข่งขัน ดังนั้นเพื่อเป็นการต่อยอดจากรุ่นเยาวชน อพวช. ร่วมกับ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เสริมสุข จำกัด และบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดโอกาสสำหรับประชาชนทั่วไป จัดการแข่งขันจรวดขวดน้ำระดับมืออาชีพ ครั้งที่ 1 ขึ้น โดยกำหนดหัวข้อการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภทคือ 1. ประเภทเทคโนโลยีสร้างสรรค์ ที่เน้นให้ผู้แข่งขันสร้างสรรค์จรวดขวดน้ำที่ดูตื่นตาตื่นใจ โดยนำเทคนิคต่าง ๆ มาผสมผสาน เช่น การทำจรวด 2-3 ตอนการทำจรวดแยกส่วน การปล่อยน้ำสี หรือจรวดกางร่ม ซึ่งจะมีการกำหนดพื้นที่ในการตกเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสิน โดยการแข่งขันจรวดประเภทเทคโนโลยีสร้างสรรค์จะตัดสินจากการให้คะแนนของคณะกรรมการและผู้เข้าชม 2. การแข่งขันประเภทลอยนาน ตัดสินโดยการวัดเวลาที่จรวดขวดน้ำลอยในอากาศได้นานที่สุดและตกในพื้นที่ที่กำหนด และ 3.ประเภทยิงไกล โดยปกติ อพวช. จะจำกัดความดันอากาศที่ 40 ปอนด์ต่อตางรางนิ้ว ซึ่งค่าเฉลี่ยที่จรวดขวดน้ำไปได้ไกลประมาณ 300 เมตร แต่สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ อพวช. จะไม่กำหนดแรงดัน ฐานปล่อยจรวดขวดน้ำ รวมถึงรูปแบบ แต่จะวัดระยะขั้นต่ำที่ 270 เมตรขึ้นไป ทั้งนี้จากการจัดการแข่งขันจรวดขวดน้ำระดับมืออาชีพในครั้งนี้ อพวช. หวังเป็นเวทีให้ผู้มีความสนใจในจรวดขวดน้ำได้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคนิคต่าง ๆ รวมถึงการนำความรู้พื้นฐานทางฟิสิกส์เกี่ยวกับแรงและการเคลื่อนที่มาสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานสิ่งประดิษฐ์ ที่ให้ความสนุกสนาน ท้าทายแก่ผู้ร่วมกิจกรรมและการนำความรู้มาพัฒนาสู่การสร้างสรรค์เป็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่อไป โดย อพวช. จะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2557 สำหรับผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและดูรายละเอียด กฎ กติกาการแข่งขันได้ที่ เว็บไซด์ www.nsm.or.th สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2577 9999 ต่อ 1411 และ 1414 
รวมพลังสร้างหนังสือเสียงเพื่อคนตาบอดกว่า 15,000 เล่ม แค่ 3 เดือน ดาวน์โหลดแอพ Read for the Blind เพื่อบันทึกเสียงอ่านหนังสือให้คนตาบอดกว่า 1 แสนครั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเปิดตัวแอพพลิเคชั่น Read for the Blind โดยความร่วมมือของ 4 องค์กรในประเทศไทย นำโดยซัมซุง เพื่อเชิญชวนให้คนไทยทั่วประเทศ มีส่วนร่วมในการผลิตหนังสือเสียงบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตผ่านแอพพลิเคชั่น Read for the Blind จำนวน ยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Read for the Blind ก็มีสูงกว่า 100,000 ดาวน์โหลด จำนวนคนเข้ามาใช้งานเพื่อร่วมอ่านหนังสือกว่า 40,000 คน บทความที่เสร็จสมบูรณ์กว่า 3,000 บทความ หนังสือที่สร้างมาในระบบกว่า 15,000 เล่มและอ่านเสร็จสมบูรณ์แล้ว 100% กว่า 2,400 เล่ม ในเวลาเพียง 3 เดือน โดยประเภทหนังสือที่ผู้มีจิตอาสาเข้ามาอ่านให้คนตาบอดฟัง 3 อันดับแรก ได้แก่ วรรณกรรม หนังสือสำหรับเยาวชน และความรู้ทั่วไป ประเภทบทความ 3 อันดับแรก คือ ความรู้ทั่วไป ศาสนา และ สุขภาพ นายวิรัช ศรีตุลานนท์ ประธานมูลนิธิคนตาบอดไทย กล่าวว่า กระบวนการและขั้นตอนในการผลิตหนังสือเสียงที่มีความยุ่งยากและต้องใช้เวลาในการผลิตยาวนานนั้นได้ถูกทำให้ง่ายดายขึ้นและตัดทอนเวลาให้สั้นลงข้อจำกัดในด้านการเดินทาง ปัญหาที่จอดรถและอุปสรรคในเรื่องเวลาที่อาสาสมัครที่ต้องการจะอ่านหนังสือเสียง ให้คนตาบอดต้องเผชิญมาตลอดนั้น ได้ รับการแก้ไขด้วยแอพพลิเคชั่น Read for the Blind ทำให้อาสาสมัครสามารถอ่านหนังสือได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ จะเห็นได้ว่าจากเดิมที่ห้องสมุดคนตาบอดและ ผู้พิการทางสื่อสิ่งพิมพ์แห่งชาติ มีหนังสือเพียง 5,000 เล่ม ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการ แต่ด้วย แอพพลิเคช่ัน Read for the Blind ที่เปิด กว้างให้คนทั่วไปสามารถดาวน์โหลดและร่วมสร้างหนังสือเสียงให้คนตาบอดได้อย่างง่ายดายนั้น ทำให้จำนวนหนังสือเสียงที่เสร็จสมบูรณ์เพิ่มขึ้นอีกกว่า 2,000 เล่ม และยังอีกหนังสือเสียงอีกกว่า 15,000 เล่มที่ได้ถูกสร้างขึ้นและอยู่ในขั้นตอนการอ่านให้เสร็จสมบูรณ์ในเวลาเพียง 1 เดือน จำนวนบทความและหนังสือเสียง ที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้คนตาบอดได้พัฒนาความรู้ ศักยภาพในการดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพ และพึ่งพาตนเองได้ นายอาคม ชุดทองหลาง ผู้พิการทางสายตาที่เป็นนักศึกษากฎหมาย กล่าวว่า ดีใจมากที่มีโครงการ Read for the Blind หนังสือเสียงที่สร้างจากแอพพลิเคช่ัน Read for the Blind นั้น มีทั้งหนังสือทั่วไปและตำราเรียน ซึ่งหนังสือเสียงแต่ละเล่มล้วนแต่มีประโยชน์ต่อคนตาบอด ไม่ว่าจะเพื่อความบันเทิงหรือให้ความรู้ ในฐานะเป็นนักศึกษากฎหมาย เวลาที่มีหนังสือเสียงที่เป็นตำราเรียน ทำให้เข้าไปเรียนในชั้นเรียนร่วมกับเพื่อน ๆ ที่สายตาเป็นปกติได้ เหมือนเพื่อนนักศึกษาคนอื่น แม้รูปแบบการอ่านจะแตกต่างกัน นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น และยอดการสร้างหนังสือเสียงเล่มใหม่ยังสูงถึง 30 เล่ม ใน 1 นาที เป็นจำนวนที่น่าพอใจมาก ปัจจุบันแอพพลิเคชั่น Read for the Blind มีจำนวนยอดดาวน์โหลดสูงกว่า 100,000 ดาวน์ โหลด ขอขอบคุณผู้มีจิตอาสาทุกท่านที่เข้ามามีส่วนร่วมในการเพิ่มจำนวนหนังสือเสียงกับโครงการ Read for the Blind ผู้สนใจสร้างหนังสือเสียงเพิ่มเติมให้คนตาบอด 7 แสนคนทั่วประเทศ ผ่านแอพพลิเคชั่น Read for the Blind บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และ ไอโอเอส ยังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ได้ที่ Google Play Store และ App Store ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมแชร์หนังสือที่อ่านให้คนตาบอดฟังทาง Facebook ที่ https://www.facebook.com/readfortheblind 
