shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

เอไอเอสบริการตาด้าโรมมิ่งในพม่ารายแรกของโลก

นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอส 3G 2100 ต้อนรับศักราชใหม่ 2557 ด้วยการจับมือกับโอเปอร์เรเตอร์ MPT พม่า เปิดให้บริการดาต้า โรมมิ่ง ในประเทศพม่าเป็นรายแรกในโลก ซึ่งนับเป็นการเปิดบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของบริการ IR  โดยที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้  เนื่องจาก “พม่า” เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ปัจจุบันมีคนไทยจำนวนมากนิยมเดินทางไปทำธุรกิจหรือท่องเที่ยว ดังนั้นการที่เอไอเอสเปิดให้บริการดาต้า โรมมิ่ง ในประเทศพม่า จึงทำให้ลูกค้าเอไอเอสได้รับประโยชน์สูงสุด เพราะสามารถเชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลาขณะเดินทางในประเทศพม่ายิ่งไปกว่านั้นลูกค้ายังสามารถใช้งานได้อย่างประหยัดยิ่งขึ้น ด้วยแพ็กเกจ “Super Value Data Roaming” เพียง 6 บาทกว่าๆ ต่อเมกะไบท์ มีให้เลือกตามปริมาณการใช้งานทั้งแพ็กเกจ 50 เมกะไบท์ ใช้งานได้ 1 วัน , 150 เมกะไบท์ ใช้งานได้ 3 วันและ 250 เมกะไบท์ ใช้งานได้ 5 วัน โดยลูกค้าเอไอเอสรายเดือนสามารถสมัครแพ็กเกจดังกล่าวได้แล้วตั้งแต่วันนี้  และลูกค้าระบบเติมเงินจะสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค.57 เป็นต้นไปนอกจากนี้ลูกค้าเอไอเอสรายเดือนยังสบายใจ ไร้กังวล ตลอดเวลาที่ใช้งานดาต้าขณะอยู่ในประเทศพม่า ด้วยบริการ “AIS No Worry Data Roaming”ที่ให้ลูกค้าสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้จริงอย่างโปร่งใส ช่วยป้องกันปัญหาเน็ตรั่วในต่างประเทศ เนื่องจากระบบจะแจ้งเตือนเมื่อปริมาณดาต้าคงเหลือของแพ็กเกจใกล้จะหมด  เพื่อช่วยป้องกันค่าใช้บริการส่วนเกินจากแพ็กเกจที่สมัครไว้โดยไม่ตั้งใจ และจะหยุดการใช้งานดาต้า โรมมิ่งเมื่อใช้งานถึงวงเงินที่ลูกค้ากำหนดไว้ ทำให้ไม่มีปัญหาบิลช็อก “NO BILL SHOCK”การเปิดให้บริการดาต้า โรมมิ่งในประเทศพม่าครั้งนี้ นับเป็นการขยายการให้บริการข้ามแดนอัตโนมัติของเอไอเอสอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า ให้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น หลังจากที่เอไอเอสได้เปิดให้บริการ “Voice โรมมิ่ง” ในประเทศพม่าไปแล้วตั้งแต่เดือน ก.ย.2554 และเปิดให้บริการ “SMS โรมมิ่ง” ไปเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2556ลูกค้าเอไอเอสที่สนใจ สามารถสมัครแพ็กเกจ “Super Value Data Roaming” ที่ เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ 1175 หรือเอไอเอสช็อปทุกสาขาทั่วประเทศหรือสมัครขณะเดินทางอยู่ในประเทศพม่า ได้ที่เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ โดยโทร +66 22719000”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอไอเอสบริการตาด้าโรมมิ่งในพม่ารายแรกของโลก

Posts related

 














บริการการแพทย์-พลังงานทางเลือก : เทรนด์นวัตกรรมรับเออีซี

นายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. บอกว่า แม้ปีที่ผ่านมาจะมีทั้งเรื่องปัญหาการเมือง เศรษฐกิจถดถอย แต่ผู้ประกอบการรวมถึงผู้บริโภคเข้าใจและตอบรับกับสินค้านวัตกรรมมากขึ้น ซึ่ง สนช.ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ตามภารกิจที่กำหนดไว้ให้ปี 2556 เป็นปีแห่งการสร้างยุทธศาสตร์นวัตกรรม โดยมีโครงการที่หลากหลาย และกระจายตัวมากขึ้น ทั้งนี้คาดว่าหากปี 2557 ปัญหาทางการเมืองยุติ จะได้เห็นโครงการนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมามากขึ้น โดยเฉพาะจากโครงการคูปองนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการที่ สนช.ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจัดขึ้น และอยู่ระหว่างการรอพิจารณาอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ สำหรับแผนการดำเนินงานของ สนช.ในปี 2557 นี้ ผู้อำนวยการ สนช.บอกว่า นอกจากการส่งเสริมโครงการนวัตกรรมต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่า 100 โครงการตามปกติแล้ว ในปีนี้ สนช.ยังมีโครงการใหญ่ ที่รองรับการเจริญเติบโตของภูมิภาคอาเซียน หรือเรียกง่าย ๆ ว่าโครงการรองรับเออีซี โดยเน้น ใน 3 สาขาหลักคือ เทคโนโลยีด้านการแพทย์ทางไกล เทคโนโลยีด้านพลังงานทางเลือก เช่น ชีวมวล โซลาร์เซลล์ พลังงานลม และเทคโนโลยีด้านวัสดุชีวภาพ ซึ่งทั้ง 3 สาขานี้ ถือเป็นเทรนด์นวัตกรรมของทั้งโลก รวมถึงเออีซีและในประเทศไทย สำหรับโครงการใหม่ที่ สนช.จะสนับสนุนนี้ จะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ระดับ 300-400 ล้าน เป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่รวมตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการตลาดแบบครบวงจร คาดว่าในปี 2557 นี้ จะสามารถทำโครงการดังกล่าวได้ประมาณ 2 -3 โครงการ โดยเริ่มจากด้านบริการทางการแพทย์ และพลังงานทางเลือก.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บริการการแพทย์-พลังงานทางเลือก : เทรนด์นวัตกรรมรับเออีซี

10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม ปี 56

เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมในรูปแบบของธุรกิจใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ปลายปี 2556 ที่ผ่านมา สนช.หรือสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จึงจัดการประกาศผล “10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม ประจำปี 2556” ซึ่งเป็นการจัดลำดับโครงการนวัตกรรมที่ สนช.ให้การสนับสนุน และมีความโดดเด่นทั้งด้านความใหม่ ด้านเทคโนโลยี และด้านการตลาด โดยเป็นโครงการนวัตกรรมที่สังคมให้ความสนใจ นายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการ สนช. บอกว่า สนช.จัดประกาศผล “10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 เพื่อเป็นตัวอย่างในการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมของภาคเอกชน และแสดงแนวโน้มของธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพในประเทศไทย ทั้งนี้ที่ผ่านมา สนช.ให้การสนับสนุนโครงการนวัตกรรมไปแล้ว 933 โครงการ วงเงินสนับสนุนรวม 811.95 ล้านบาท ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 15,698.72 ล้านบาท สำหรับปี 2556 ที่ผ่านมา สนช. ได้คัดเลือกผลงาน 10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม โดยอันดับหนึ่ง คือ “คูลแคป” สมุนไพรลดไข้จากบอระเพ็ด ของ บริษัท ซี.เอ.พี.พี. กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมในการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดไข้ นางตลับเพชร หวังพลาย รองกรรมการผู้จัดการ ของ ซี.เอ.พี.พี. กรุ๊ป บอกว่า เนื่องจากกระแสความนิยมของทั่วโลกหันมาสนใจรณรงค์ใช้สมุนไพรทดแทนสารเคมีมากขึ้น ทีมวิจัยจึงนำเอาสมุนไพรไทยที่เป็นยาตำรับอย่างบอระเพ็ดซึ่งมีสรรพคุณในการลดไข้ ร่วมกับการออกฤทธิ์ทางชีวภาพของสมุนไพรชนิดต่าง ๆ เช่น โกศ น้ำเต้า และส้มซ่า มาต่อยอดพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและควบคุมคุณภาพของสารสกัดด้วยเทคนิคการใช้ความร้อนสูงภายในระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้ยังคงประสิทธิภาพในการลดไข้ในผู้ป่วยที่เพิ่งมีอาการไข้เบื้องต้น ทดแทนยาพาราเซตามอล และลดอาการข้างเคียงของการใช้ยาเคมีได้ แต่ยังไม่สามารถลดไข้จากการติดเชื้อได้ นางตลับเพชร บอกว่า นวัตกรรมดังกล่าวได้ทำวิจัยมาปีกว่า ผ่าน อย. เรียบร้อย และได้วางตลาดแล้วเมื่อกลางปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี สำหรับธุรกิจนวัตกรรมอันดับสอง คือ “เซนส์” อุปกรณ์สื่อสารทางสายตาสำหรับผู้ป่วยอัมพาต ของบริษัท เมดิเทค โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่รับคำสั่งการควบคุมเมาส์ด้วยสายตา เจ้าของนวัตกรรม บอกว่า อุปกรณ์ดังกล่าวใช้การตรวจจับการกะพริบตาด้วยหลักการมอร์โฟโลยี ในการตรวจจับหาตำแหน่งตาดำเพื่อวิเคราะห์ตรวจจับพฤติกรรมการกะพริบตาของผู้ใช้งานในการป้อนคำสั่งผ่านตัวอุปกรณ์ เพื่อให้ผู้ป่วยอัมพาต และผู้ป่วยโรคเอแอลเอส ที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวส่วนอื่นของร่างกายนอกจากตาได้ให้สามารถสื่อสารกับบุคคลรอบข้างผ่านอุปกรณ์นี้ได้ ส่วนอันดับสามคือ “บิ๊กเบา” รถขนส่งตู้คอนเทเนอร์น้ำหนักเบาเชิงพาณิชย์ ของบริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมรถขนส่งอาหารสำหรับเครื่องบินแอร์บัส A380 มีการออกแบบโครงสร้างที่ใช้วัสดุเหล็กกล้าเกรดที่มีความแข็งแรงสูงและมีน้ำหนักเบา สามารถปรับระดับความสูงของโครงสร้างได้สูงสุดถึง 9 เมตร ประยุกต์ใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติในการควบคุมช่องส่งอาหารแบบ 6 ทิศทาง ช่วยเพิ่มความสะดวกและลดเวลาปฏิบัติงานเหลือเพียง 2 ชั่วโมง ที่สำคัญนวัตกรรมนี้สามารถช่วยลดการนำเข้ารถขนส่งอาหารและอุปกรณ์จากต่างประเทศได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 200 ล้านบาททีเดียว ด้านธุรกิจนวัตกรรมอันดับสี่ คือ “สไมล์ฟิต” แผ่นรองเท้าเพื่อสุขภาพ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เฮลท์ อินโนเวชั่น แอนด์ ดีไซน์ นวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้เจ็บเท้าและส้นเท้ามีอาการดีขึ้นและรับประทานยาน้อยลง เนื่องจากแผ่นรองเท้านี้จะช่วยกระจายแรงกด และออกแบบตามสรีระด้วยทีมแพทย์และวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ มีโค้งเว้าที่รับกับเท้าของทุกคนและใช้เทคโนโลยีวัสดุที่เพิ่มความยืดหยุ่นรองรับการกดกระแทกทั้งขณะเดิน วิ่งและออกกำลังกาย สำหรับ “คูเน่” ผงปรุงรสจากหอมหัวใหญ่ ได้รับคัดเลือกเป็นธุรกิจนวัตกรรมอันดับห้า โดยเป็นผลงานของบริษัท ปกธนพัฒน์ จำกัด ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องปรุงรสชนิดผงจากธรรมชาติ ทดแทนการใช้สารโมโนโซเดียม กลูตาเมต อันดับหกคือ “เฮมพ์ไทย” พรมรองพื้นรถยนต์จากเส้นใยกัญชง ของ บริษัท ดีดี เนเจอร์ คราฟ จำกัด ผลงานนี้เป็นการใช้เทคโนโลยีการผลิตยางธรรมชาติเสริมแรงด้วยกัญชง โดยพัฒนายางพาราให้สามารถแทรกตัวและเชื่อมประสานกับผ้าทอจากกัญชง เมื่อนำมาทำเป็นพรมรองพื้นในรถยนต์ จะมีคุณสมบัติในการลดการเกิดไฟฟ้าสถิตและลดกลิ่นภายในรถได้อีกด้วย อันดับเจ็ดคือ“ซูกาเวีย” สารให้ความหวานจากธรรมชาติ ของบริษัท ซูกาเวีย จํากัด ซึ่งเป็นการนำเอาหญ้าหวานมาผ่านกระบวน การสกัดด้วยน้ำร้อนผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์โดยใช้เรซินดูดซับสารสำคัญและทำการชะล้างสารสำคัญออกจากเรซินด้วยตัวทำละลาย ทำให้ได้สามารถผลิตสารสกัดสติวิออลไกลโคไซด์ที่มีความเข้มข้นสูงใช้ทดแทนน้ำตาลและสารสังเคราะห์ ส่วนอันดับแปดคือ “ฟิอูเม่” อ่างอาบน้ำสำหรับผู้สูงอายุ ของบริษัท บาธรูม ดีไซน์ จำกัด ซึ่งติดตั้งและใช้งานง่าย อันดับเก้า คือ “สไปโรไจร่า ไบโอมาส์ก” เวชสำอางอินทรีย์จากสาหร่ายเทา ของ บริษัท สมาร์ทไลฟ์ พลัส จํากัด ที่พัฒนาให้มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ก่อให้เกิดการแพ้และใช้สารที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และอันดับสิบ คือ “สกรีนอีซ” ชุดตรวจสอบอะฟลาทอกซิน ของ บริษัท สยามอินเตอร์ควอลิตี้ จํากัด นวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและอาหารสัตว์สามารถตรวจสอบอะฟลาทอกซินที่ปนเปื้อนในผลผลิตทางการเกษตรได้มากขึ้น ลดการนำเข้าชุดตรวจราคาแพงจากต่างประเทศและทำให้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ปลอดภัยในการบริโภคอาหารมากขึ้นอีกด้วย เห็นความหลากหลายของนวัตกรรมที่ได้รับความสนใจในปีที่ผ่านมาแล้ว เชื่อว่า… นี่คือสัญญาณที่ดีในการตอบรับกับคำว่า “นวัต กรรม”ของคนไทย ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ของการแข่งขันในยุคที่ทุกอย่างกำลังจะเปิดเสรี. นาตยา คชินทร nattayap.k@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : 10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม ปี 56

Page 624 of 805:« First« 621 622 623 624 625 626 627 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file