shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

คลายร้อนกับสายรัดข้อมือแห่งอนาคต – รอบรู้ไอที รอบโลกเทคโนโลยี

ตอนสมัยผมเข้ารับปริญญาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว ระหว่างที่เดินถ่ายรูปกันกลางอากาศร้อน ๆ คนเยอะ ๆ ผมเคยคิดนะครับว่าน่าจะมีอุปกรณ์อะไรที่ช่วยคลายร้อนกันได้บ้าง ที่ใช้ ๆ กันในสมัยนั้นก็มีทั้งพัด พัดลมพกพาขนาดเล็กที่ใช้แบตเตอรี่ หรือบางคนก็พกขวดน้ำแช่น้ำแข็งไว้คลายร้อนกันในกระเป๋า แต่ในความคิดของผมคือมันน่าจะมีเทคโนโลยีหรือสิ่งประดิษฐ์อะไรสักอย่างที่ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องนี้ได้ดีกว่านี้ เพราะใครที่เคยไปงานรับปริญญาในเมืองไทยก็คงจะเห็นด้วยกับผมว่าอากาศบ้านเราตอนรับปริญญานี่ร้อนจริง ๆ ครับ ไหนจะแดด ไหนจะผู้คน แล้วความคิดของผมเมื่อเกือบสิบปีก่อน ก็มีคนเอามาทำให้เกิดขึ้นจริงแล้วในปี ค.ศ. 2013 นี้ โดยทีมวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า MIT ที่สหรัฐอเมริกา ได้คิดประดิษฐ์สายรัดข้อมือคลายร้อนขึ้นมา แน่นอนว่ามันไม่ใช่สายรัดข้อมือแบบปกติครับ เพราะสายรัดข้อมือนี้จะช่วยลดอุณหภูมิสร้างความเย็นให้แก่ร่างกายได้ โดยเขาตั้งชื่ออุปกรณ์นี้ว่า Wristify มาจากคำว่า Wrist ที่แปลว่าข้อมือนี่ล่ะครับ สายรัดข้อมือ Wristify ใช้หลักการทำงานทางฟิสิกส์ที่มีชื่อว่า Peltier effect ในการลดอุณหภูมิของร่างกาย ซึ่งหลักการ Peltier effect เป็นปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Thermoelectric ที่เกี่ยวข้องกับสองสิ่งหลัก ๆ ก็คือความร้อน (Thermal) และอุณหภูมิหรือกระแสไฟฟ้า (Electricity) โดยถ้าเราให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านตัวนำไฟฟ้าสองชนิดที่มีความแตกต่างกัน เมื่อกระแสไฟฟ้าวิ่งจากตัวนำไฟฟ้าตัวหนึ่งไปยังอีกตัวหนึ่ง ก็จะเกิดการแลกเปลี่ยนพลังงานซึ่งกันและกัน โดยข้างนึงจะเกิดความร้อน ส่วนอีกข้างจะเกิดความเย็น หรืออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเมื่อให้กระแสไฟฟ้าเข้าไปในวัสดุใด ๆ แล้ว มันก็จะทำให้เกิดความแตกต่างกันของอุณหภูมิขึ้น ซึ่งสายรัดข้อมือ Wristify ก็ใช้หลักการ Peltier effect นี้โดยเพิ่มข้อต่อเข้าไปหลาย ๆ จุด เพื่อให้เป็นเหมือนตัวสร้างความเย็นหลาย ๆ จุดบนสายรัดนั่นเอง เนื่องจากสายรัดข้อมือนี้อยู่ติดกับข้อมือเรา เมื่ออุณหภูมิที่ข้อมือลด ก็ทำให้อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของทั้งร่างกายลดลง แม้อาจไม่เย็นสบายเหมือนมีแอร์เป่ามาทั้งตัว แต่ก็ช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นได้บ้าง และสายรัดข้อมือ Wristify ตัวนี้ใช้แบตเตอรี่เพียงแค่หนึ่งก้อนเท่านั้น เรียกว่าประหยัดพลังงานมากครับ ไอเดียตรงนี้น่าสนใจครับ แทนที่เราจะต้องติดเครื่องปรับอากาศตัวใหญ่ ๆ เพื่อทำให้ทั้งห้องเย็น แล้วคนในห้องแต่ละคนค่อยรู้สึกเย็นได้ ก็เปลี่ยนเป็นทำให้คนในห้องแต่ละคนรู้สึกเย็นโดยตรงแทน ไม่จำเป็นต้องไปทำความเย็นให้ทั่วทั้งห้องซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่า เห็นไหมครับ ถ้ามองจริง ๆ แล้วไอเดียก็ไม่ได้ยากมากจนเกินไปเลย เพียงแค่เราคิดและมองมุมกลับ ก็ได้ไอเดียในการผลิตนวัตกรรมใหม่ขึ้นมาแล้ว บางครั้งการสร้างสิ่งใหม่ ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรยากครับ ขอแค่เราอย่าปิดกั้นจินตนาการของตัวเองเท่านั้น ผมเชื่อว่าเราทุกคนต่างก็สามารถสร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ ไม่แน่นะครับ ต่อไปอาจจะมีคนนำสายรัดข้อมือ Wristify ตัวนี้มาบูรณาการรวมกับนาฬิกาฉลาด (Smart Watch) กลายเป็นนาฬิกาและสายข้อมือแห่งอนาคตที่เปลี่ยนโลกใบนี้ไปเลยก็เป็นได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วงานวิจัยสายรัดข้อมือทำความเย็นอย่าง Wristify นี้ คนเมืองร้อนอย่างเราน่าจะมีแรงบันดาลใจในการคิดประดิษฐ์ขึ้นมาได้ก่อนคนเมืองหนาวเสียด้วยซ้ำนะครับ ยุคสมัยนี้แล้วเราไม่จำเป็นต้องรอให้ฝรั่งเริ่มคิดก่อนแล้วเราค่อยตามแล้วครับ เราคนไทยเองก็สามารถเริ่มคิด เริ่มประดิษฐ์ก่อนได้ เพราะตอนนี้คือโลกในศตวรรษที่  21 โลกยุคบูรพาภิวัตน์ โลกแห่งเทคโนโลยีสารสนเทศ โลกที่เต็มไปด้วยโอกาสที่เราคนไทยสามารถคิด จินตนาการ และประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ได้เหมือนหรือใกล้เคียงกับโลกตะวันตกทุกประการครับ.  ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต chutisant.k@rsu.ac.th

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คลายร้อนกับสายรัดข้อมือแห่งอนาคต – รอบรู้ไอที รอบโลกเทคโนโลยี

Posts related

 














ศูนย์เตือนภัยฯ โอดม็อบปิดศูนย์ราชการฯ กระทบการแจ้งข้อมูลปชช.

วันนี้ ( 3 ธ.ค.) น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ยืนยันว่าตอนนี้ เจ้าหน้าที่ของศูนย์เตือนภัยฯ ยังคงทำงานอย่างเต็มที่ และไม่หยุดงาน แม้ว่าจะย้ายออกจากศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ทำงานหลักก็ตาม แต่ในส่วนของระบบการทำงานเพื่อเตือนภัยยังสามารถทำงานได้ตามปกติ แต่ยอมรับว่าการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารจากประชาชนทำได้น้อยลง  เนื่องจากที่ศูนย์ราชการฯ เป็นศูนย์คอลเซอร์เตอร์หลักในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารจากประชาชน เมื่อเกิดภัยพิบัติ หรือได้รับความเดือดร้อน สอบถามข้อมูล ดังนั้นเมื่อปิดสถานที่ทำงาน ส่งผลกระทบต่อการรับแจ้งข้อมูลข่าวสาร และการสื่อสารกับประชาชนเรื่องภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งตนรวมถึง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที เป็นห่วงประชาชนในจุดนี้มาก แต่ก็เร่งดูแลประชาชนเต็มที่ภายในพื้นที่สำรองของศูนย์เตือนภัยฯ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้  “ส่วนกระแสข่าวว่ามีชายชุดดำแต่งตัวคล้ายไอ้โม่ง ขึ้นมาที่ชั้นของศูนย์เตือนภัยฯ แจ้งวัฒนะนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน และไม่ทราบว่าเป็นฝ่ายใด เนื่องจากอาคารบีที่ศูนย์ราชการฯ ได้ปิดมาหลายวันแล้ว” น.อ.สมศักดิ์ กล่าว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ศูนย์เตือนภัยฯ โอดม็อบปิดศูนย์ราชการฯ กระทบการแจ้งข้อมูลปชช.

ดีแทคจับมือพาร์ทเนอร์ระดับโลกปั้นสตาร์ทอัพไทยเป็นมืออาชีพ

ดีแทคเผยไทยติดท็อปเทนในตลาดโมบายแอพพลิเคชั่นโลก พร้อมจับมือพาร์ทเนอร์ระดับโลกจัดคอร์สการเรียนรู้สู่การเป็นสตาร์ตอัพอย่างมืออาชีพเป็นครั้งแรกในไทย นายซิกวาร์ท โวส เอริคเซน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ปัจจุบันไทยเป็นตลาดโมบายแอพพลิเคชั่นที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของตลาดที่มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงสุดทั้งในแอพสโตร์และกูเกิลเพลย์ ดีแทคซึ่งมีนโยบายส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น แม้ว่าจะมี 3จี เป็นตัวช่วยแต่ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยยังมีอีกมาก ดังนั้นจึงสร้างระบบนิเวศของโมบายอินเทอร์เน็ตให้เติบโตอย่างสมบูรณ์แบบในไทย ล่าสุดดีแทคได้ร่วมมือกับ Founder Institute หรือ FI ผู้ก่อตั้งเครือข่ายของสตาร์ตอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาจัดคอร์สการอบรมให้กับผู้สนใจเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้คนไทยได้เรียนรู้เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ด้านนายเบญจามิน แรงค์ ผู้อำนวยการ Founder Institute กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของ FI คือสร้างผู้ประกอบการหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะขยายซิลิคอน วัลเล่ย์ ศูนย์กลางของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด ไปสู่เมืองต่าง ๆ ทั่วโลก และครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ FI ได้มาจัดอบรมให้กับเหล่าสตาร์ตอัพที่กรุงเทพฯ เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพและความพร้อมของคนไทย ที่มีความตื่นตัวและตอบรับเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้การอบรมดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ 14 สัปดาห์ และผู้ที่เข้าอบรมจะต้องผ่านการทดสอบจาก FI ก่อนถึงจะมีสิทธิเข้ารับการอบรม ผู้ที่สนใจ สามารถลงทะเบียนและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://fi.co/courses/3723

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ดีแทคจับมือพาร์ทเนอร์ระดับโลกปั้นสตาร์ทอัพไทยเป็นมืออาชีพ

Page 688 of 805:« First« 685 686 687 688 689 690 691 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file