shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

‘ไอซีที’ เล็งตั้งกรมทะเบียนกลาง

ก.ไอซีที เตรียมยกระดับการทำงานการทะเบียนภาครัฐ ด้วยการตั้งกรมทะเบียนกลาง มั่นใจช่วยดันไทยไต่ระดับท็อป 10 อีกอฟเวิร์นเมนต์โลก คาด 2 ปี เห็นภาพ นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า เตรียมจัดตั้งหน่วยงานใหม่ภายใต้สังกัดกระทรวงไอซีทีโดยใช้ชื่อว่า กรมทะเบียนกลาง โดยจะตั้งผู้บริหารระดับอธิบดีขึ้นมาดูแลเฉพาะ เบื้องต้นจะให้บุคลากรในสังกัดกระทรวงเข้าดูแล คาดว่าจะเริ่มงานจริงได้หลังเหตุการณ์ทางการเมืองสงบ ทั้งนี้กรมทะเบียนกลาง จะช่วยยกระดับการทำงานด้านงานทะเบียน ให้มีการรวมของศูนย์ชัดเจน จากเดิมที่การบริหารจัดการกระจายไปแต่ละหน่วยงานที่บริหารจัดการไม่กี่เรื่อง ซึ่งหากตั้งแล้วจะทำให้ครอบคลุมทั้ง 91 เรื่อง ตั้งแต่เรื่องการเกิดจนการตาย ส่วนแนวคิดของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที เพื่อดันอันดับการพัฒนาด้านรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (อีกอฟเวิร์นเมนต์) ให้ประเทศไทยขึ้นมาเป็นอันดับท็อป 10 จากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 20 ของโลก ซึ่งมองว่าเป้าหมายที่เราจะไต่ขึ้นไปน่าจะเป็นจริงได้ภายใน 6 ปีจากนี้ โดยจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมได้ภายใน 2 ปี ขณะที่ภายใน 3 ปี เกิดภาพชัดเจน อย่างไรก็ตาม กระทรวงไอซีทีจะต้องเร่งผลักดันให้เกิดผลเชิงปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากร การเตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน ต่อยอดการใช้งานคลาวด์ภาครัฐ รวมถึงเชื่อมโยงฐานข้อมูลเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ทำให้การใช้งานเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อทำให้ประเทศไทยขึ้นอันดับ 1 ใน 10 ของโลกให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (สรอ.) ถือเป็นองค์กรที่จะช่วยผลักดัน ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ (จิน).

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘ไอซีที’ เล็งตั้งกรมทะเบียนกลาง

Posts related

 














‘แกร็บแท็กซี่’ นวัตกรรมใหม่ ในการเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ – ฉลาดสุดๆ

หลาย ๆ คนที่ใช้บริการรถแท็กซี่บ่อย ๆ คงเคยเจอปัญหารอเรียกแท็กซี่นาน เรียกแล้วไม่ยอมรับไปส่งยังที่ต้องการไป โดยอ้างว่าจะไปส่งรถคืนอู่ไม่ทันบ้าง หรือไม่กล้านั่งแท็กซี่คนเดียวเพราะกลัวไม่ปลอดภัยบ้าง ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเพียงแค่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถเรียกแท็กซี่ได้ง่าย ๆ แค่ใช้ปลายนิ้วคลิกผ่านแอพพลิเคชั่น แกร็บแท็กซี่ (GRABTAXI) รถแท็กซี่ก็จะมารับไปส่งยังสถานที่ปลายทางที่ต้องการทันที นายปัญญา วอนเผื่อน ผู้จัดการประจำประเทศไทยบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แอพพลิเคชั่นแกร็บแท็กซี่ มีจุดเริ่มต้นจากนายแอนโทนี่ แทน ชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและพัฒนาแอพพลิเคชั่นนี้ขึ้นหลังจากได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งในการแข่งขันแผนธุรกิจประจำปีของ “ฮาร์วาร์ด บิสซิเนส สคูล” หลังจากนั้นจึงได้นำแนวความคิดมาพัฒนาให้เป็นจริงและได้เริ่มเปิดตัวที่ประเทศมาเลเซียเป็นที่แรก เมื่อเดือน มิ.ย. 55 ซึ่งเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนรัฐบาลเข้ามาสนับสนุนโครงการนี้ จากนั้นจึงได้ขยายไปยังประเทศฟิลิปปินส์ในเดือน ส.ค. 56 ประเทศไทย และสิงคโปร์ เดือน ต.ค. 56 โดยในประเทศไทย คุณแอนโทนี่ แทน ได้ร่วมลงทุนและจัดตั้งบริษัทกับ คุณจุฑาศรี คูวินิช กุล ผู้อำนวยการ บริษัท แกร็บแท็กซี่(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ ฮาร์วาร์ด บิสซิเนส สคูลด้วยกัน แอพพลิเคชั่นแกร็บแท็กซี่ ได้เปิดตัวให้ทดลองใช้แล้ว โดยรองรับทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ไอโอเอส และวินโดวส์โฟน ดาวน์โหลดลงเครื่องเพียงครั้งเดียว สามารถนำไปใช้งานได้ทั้ง 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และสิงคโปร์ โดยจุดเด่นของแอพนี้ก็คือ นำระบบ จีพีเอส (GPS) มาใช้งานเพื่อค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ แค่กำหนดปลายทาง แอพพลิเคชั่นจะค้นหารถแท็กซี่ที่อยู่ใกล้ที่สุด และแสดงระยะทางจากจุดเรียกไปยังจุดหมาย และค่าโดยสารโดยประมาณให้ทราบ เมื่อทำการกดเรียกรถแล้ว ผู้โดยสารจะได้รับการยืนยันภายใน 1 นาที พร้อมข้อความที่ระบุใบหน้า และเบอร์โทรศัพท์ของคนขับรถ รวมถึงทะเบียนรถและเวลาถึงที่หมายโดยประมาณ อีกทั้งยังสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของรถได้ตลอดเวลาขณะขับมารับผู้โดยสาร รวมถึงสามารถโทรศัพท์พูดคุยเพื่อนัดแนะตำแหน่งที่รอหรือจะให้รับได้ด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีระบบ Track My Ride ที่สามารถส่งข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งการติดตามการเดินทางเพื่อความปลอดภัยให้กับครอบครัว หรือเพื่อน ๆ เพื่อให้ทราบการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ขณะโดยสารรถจนถึงที่หมายได้ผ่านโซเซียล เน็ตเวิร์กต่าง ๆ อาทิ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อีเมล วอทส์ แอพ และไลน์ ฯลฯ ขณะที่คนขับแท็กซี่ก็สามารถเลือกได้ว่าจะรับงานหรือไม่ โดยระบบจะเลือกส่งงานให้กับแท็กซี่คันที่วิ่งอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับผู้โดยสารที่สุดก่อน นายปัญญา กล่าวต่อว่า การเรียกแท็กซี่โดยใช้แอพนี้ ผู้โดยสารจะต้องจ่ายเพิ่มให้คนขับแท็กซี่อีก 25 บาท นอกเหนือจากค่ามิเตอร์ตามระยะทาง โดยแอพพลิเคชั่นจะมี 2 เวอร์ชั่น คือ แอพพลิเคชั่นสำหรับผู้โดยสาร และแอพพลิเคชั่นคนขับแท็กซี่ที่รองรับเฉพาะระบบปฏิบัติการรแอนดรอยด์ เมื่อผู้โดยสารจะใช้งานในครั้งแรกจะมีการให้ลงทะเบียนชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และ อีเมล ก่อน ขณะที่คนขับก็จะต้องมาลงทะเบียนกับทางบริษัท เพื่อให้ได้ข้อมูลเบื้องต้นของทั้งผู้โดยสาร และคนขับ จึงมั่นใจได้ว่าการโดยสาร และการขับไปส่ง จะมีความปลอดภัยของทั้งสองฝ่าย “ที่ผ่านมาได้เกิดคดีความเกี่ยวกับแท็กซี่อย่างต่อเนื่องเห็นได้จากข่าวตามทีวีและหนังสือพิมพ์ หากมีการใช้แอพพลิเคชั่นนี้จะช่วยสร้างความปลอดภัยเพราะบริษัทมีการเก็บข้อมูลของทั้งสองฝ่ายไว้ตั้งแต่การเรียกใช้บริการเวลาเท่าไรไปส่งที่ไหน คนขับแท็กซี่คนไหน ทะเบียนรถอะไรเป็นผู้รับงาน ซึ่งในกรณีเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ก็สามารถติดตามได้หากทางเจ้าหน้าที่ประสานของข้อมูลมา รวมถึงกรณีผู้โดยสารลืมของไว้ในแท็กซี่ก็จะสามารถติดตามของคืนได้ง่ายเพราะมีข้อมูลอยู่แล้ว” ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ แกร็บแท็กซี่ กล่าวต่อว่า แกร็บแท็กซี่มีจุดประสงค์หลักคือต้องการให้ผู้ใช้งานหรือผู้โดยสารสามารถเรียกแท็กซี่ได้อย่างรวดเร็วและมีความปลอดภัย ขณะที่คนขับแท็กซี่ก็ได้งานเพิ่มขึ้น ประหยัดมากขึ้นโดยไม่ต้องวิ่งรถเปล่าหาผู้โดยสารยังสถานที่ต่าง ๆ โดยถือเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ไม่ได้วางเป้าหมายว่าจะต้องมีกำไรโตเท่าไหร่ต่อปี เพียงแต่หวังให้มีรายได้เพื่อเลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดได้เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายได้เข้ามา ส่วนในอนาคตกำลังพิจารณารูปแบบการหารายได้ โดยอาจจะคิดส่วนแบ่งจากคนขับแท็กซี่ต่อการเรียกหนึ่งครั้ง หรือการหารายได้จากสปอนเซอร์ที่เข้ามาสนับสนุน “ขณะนี้จำนวนแท็กซี่ที่เข้ามาร่วมใช้แอพพลิเคชั่นของบริษัทนั้นขณะนี้ก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปแนะนำแอพนี้ให้กับคนขับแท็กซี่ตามสถานที่ต่าง ๆ อาทิ สหกรณ์แท็กซี่ สถานีบริการน้ำมัน ฯลฯ เพื่อบอกถึงข้อดี ขณะที่อุปกรณ์ที่รองรับก็มีมากมายในท้องตลาดใช้เพียงสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 2.3ขึ้นไปราคาต่ำสุดที่มีวางขายประมาณ 2,000 กว่าบาท ก็สามารถใช้งานได้แล้ว ส่วนการใช้งานจีพีเอส ก็มีแพ็กเกจขั้นต่ำของโอปเรเตอร์ต่าง ๆ อยู่ที่ประมาณ 210 บาทต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งคนขับแท็กซี่สามารถใช้งานได้สบาย ๆ ตกวันละ 7 บาทเท่านั้น” นายปัญญา กล่าว ผู้ที่สนใจสามารถหาดาวน์โหลดมาใช้งานกันได้ผ่านแอพ สโตร์, กูเกิล เพลย์สโตร์ และวินโดวส์ สโตร์ ตามอุปกรณ์ที่ใช้งานของแต่ละคน โดยค้นหาคำว่า grabtaxi แล้วจะรู้ว่าการเรียกรถแท็กซี่ง่ายขึ้นและปลอดภัยขึ้นเยอะ. จิราวัฒน์ จารุพันธ์ JirawatJ@dailynews.co.th

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘แกร็บแท็กซี่’ นวัตกรรมใหม่ ในการเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ – ฉลาดสุดๆ

ไอซีที-เกษตรเชื่อมโยงข้อมูลแจ้งเตือนภัยธรรมชาติ

วันนี้ (25 พ.ย.) ที่ห้องประชุมอานนท์ กรมประมง กรุงเทพฯ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวภายหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการข้อมูลเพื่อแจ้งเตือนภัยด้านการประมง ว่า ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการประสานความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการทำงานให้สอดคล้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศและภูมิสารสนเทศมาช่วยพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยธรรมชาติ ทั้งนี้ จะบูรณาการข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อที่ประชาชนจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะชาวเกษตรกร ทั้งนี้ กระทรวงไอซีทีและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเชื่อมโยงข้อมูลทางภูมิศาสตร์สารสนเทศ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการร่วมมือเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ในการบริหารจัดการภัยพิบัติธรรมชาติให้แก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ถือเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อการรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งจะลดความเสียหายและผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ที่ได้ร่วมลงนามร่วมกัน ได้แก่ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ, สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน), บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ในการส่งเสริม สนับสนุน และประสานความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและเพื่อการพัฒนาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ ตลอดจนการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างบุคคลากรด้วย ทั้งนี้ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จะทำหน้าที่ในการแจ้งเตือนโดยให้หลักการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยร่วมมือกับกรมประมงสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง และแจ้งเตือนภัยแก่เกษตรกรได้อย่างรวดเร็ว หากทางศูนย์เตือนภัยฯ สามารถเชื่อมต่อฐานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านภัยพิบัติธรรมชาติได้อย่างครบถ้วนจะทำให้การทำงานระบบเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติมีความสมบูรณ์ สามารถเตือนภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถลดความสูญเสียต่อระบบเศรษฐกิจและเกษตรกรได้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไอซีที-เกษตรเชื่อมโยงข้อมูลแจ้งเตือนภัยธรรมชาติ

Page 711 of 805:« First« 708 709 710 711 712 713 714 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file