shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

ทีดีอาร์ไอ ชี้ไทยขาดนักผลิตซอฟต์แวร์

ทีดีอาร์ไอ ชี้ตลาดซอฟต์แวร์ในไทยยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัญหาแนะ “ซิป้า ซอฟต์แวร์พาร์ค” และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบรรจุหลักสูตรปั้นบุคลากร ป้อนตลาดระยะยาว นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ปัจจุบัน มูลค่าการผลิตซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากผลสำรวจภาพรวมมูลค่าการผลิตเฉพาะที่เกิดขึ้นในประเทศไทย คาดว่าปี 2556 จะอยู่ที่ 39,096 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22.2% ในขณะที่ ปี 2557 จะมีมูลค่าประมาณ 44,026 ล้านบาท โดยซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว ปี 2556 จะมีมูลค่าการผลิตที่ 4,886.7 ล้านบาท และปี 2557 อยู่ที่ 5,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้นตามลำดับ สำหรับ สาเหตุหลักเป็นผลจากความต้องการที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดและปัญหาที่สำคัญในการขยายตัวของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์ แวร์ รวมทั้งซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัวของไทย คือ การขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพ อีกทั้ง หลัก สูตรการศึกษาของสถาบันการศึกษายังไม่สอด คล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรม ทำให้บริษัทซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ต้องเสียเวลาในการฝึกอบรมพนักงานนานถึง 6-12 เดือน อีกทั้ง พนัก งานจบใหม่ชอบเปลี่ยนงาน จึงทำให้ขาดความต่อเนื่องในการสะสมความรู้และประสบการณ์ นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ยังประสบปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และขาดการสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจัง อีกทั้งบริษัทที่ตั้งอยู่นอกเมืองนั้นจะมีปัญหาในการหาบุคลากรที่มีคุณภาพ เพราะบุคลากรจะกระจุกตัวอยู่เฉพาะกรุงเทพฯ เนื่องจากระดับความเจริญที่แตกต่างกันระหว่างในเมืองและนอกเมือง โดยภาพรวมยังมีอัตราการขาดแคลนสูงถึง 8 พันคน ดังนั้น การแก้ไขปัญหาคือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ซิป้า เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย หรือ ซอฟต์แวร์พาร์ค สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.ควรจัดหลักสูตรในสถานศึกษาเพื่อป้อนตลาดซอฟต์แวร์ไทย.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ทีดีอาร์ไอ ชี้ไทยขาดนักผลิตซอฟต์แวร์

Posts related

 














อุทยานดาราศาสตร์

เตรียมยกระดับการศึกษาด้านดารา ศาสตร์ของไทย และพร้อมที่จะผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านดาราศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) หรือ สดร.จึงเร่งเดินหน้าก่อสร้างอุทยานดาราศาสตร์ หรือ Astro Park ที่เชียงใหม่ เพื่อเป้าหมายสำคัญคือการเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการศึกษาค้นคว้าวิจัยและพัฒนาทางดาราศาสตร์ของประเทศและของภูมิภาค รองศาสตราจารย์บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการ สดร. เปิดเผยว่า อุทยานดาราศาสตร์ที่จัดตั้งขึ้นนี้ จะเป็นศูนย์กลางเครือข่ายความร่วมมือกับหอดูดาวในต่างประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ภูมิภาคทั้ง 5 แห่ง และหอดูดาวของสถาบันฯ ที่ตั้งอยู่ ที่ Cerro Tololo International Observatory (CTIO) ประเทศสาธารณรัฐชิลี นอกจากนี้ยังจะเป็นที่รวบรวมศิลป วิทยาการเทคโนโลยี รวมถึงนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับดาราศาสตร์ไว้อย่างครบวงจร ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยมีหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ที่ติดตั้งกล้อง โทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์ กลาง 2.4 เมตร ที่ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ นับเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางดาราศาสตร์ระดับนานาชาติ ที่ทำให้ประเทศไทยมีความพร้อมทางด้านดาราศาสตร์อย่างสูงสุด และล้ำหน้าประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สหพันธ์ดาราศาสตร์นานาชาติ (IAU) และองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) จึงได้พิจารณาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมทางดาราศาสตร์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางด้านวิทยาการดาราศาสตร์ระหว่างประชาคมอาเซียนอีกด้วย สำหรับอุทยานดาราศาสตร์นี้ จะมีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ แบ่งเป็น 5 ส่วน ได้แก่ อาคารศูนย์วิจัยและบริการทางดาราศาสตร์ จะเป็นอาคารหลักสำหรับดำเนินภารกิจต่าง ๆ ของสถาบันฯ ส่วนที่สองเป็นอาคารฉายดาว นิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ดาราศาสตร์ ซึ่งจะมีท้องฟ้าจำลองในส่วนนี้ ส่วนที่สามเป็นอาคารหอดูดาว ติดตั้งกล้องโทรทรรศน์สำหรับให้บริการดูดาว ส่วนที่สี่ เป็นอาคารศูนย์ประชุม และส่วนสุดท้ายเป็นลานกิจกรรมอเนกประสงค์กลางแจ้ง ใช้ในการจัดกิจกรรมทางดาราศาสตร์ ที่รองรับประชาชนได้มากกว่า 500 คน ผอ.สดร. บอกว่า แผนดำเนินการก่อสร้างอุทยานดาราศาสตร์ เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2555 ในกรอบวงเงินงบประมาณ 400.6 ล้านบาท และกำหนดเปิดใช้งานประมาณปี 2559 และเชื่อว่า “อุทยานดาราศาสตร์” จะทำให้ประเทศ ไทยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงวิทยาการดารา ศาสตร์จากทั่วทุกมุมโลก เป็นผู้นำทางด้านดาราศาสตร์ในอาเซียนอย่างเต็มภาคภูมิและในอนาคตข้างหน้าจะเป็นหน่วยงานทางดาราศาสตร์ชั้นแนวหน้าแห่งหนึ่งของโลกอย่างแน่นอน .

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : อุทยานดาราศาสตร์

หน้ากากชะลอวัยจากแสงแอลอีดี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน – ฉลาดสุดๆ

ปัจจุบันวงการแพทย์ผิวหนังและความงามได้มีการนำช่วงแสงต่าง ๆ ของ Light Emitting Diode (LED) หรือ แอลอีดี มาช่วยกระตุ้นผิวให้สวยงามด้วยเทคโนโลยีการฉายแสง 4 สี คือ ฟ้า เหลือง แดง และเขียว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีนักวิจัยนำแสงดังกล่าวมาทำการวิจัยเพื่อให้เกิดนวัตกรรม ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับ ผศ.ดร.ขวัญชนก พสุวัต คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมชีวภาพ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่ได้นำนวัตกรรม แอลอีดี มาศึกษาและพัฒนาจนสร้างเป็นนวัตกรรม “หน้ากากชะลอวัย Eco Light กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน” โดยใช้หลักการทำงานของความยาวคลื่นแสงและสี เพื่อนำไปกระตุ้นสร้างคอลลาเจน ได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้เทคโนโลยีการฉายแสง 4 สี คือ ฟ้า เหลือง แดง และเขียว นั้น แต่ละสีจะมีหน้าที่แตกต่างกัน โดยแสงสีฟ้า ช่วยยั้บยังปัจจัยการเกิดสิวและป้องกันการติดเชื้อใหม่ แสงสีเหลือง ช่วยรักษารอยดำ กระ ฝ้า เม็ดสีที่เข้มให้จางลงตามธรรมชาติ และกระตุ้นระบบน้ำเหลือง รวมถึงระบบการไหลเวียนของโลหิต ส่วนแสงสีแดง ช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน รักษาผิวที่ถูกเผาไหม้จากแสงแดด และลดเลือนริ้วรอย และสุดท้ายแสงสีเขียว ช่วยลดรอยแดง หรือเส้นเลือดฝอยที่เกาะตัวอยู่ใต้ผิวหนัง ผศ.ดร.ขวัญชนก กล่าวว่า งานวิจัยหน้ากากชะลอวัย เป็นการนำคลื่นสีแดงของแอลอีดีมากระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังมนุษย์ โดยหาช่วงความถี่ที่เหมาะสมที่สุดกับเซลล์มนุษย์ แล้วนำความยาวคลื่นแสงในระดับต่าง ๆ มาทดสอบกับเซลล์ผิวหนังที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งพบว่าเซลล์ผิวหนังที่ได้รับแสงสีแดงมีการสร้างเซลล์ใหม่มากกว่าเซลล์ผิวหนังที่ไม่ได้รับแสงสีแดงของแอลอีดี โดยผลวิจัยออกมาชัดเจนว่า ผิวหนังที่ถูกไฟไหม้ดีขึ้นถึง 20% หลังจากนั้นจึงทำการศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อหา ความยาวคลื่นที่เหมาะสม เพราะความยาว คลื่นของแสงแต่ละสีมีความสามารถเข้าไปยังใต้ผิวหนังในระดับที่ไม่เท่ากัน บางคลื่นลึกบางคลื่นไม่ลึก และบางความยาวคลื่นก็กระตุ้นเซลล์ได้ต่างกันด้วย นอกจากนี้ในส่วนของระยะเวลาในการฉายแสงก็ต้องมีการทำวิจัยด้วยเช่นกัน เนื่องจากถ้าใช้เวลานานเกินไปก็อาจทำให้เกิดความร้อนจนทำให้ผิวหน้าไหม้ได้ ผศ.ดร.ขวัญชนก กล่าวต่อว่า งานวิจัยชิ้นนี้มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย ใช้ง่าย และทำเองได้ที่บ้าน ส่งผลให้ทีมวิจัยจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการค้นคว้าและทดลองให้ถูกต้องแม่นยำที่สุด โดยหน้ากากนี้อาจไม่เหมาะกับเด็กหรือวัยรุ่น เนื่องจากในเด็กและวัยรุ่นระบบทำงานของคอลลาเจนยังเป็นปกติอยู่ หน้ากากชะลอวัย จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวพรรณ อาทิ ผู้ที่โดนแดดเป็นเวลานาน คนที่ผิวแก่กว่าวัย หรือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถชมงานวิจัยชิ้นนี้ได้ในงาน อีโคไลท์เทค เอเชีย 2013(EcoLightTech Asia 2013) ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย. ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นงานแสดงสุดยอดนวัตกรรมประหยัดพลังงานด้านแสงสว่างเพื่อผู้ประกอบการครั้งแรกในประเทศ ไทย นอกจากนี้ในงานยังมีการให้ความรู้ด้านแสงสว่างรวมทั้งการอบรม หัวข้อต่าง ๆ อาทิ แนวโน้มและทิศทางด้านการออกแบบนวัตกรรมประหยัดพลังงานแสงสว่างในภาคอุตสาหกรรมและแนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้แสงธรรมชาติให้มีประโยชน์มากที่สุด เพื่อลดการใช้พลังงานภายในอาคาร ควบคู่กับการพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยีควบคุมระบบไฟร่วมกัน ฯลฯ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ecolight-tech.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หน้ากากชะลอวัยจากแสงแอลอีดี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน – ฉลาดสุดๆ

Page 738 of 805:« First« 735 736 737 738 739 740 741 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file