shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

เปิดตัวสวนน้ำแห่งแรกในเอเชีย

น.ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมเปิดให้บริการสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน ซึ่งเป็นสวนน้ำรูปแบบวอเตอร์จังเกิ้ล หรือสวนน้ำครบวงจรภายใต้บรรยากาศในป่า แห่งแรกในเอเชีย ได้ในวันที่ 1ธ.ค.นี้ โดยโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในโครงการแบบผสมผสาน หรือ มิกซ์ยูส ที่ทั้งนี้คาดว่าเมื่อเปิดให้บริการแล้วจะผลักดันให้มีผู้มาใช้บริการโครงการเกี่ยวเนื่องเพิ่มมากขึ้นและส่งผลให้มูลค่าพื้นที่ขายคอนโดเพิ่มมากขึ้น โดยเบื้องต้นขาดว่าจะมีราคาประมาณ 80,000-90,000 บาท ต่อ ตร.ม. สำหรับโครงการมิกซ์ยูสดังกล่าวมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น35 ไร่ โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 3 เฟส เริ่มต้นจากสวนน้ำบนพื้นที่ 20 ไร่ มูลค่าการลงทุนประมาณ1,000 ล้านบาท , โรงแรมขนาด 300ห้อง มูลค่าการลงทุนประมาณ 2,000-3,000ล้านบาท ซึ่งจะเปิดให้บริการในปีหน้า และคอนโดมิเนียม ที่อยู่ในระหว่างการพิจาณารอการก่อสร้างซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในปีหน้า   ”การสร้างโครงการสวนน้ำจะเป็นตัวดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาหัวหินมากขึ้น โดยเฉพาะวัยรุ่นและชาวเอเชียที่นิยมสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้ จากเดิมที่กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักหัวหินเป็นชาวยุโรปและคนมีอายุ ทั้งนี้คาดว่าในปีแรกที่เปิดให้บริการจะมีผู้มาใช้บริการประมาณ300,000 คน ต่อปี และเพิ่มเป็น 500,000คน ต่อปี ภายในปี 62 นอกจากนี้หากปีหน้า โครงการได้รับการตอบรับที่ดี บริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการสวนน้ำแห่งใหม่อีกหนึ่งแห่งด้วย” นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทยังเตรียมทุ่มงบลงทุนอีกกว่า10,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเฟสที่ 2 โครงการพาร์ค 24 คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมในย่านสุขุมวิท จากปีก่อนที่เริ่มพัฒนาโครงการเฟสแรกจนสามารถขายได้แล้วกว่า90% ทั้งนี้แผนการพัฒนาธุรกิจของบริษัทจะเน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส เพื่อขายและเช่าในหัวเมืองท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยขณะนี้มีที่ดินในมืออยู่หลายแห่ง อาทิหิวหิน, สมุย และภูเก็ตขณะที่โครงการในกรุงเทพจะพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เปิดตัวสวนน้ำแห่งแรกในเอเชีย

Posts related

 














รถไฟของบฯวัวหายล้อมคอก

นายพรสุทธิ ทองสาด หัวหน้าสำนักงานปฏิบัติการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังนำสื่อมวลชนลงพื้นที่สำรวจจุดตัดทางรถไฟ 2แห่งบริเวณที่หยุดรถทุ่งสีทอง และที่หยุดรถคอกควาย จ.สมุทรสาครว่า ในสัปดาห์นี้ ร.ฟ.ท.จะเสนอเรื่องให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม พิจารณาจัดสรรงบประมาณ 3,333ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟ 1,183 จุด โดยแบ่งเป็นงบสำหรับติดตั้งเครื่องกั้นอัตโนมัติ645 แห่ง วงเงิน 2,580 ล้านบาท และติดตั้งระบบสัญญาณเตือนบริเวณทางลักผ่านอีก 538แห่ง วงเงิน 753.2 ล้านบาท “ในการรวบรวมข้อมูลจากฝ่ายอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมของร.ฟ.ท. ซึ่งดูแลงานสื่อสารของการเดินรถนั้น ระบุว่าในส่วนของการติดตั้งไฟบริเวณทางลักผ่านนั้นหากเป็นไฟสัญญาณที่เปิดตลอดเวลา จะใช้เงินลงทุน จุดละ กว่า 100,000 บาทส่วนไฟที่มีระบบเซนเซอร์และจะกระพริบเตือนเมื่อรถวิ่งผ่านมาจะลงทุนจุดละ 1.4ล้านบาท ขณะที่งบเครื่องกั้นอัตโนมัติจะอยู่ที่จุดละ 4 ล้านบาท”  ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายว่าในการติดตั้งสัญญาณไฟ และระบบเตือนภัยทางลักผ่านรวมถึงเครื่องกั้นอัตโนมัติจะต้องติดตั้งให้เสร็จภายในปี 59 หลังจากปี 58 ร.ฟ.ท.ได้รับจัดสรรงบประมาณมาแล้ว 508 ล้านบาท เพื่อใช้ติดตั้งเครื่องกั้นอัตโนมัติ 130แห่ง สำหรับหลักการพิจารณาติดตั้งเครื่องกั้นและสัญญาณเตือนเพื่อแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟการรถไฟฯจะพิจารณาและลำดับความสำคัญจากจุดที่ความเสี่ยงก่อน เช่น พิจารณาจากจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยรวมถึงปริมาณรถที่แล่นผ่านในแต่ละวันจำนวนมากก่อน ส่วนสถิติการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดรถไฟเมื่อปี 57 ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุไปแล้ว127 ครั้ง โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดกับบุคคลนอกพื้นที่ ที่ไม่ชำนาญเส้นทางและไม่ระมัดระวังจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นเชื่อว่าในอนาคตหากมีการติดตั้งเครื่องกั้นและสัญญาณเตือน เพื่อแจ้งเตือนล่วงหน้าแล้ว ปัญหาอุบัติเหตุจะลดลง นายสุบรรณ มานะวิทยาการ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางน้ำจืด กล่าวว่า ในพื้นที่มีจุดระหว่างทางรถไฟกับถนน4 จุด ซึ่ง อบต.ได้ลงทุนเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ไม้กระดกและเครื่องกั้นพร้อมกับจัดกำลังเจ้าหน้าที่ของอบต. ซึ่งก็เป็นคนในชุมชน มาทำหน้าที่ใช้เครื่องกั้นเมื่อเวลารถไฟวิ่งผ่าน ซึ่งแม้อบต. จะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมดก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความปลอดภัยที่ชุมชนได้รับ แต่ยอมรับว่าปัญหาอุบัติเหตุของรถยนต์ที่เกิดบนจุดตัดรถไฟนั้นส่วนใหญ่เป็นคนจากนอกพื้นที่ ที่ไม่ทราบว่ามีทางรถไฟจึงทำให้เกิดอันตรายขึ้นแต่หลังจากมีการทำเครื่องกั้นแล้ว สถิติก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : รถไฟของบฯวัวหายล้อมคอก

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 พฤศจิกายน 2557 ปิดลบ 4.98 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (3 พ.ย.)ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนตลอดวัน โดยช่วงเช้าได้รับแรงหนุนจากปัจจัยในต่างประเทศโดยเฉพาะการเพิ่มวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางญี่ปุ่นผลักดันบรรยากาศการลงทุนปรับตัวดีขึ้นแต่ในช่วงบ่ายเริ่มเห็นแรงเทขายทำกำไรเป็นระยะหลังปัจจัยในประเทศทรงตัว ประกอบกับนักลงทุนรอให้น้ำหนักกับการประชุมธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)ในวันที่6 พ.ย. นี้ ส่งผลให้ระหว่างวันดัชนีลดลงต่ำสุด 1,576.37จุด และทะยานขึ้นสูงสุด  1,591.15 จุด จนมาปิดตลาดที่ 1,579.18 จุด ลดลง 4.98 จุด หรือ 0.31 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย 56,759.24 ล้านบาท สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก 1.บางกอกแอร์เวย์ส   ปิดที่ 22.00 บาท ลดลง 3.00 บาท 2.ธ.ไทยพาณิชย์  ปิดที่ 181.50 บาทเพิ่มขึ้น 4.00 บาท         3.เอไอเอส ปิดที่  238.00 บาท ลดลง 1.00 บาท 4.ปตท.  ปิดที่ 362.00 บาท ลดลง 6.00 บาท 5.ธ.แลนด์แอนเฮ้าส์ ปิดที่ 1.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 พฤศจิกายน 2557 ปิดลบ 4.98 จุด

Page 1 of 1552:1 2 3 4 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file