ทีดีอาร์ไอ เผยเก็บข้าวในโกดังเกิน 1 ปี ทำข้าวเหลืองและเกิดมอด ฉุดมูลค่าลดลงทันทีปีละ 5,266 ล้านบาท
รายงานข่าวจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยรายงานโครงการยุทธศาสตร์ข้าวไทย การวิจัยพัฒนาข้าวไทยและการมองไปข้างหน้าว่า ขณะนี้ผลการวิจัยพบว่าการที่รัฐบาลเก็บข้าวไว้ในโกดังกลางตามนโยบายจำนำข้าวเป็นเวลามากกว่าหนึ่งปีเนื่องจากไม่สามารถระบายข้าวออกสู่ตลาดได้ จะทำให้ข้าวเหลืองและมีมอด จนส่งผลให้มูลค่าข้าวในโกดังลดลงปีละกว่า 5,266 ล้านบาท และหากยิ่งเก็บไว้นานๆก็จะทำให้มูลค่าข้าวลดลงเรื่อยๆ นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ ทีดีอาร์ไอ ระบุว่า ตั้งแต่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการการรับจำนำข้าวเปลือกตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.54 – 29 ต.ค.55 รัฐบาลได้รับซื้อข้าวเปลือกตามโครงการรับจำนำข้าวนาปี54/55 และข้าวนาปรัง 55 รวมทั้งสิ้น 21.76 ล้านตันข้าวเปลือก ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าโครงการนี้ทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อฐานะทางการคลังและการค้าข้าวของไทยทั้งระบบ สำหรับรายงานฉบับดังกล่าวได้สรุปการรั่วไหลและความสูญเสียอันเนื่องมาจากโครงการรับจำนำข้าว คือ มีเงินรั่วไหลไปยังโรงสีและชาวนาในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะมีโรงสีบางแห่งลักลอบนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์การจำนำ ,มีการรั่วไหลที่สำคัญเกิดจากการทุจริตของผู้เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวในทุกขั้นตอนการรับจำนำ และสุดท้ายโครงการนี้ทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคม เพราะเป็นการถ่ายโอนเงินภาษีจากมือของประชาชนผู้เสียภาษีไปสู่ชาวนา โรงสี และนักธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งเป็นการถ่ายโอนเงินจากชาวนาและโรงสีที่สุจริตไปสู่มือของผู้ทุจริตด้วย นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ในการเดินทางเยือนไทยของนายหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 11-13 ต.ค. นี้คาดว่า ภาคเอกชนของจีนจะลงนามในสัญญาซื้อขายข้าวกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ราว 1 ล้านตัน ซึ่งในส่วนนี้เป็นข้าวของเอกชน ไม่ใช่ข้าวที่ซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) อย่างไรก็ตาม ในการหารือร่วมกับบริษัท คอฟโก ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนเมื่อต้นสัปดาห์ ได้สอบถามเกี่ยวกับคุณภาพข้าวไทย โดยได้ชี้แจงให้มั่นใจในข้าวไทย เพราะมีการตรวจสอบคุณภาพเป็นประจำ และไม่พบสารปนเปื้อน หรือสารตกค้างในปริมาณที่เกินกำหนด และหากไม่มั่นใจ จีนสามารถส่งบริษัทตรวจสอบคุณภาพมาตรวจสอบข้าวไทยร่วมกับบริษัทตรวจสอบของไทยได้ “ขณะเดียวกันในวันที่ 16 ต.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) แบ่งเป็นข้าวหอมมะลิ 50,000 ตัน และข้าวขาว 5%จำนวน 100,000 ตัน คาดจะมีผู้สนใจประมูลจำนวนมาก เพราะข้าวล็อตนี้มีคุณภาพตรงตามที่ผู้ซื้อต้องการ และแบ่งประมูลเป็นกองๆ ละไม่เกิน 2,000 ตัน โดยเอาข้าวในโกดังที่สะดวกแก่การขนส่งมาเปิดประมูลก่อน”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ทีดีอาร์ไอชี้เก็บข้าวนานเกิน1ปี ทำข้าวไทยเสื่อม
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs