shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

ทบทวนแผนยกสะพานข้ามเจ้าพระยา

 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังมีนโยบายให้กรมเจ้าท่า ไปศึกษายกระดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อแก้ปัญหาเดินเรือช่วงน้ำขึ้นว่า ขณะนี้กรมเจ้าท่าอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของการปรับยกระดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 3 แห่ง ได้แก่ สะพานพระพุทธยอดฟ้า (สะพานพุทธฯ) สะพานกรุงธนบุรี (ซังฮี้)  และสะพานนนทบุรี (สะพานนวลฉวี) แต่หากผลการศึกษา พบว่า การปรับปรุงยกระดับสะพานต้องใช้งบประมาณเกินความจำเป็น ไม่คุ้มค่า กระทรวงคมนาคมจะพิจารณายกเลิกแนวทางการปรับยกสะพานทั้ง 3 ทันที อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการเดินเรือขนส่งสินค้าในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ร้องเรียนมายังกรมเจ้าท่าว่า ได้รับผลกระทบในช่วงฤดูฝนประมาณ 3 เดือน  รวมถึงช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงทำให้เรือไม่สามารถแล่นส่งสินค้าได้ โดยเฉพาะสะพานพุทธที่มีความสูงจากแม่น้ำเจ้าพระยาต่ำสุด อยู่เหนือระดับผิวน้ำเพียง 4.7 เมตรเท่านั้น จนติดปัญหาเรือไม่สามารถแล่นรอดผ่านไปได้ ขณะที่สะพานซังฮี้สูงจากระดับผิวน้ำที่ 5.1 เมตร และสะพานนวลฉวีสูงจากผิวน้ำ 5.3 เมตร   “ขณะนี้ให้กรมเจ้าท่าไปประสานงานกับ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการปรับยกระดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 3 แห่ง เพื่อให้สะพานเหล่านี้มีระดับความสูงขึ้นเหนือผิวน้ำตามมาตรฐาน 5.6 เมตร เพื่อแก้ปัญหาการเดินเรือแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงน้ำขึ้น  ให้เรือสามารถเดินเรือได้” ด้านนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี  รองปลัดกระทรวงคมนาคม ด้านโครงสร้างพื้นฐาน  กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดทิศทางการปรับปรุงสะพานทั้ง 3 แห่ง ถึงแนวทางความเหมาะสม ว่าหากเลือกให้มีการปรับปรุงจะใช้วิธีอะไรถึงเหมาะสม หรือกรณีไม่ปรับปรุงจะมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร รวมถึงดูกรอบงบประมาณที่นำมาดำเนินการจะคุ้มค่าหรือไม่ ทั้งนี้จะต้องพิจารณาอย่างละเอียด  เนื่องจากผลศึกษาพบว่าปริมาณการขนส่งสินค้าทางลำน้ำเจ้าพระยา มีการขนส่งสินค้าเฉลี่ยปีละ 45 ล้านตันต่อปี และช่วงที่มีปัญหาเรือติดสะพานคือช่วงล่องขึ้นในฤดูน้ำหลากจะมีระยะเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น ดังนั้นมีความเป็นไปได้เบื้องต้นอาจพิจารณาปรับปรุงเพียง 2 สะพาน คือ สะพานซังฮี้ และ สะพานนวลฉวี เพื่อยกระดับสะพานให้สูงขึ้น แต่ก็ต้องดูเรื่องงบประมาณที่ใช้ว่าเหมะสมหรือไม่ ส่วนสะพานพุทธไม่ต้องปรับยกสะพาน เนื่องจากเป็นโครงสร้างเก่า อีกทั้งสะพานพุทธยังเปิด -ปิด กลางสะพานได้ “การศึกษาเบื้องต้นพบว่า ทั้งสะพานซังฮี้ และ สะพานนวลฉวี หากมีการปรับยกสะพาน  ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะใช้งบประมาณในการปรับปรุงที่สูงมาก  โดยสะพานซังฮี้ ต้องใช้งบประมาณปรับปรุงกว่า 200-250 ล้านบาท ส่วนสะพานนวลฉวี ต้องใช้งบประมาณกว่า 400 ล้านบาท แต่คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการประชุมในรายละเอียด เพื่อสรุปถึงข้อดี ข้อเสีย ก่อนที่จะสรุปให้ รมว.คมนาคม พิจารณาต่อไป”  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ทบทวนแผนยกสะพานข้ามเจ้าพระยา

Posts related

 














“อภิสิทธิ์”หวั่นขึ้นแอลพีจีซ้ำเติมศก.

เมื่อวันที่ 23 ต.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความเป็นห่วงปัญหาเศรษฐกิจในตอนนี้เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นลดลงติดต่อมาเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งสะท้อนให้เห็นความอ่อนแอในกำลังซื้อของประชาชน แม้จะไม่ใช่ความผิดของรัฐบาลนี้ แต่มาตรการที่จะทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อ จึงสำคัญมาก หากกำลังซื้อของประชาชนอ่อนแอ การส่งออกยังไม่สามารถเป็นตัวขับเคลื่อนได้ ภาคการลงทุนยังรีรออยู่ สิ่งที่สำคัญคืออย่าทำลายกำลังซื้อประชาชน และหากเดินหน้าขึ้นราคาแก๊สทุกเดือน แล้วไปขึ้นราคาดีเซลด้วย ตัวนี้จะทำให้เศรษฐกิจเกิดปัญหารุนแรงมาก ไม่คุ้ม สุดท้ายที่รัฐคิดประหยัดเงินจากมาตรการเหล่านี้ แต่ไม่ใช่ เพราะหากเศรษฐกิจทรุด รัฐบาลเองจะเดือดร้อนจากการเก็บภาษีไม่เข้าเป้า นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ไม่สบายใจคือเรื่องราคาก๊าซอย่างกรณี LPG เป็นการใช้เพื่อความจำเป็นในการดำรงชีวิต ไม่มีใครใช้ฟุ่มเฟือย เพราะใช้เกือบทุกครัวเรือ ดังนั้นควรให้ใช้ในราคาต้นทุน แต่ปิโตรเคมี อุตสาหกรรม ก็ว่าไปตามกลไกตลาด อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจตอนนี้หลายคนกังวลมาก มาตรการที่จะทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อสำคัญมาก ตนคิดว่าที่ทำมาขณะนี้ยังมีจุดอ่อนอยู่ เช่น กรณีข้าวมาตรการที่ออกมานี้ก็จะไปติดปัญหาเกษตรกรจำนวนมาก ซึ่งไม่สามารถได้ประโยชน์ เพราะว่าไม่ใช่เจ้าของที่ดิน กรณียางผลตอบแทนที่ได้ ก็ยังค่อนข้างต่ำ และรัฐบาลเริ่มมาถูกทางในแง่ที่ว่าก็ประกาศเรื่องยางให้เป็นวาระแห่งชาติ “เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ กำลังซื้อค่อนข้างอ่อนแอ ส่งออกยังไม่สามารถที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนได้ การลงทุนคนยังรีรออยู่ สิ่งที่สำคัญคืออย่าทำลายกำลังซื้อประชาชน ส่วนเรื่องพลังงานถ้าเดินหน้าขึ้นค่าแก๊สทุกเดือน แล้วก็ไปขึ้นดีเซล ผมเห็นว่าตรงนี้จะทำให้เศรษฐกิจเกิดปัญหารุนแรงมาก มันไม่คุ้มและถ้าเศรษฐกิจทรุด รัฐบาลจะเดือดร้อนจากการเก็บภาษีไม่เข้าเป้า”นายอภิสิทธิ์ กล่าว.  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “อภิสิทธิ์”หวั่นขึ้นแอลพีจีซ้ำเติมศก.

บีโอไอชงประยุทธ์ ไฟเขียว 24 โครงการ9หมื่นล.

 นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการส่งเสริมการลงทุน  ได้ประชุมพิจารณาโครงการลงทุนในเดือน ต.ค. แล้วจำนวน 115โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 102,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการพิจารณากลั่นกรองโครงการ เพื่อนำเสนอที่ประชุมบอร์ดบีโอไอ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)   เป็นประธานพิจารณาอนุมัติครั้งต่อไป รวม 24 โครงการ เงินลงทุนกว่า  90,000  ล้านบาท เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีมูลค่าโครงการมากกว่า 750 ล้านบาท  เช่น การผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) ระยะที่ 2 และโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าชธรรมชาติ  นอกจากนี้ยังพิจารณาอนุมัติส่งเสริมการลงทุนกิจการขนาดเล็ก และขนาดกลาง ที่มีขนาดเงินลงทุนไม่เกิน 750 ล้านบาท ซึ่งคณะอนุกรรมการฯบีโอไอ มีอำนาจอนุมัติ โดยไม่ต้องเสนอบอร์ดบีโอไอ  จำนวน 91 โครงการ เงินลงทุนรวม 12,425 ล้านบาท ซึ่งกระจายหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กิจการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล กิจการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัด กิจการผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมายของประเทศ และบีโอไออยู่ระหว่างกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมของประเทศ            ขณะเดียวกันได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตเครื่องผลิตน้ำมันจากพลาสติกและเครื่องคัดแยกขยะ รวมทั้งกิจการผลิตเครื่องมือแพทย์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกในด้านแผงวงจรพิมพ์และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ โทรคมนาคม และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งผู้ประกอบการมีแผนจะเข้ามาผลิต เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือด เครื่องปั้มหัวใจ เครื่องวิเคราะห์ก๊าชในปอด เครื่องวิเคราะห์ระบบประสาท ในไทย รวมทั้งได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุน กิจการที่มีการใช้วัตถุดิบในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล  อาทิ การแปรรูปจากผลิตยางในโครงการผลิตเส้นยางยืด การผลิตยางแท่งและหรือยางผสม การผลิตถุงมือยางสังเคราะห์   “ที่ผ่านมา บีโอไอได้เร่งพิจารณาโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการทำงานของคณะอนุกรรมการฯและคณะทำงานฯ ซึ่งสามารถอนุมัติหรือไม่อนุมัติโครงการที่อยู่ภายใต้อำนาจการพิจารณาได้ทันที โดยที่ผ่านมาทั้ง 2 คณะได้มีการประชุมเพื่ออนุมัติโครงการส่งเสริมการลงทุนทุกสัปดาห์  ซึ่งมีส่วนช่วยให้สามารถเร่งให้การอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น และส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ  และขณะนี้นักลงทุนมีความาเชื่อมั่นขอลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่า ทิศทางการลงทุนจะยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ภาพรวมการลงทุนของไทยปีนี้อาจสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ระดับ 700,000 ล้านบาท”   

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บีโอไอชงประยุทธ์ ไฟเขียว 24 โครงการ9หมื่นล.

Page 38 of 1552:« First« 35 36 37 38 39 40 41 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file