shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

สรรพสามิตเผย ยังไม่ปรับภาษีน้ำมัน

 นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพาสามิต เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวเกี่ยวกับการเสนอปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตกลุ่มเบนซินและดีเซลให้อยู่ในระดับเดียวกัน ว่า ขณะนี้ กรมฯ ยังไม่ได้พิจารณาในรายละเอียดเพื่อปรับโครงสร้างภาษีนน้ำมันให้เหลือเท่ากันที่ 3 บาทต่อลิตร เพราะยังไม่ได้รับนโยบายมาโดยปัจจุบันเบนซินจัดเก็บภาษีอยู่ที่ 5.60 บาทต่อลิตร,แก๊สโซฮอลล์ 91 และ 95 จัดเก็บภาษีอยู่ที่ 5.04 บาทต่อลิตร ส่วนภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 0.75 บาทต่อลิตร    นอกจากนี้ กรมฯ กำลังชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมต่อกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับแนวทางการแก้กฎหมายสรรพสามิตจาก 7 ฉบับ ให้เหลือ 1 ฉบับ เพื่อทำให้การเก็บภาษีมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะเปลี่ยนฐานการเก็บภาษีที่ปัจจุบันเก็บจากฐานราคาหน้าโรงงานสำหรับสินค้าที่ผลิตในประเทศ และเก็บจากฐานราคาสำแดงนำเข้า (ซีไอเอฟ) กรณีสินค้านำเข้าให้มาเป็นการเก็บภาษีจากฐานราคาขายปลีกหมดทุกชนิดสินค้า โดยหลังจากนี้จะเสนอให้กฤษฎีกาพิจารณา ก่อนเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาเป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศใช้กฎหมายฉบับใหม่ได้ภายในปีงบประมาณ 58

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สรรพสามิตเผย ยังไม่ปรับภาษีน้ำมัน

Posts related

 














ชงรัฐบาล จำกัดนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ต

นายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ภาคใต้ เปิดเผยหลังการหารือกับนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ว่า ได้เสนอแนวคิดการจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ไม่เพิ่มสูงขึ้นเกินขีดความสามารถในการรองรับ และหันไปส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ในกลุ่มที่นักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายสูงแทน เนื่องจากปัจจุบันภูเก็ตกำลังประสบปัญหานักท่องเที่ยวแออัด และมีการกระทำผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นหลายด้าน “เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ได้มีการหารือกับภาครัฐของกระทรวงการท่องเที่ยว ถึงปัญหาด้านแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในภูเก็ต และได้เสนอแผนแก้ปัญหาท่องเที่ยวไปหลายแนวทาง หนึ่งในแผนระยะยาว คือการเสนอให้มีการจำกัดนักท่องเที่ยวภูเก็ตในระยะยาว นอกจากนี้ยังพูดคุยถึงการวางทิศทางการท่องเที่ยวภูเก็ตในระยะยาว ที่นอกจากจะต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แล้ว ยังรวมถึงการเพิ่มความเข้มงวดของกฎหมายด้วย” ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นชัดเจน คือ ปัญหาของธุรกิจโรงแรมผิดกฎหมายจำนวนมาก ที่อาศัยความได้เปรียบเรื่องต้นทุนที่ต่ำกว่าเมื่อไม่ต้องปฏิบัติตามกรอบกฎหมายกำหนด มาทำราคาแข่งขัน หรือกระทั่งการผูกขาดตลาดกรุ๊ปทัวร์บางกลุ่มไว้ในมือ ซึ่งทำให้โรงแรมไม่สามารถปรับขึ้นราคาห้องพักได้ โดยเฉพาะโรงแรมระดับ 4 ดาวที่ได้รับความนิยมสูง เพราะต้องลดราคาลงมาขายเท่ากับราคา 3 ดาว เฉลี่ยไม่เกิน 2,500 บาทต่อคืน “ปัจจุบันที่พักทั่วจังหวัดภูเก็ตมีประมาณ 70,000 ห้อง แต่ส่วนใหญ่กว่า 60% เป็นโรงแรมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยสามารถแบ่งได้เป็นสถานประกอบการที่ติดป้ายการค้าว่าเป็นโรงแรม แต่ไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมายประมาณ 40% ซึ่งแนวโน้มที่พักประเภทนี้เติบโตมาก เพราะเป็นการลงทุนของต่างชาติที่มักควบรวมกิจการนำเที่ยวไว้ในมือ และส่งกรุ๊ปทัวร์ของตัวเองเข้าตามโรงแรมเหล่านี้ และมีตลาดใหญ่อย่างรัสเซีย และ จีน ที่เป็นลูกค้าหลัก ตามด้วยเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ 30%, คอนโดมิเนียมต่างๆ 20% และโครงการวิลล่าริมทะเลต่างๆ อีก 10%” นางละเอียด บุ้งสีทอง นายกสมาคมโรงแรมภาคเหนือ กล่าวว่า ขณะนี้โรงแรมผิดกฎหมายที่ผุดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่มีกว่า 60% ซึ่งกลายเป็นปัญหาทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านราคาเกิดขึ้น หลังจากนี้สมาคมจึงต้องเร่งรณรงค์ให้ผู้ประกบการเข้ามาจดทะเบียนให้ถูกต้องเพื่อให้มีข้อมูลในระบบ และในส่วนของภาครัฐก็จะต้องเข้มงวด ทั้งด้านกฎหมาย และด้านการออกใบอนุญาติการก่อตั้งเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ หรือ โรงแรมให้มากขึ้นกว่านี้ 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชงรัฐบาล จำกัดนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ต

บริษัทร่วมทุนไทย จ่อเซ็นลงทุนทวาย 3 หมื่นล.

นายอาคมเติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่าในช่วงการประชุมระดับสุดยอดผู้นำอาเซียน(อาเซียนซัมมิต)ครั้งที่25ระหว่างวันที่12-13พ.ย.นี้ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์คาดว่ารัฐบาลเมียนมาร์จะมีการลงนามในสัญญาร่วมทุนระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์(ไอทีดี)กับสวนอุตสาหกรรมโรจนะเพื่อเข้าพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องในระยะแรก เพราะจากการประมูลเพื่อคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนมีเพียงบริษัทร่วมทุนไอทีดี-โรจนะเพียงรายเดียวเท่นนั้นที่เข้ามายื่นข้อเสนอโดยการพัฒนาพื้นที่ในระยะแรกนั้นจะพัฒนาพื้นที่จำนวน27ตารางกิโลเมตรจากทั้งหมด 196ตารางกิโลเมตรรวมทั้งการลงทุนพัฒนาถนนเชื่อมต่อจากชายแดนประเทศไทยไปยังโครงการด้วย “การเปิดประมูลที่ผ่านมามีเพียงบริษัทร่วมทุนไทยยื่นข้อเสนอเข้ามาจากเดิมที่คาดว่าจะมีทางญี่ปุ่นเข้ามายื่นด้วยแต่สึดท้ายก็ไม่ได้ยื่นข้อเสนอซึ่งตอนนี้ทางเมียนมาร์กำลังอยู่ระหว่างดูรายละเอียดการประมูลคาดว่า จะตัดสินใจได้ภายในปลายเดือนต.ค.นี้และหากถ้าไม่มีอะไรก็คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในช่วงประชุมอาเซียนซัมมิต โดยการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวนั้นก่อนหน้านี้ทางไอทีดีได้เริ่มลงทุนโครงการไปบางส่วนแล้วแต่หลังจากได้กำหนดให้มีการโอนสัมปทานเดิมของไอทีดีมาให้บริษัททวาย เอส อี แซด ดีเวลล๊อปเม้นท์จำกัดซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการก็ทำให้ไอทีดีต้องหยุดไป” ขณะเดียวกันหลังจากได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการในระยะแรกแล้วในระยะต่อไปจะเริ่มดำเนินการทันทีโดยล่าสุดยังต้องรอผลศึกษาให้เสร็จสิ้นก่อนและคาดว่าในระยะนี้ญี่ปุ่นอาจสนใจเข้ามาร่วมลงทุนด้วยซึ่งการพัฒนาในระยะนี้จะครอบคลุมโครงสร้างหลักต่างๆในโครงการ โดยในภาพรวมทั้งหมดจะครอบคลุม งานก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมท่าเรือน้ำลึก โรงไฟฟ้าระบบน้ำ การพัฒนาชุมชนการพัฒนาเมืองและการจัดทำแผนโยกย้ายคนออกจากพื้นที่ นายอาคมกล่าวว่า ในด้านกลไกการบริหารโครงการนั้นล่าสุดได้ปรับโครงสร้างคณะกรรมการร่วมจากที่มีอยู่ทั้งหมด3ระดับในรัฐบาลก่อนคือ คณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมาร์(เจเอชซี)คณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมาร์(เจซีซี)และคณะทำอนุกรรมการร่วม6สาขาเหลือเพียงคณะกรรมการระดับนโยบายและคณะอนุกรรมการฯ เท่านั้นซี่งในคณะกรรมการระดับนโยบายได้มอบหมายให้ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเทวกุล รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการร่วมกับรองนายกฯของฝ่ายเมียนมาร์ ก่อนหน้านี้นายสมเจตน์ทิณพงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทวาย ดีเวลลอปเมนต์จำกัด ผู้บริหารโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมและท่าเรือน้ำลึกทวายกล่าวว่า การลงทุนในระยะดังกล่าวจะใช้วงเงินลงทุนประมาณ30,000ล้านบาทโดยไอทีดีจะเป็นผู้ลงทุนหลัก ///////////////

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บริษัทร่วมทุนไทย จ่อเซ็นลงทุนทวาย 3 หมื่นล.

Page 39 of 1552:« First« 36 37 38 39 40 41 42 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file