shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

‘เฟซบุ๊ก’ จับมือ ‘ดีแทค’ พันธมิตรรายแรกในไทย

“เฟซบุ๊ก” โซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์อันดับ 1 ของโลก ได้เข้ามาเป็นพันธมิตรกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของไทยรายแรก และเป็นรายที่ 6 ของโลกที่ได้จับมือกันโดยมีจุดมุ่งหมายขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนไทยให้ได้มากขึ้นนายมาร์คคู มาเคไลเน่น ผู้อำนวยการฝ่าย โกลบอล โอปอเรเตอร์ พาร์ทเนอร์ชิฟ ของ เฟซบุ๊ก กล่าวว่า ปัจจุบันมีคนไทยใช้เฟซบุ๊กจำนวน 24.5 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือเครือข่ายดีแทค จำนวน 11 ล้านคน และโดยส่วนใหญ่มีการใช้งานเฉลี่ย 2.5 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งถือเป็นเวลาที่ยาวนานกว่าในช่วงเวลาที่คนชมโทรทัศน์มากที่สุด(ไพร์มไทม์) การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับดีแทค เนื่องจากมีนโยบายที่ต้องการเพิ่มการเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตเหมือนกัน โดยดีแทคมี โครงการอินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล (Internet for All) ขณะที่เฟซบุ๊กมี โครงการ Internet.org ที่ได้ร่วมทำกับอีก 6 บริษัทไอทีชั้นนำ ที่มีเป้าหมายขยายโอกาสให้ผู้ยากไร้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น จึงเป็นเรื่องที่สอดคล้องกัน“ปัจจุบันประชากรโลกมีอยู่ประมาณ 7,000 ล้านคน แต่มีเพียง 3,000 ล้านคนเท่านั้นที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ที่เหลืออีก 4,000 ล้านคนยังเข้าไม่ถึง จึงได้เกิดโครงการ Internet.org ขึ้นมาเพื่อขยายโอกาสให้บุคคลกลุ่มนี้ได้ใช้อินเทอร์เน็ตในการเพิ่มโอกาสในด้านต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น ซึ่งภายใน 2 ปีข้างหน้า คาดว่าประชากรโลกจำนวน 85-90% จะสามารถเข้าถึงโครงข่ายโทรศัพท์มือถือได้ ไม่ว่าจะเป็นในระบบ 2จี หรือ 3จี ซึ่งจะช่วยทำให้ประชากรโลกเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีคนใช้งานเฟซบุ๊กทั่วโลกอยู่ที่ 1,320 ล้านคนต่อเดือน ในจำนวนนี้เป็นการเข้าใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือประมาณ 1,000 ล้านคน และอีกประมาณ 320 ล้านคน ใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์พีซี”อย่างไรก็ตามปัจจัยหลักที่จะมีส่วนช่วยให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น คือ 1. โครงสร้างพื้นฐาน 2. ความต้องการใช้งาน 3. ความสามารถในการใช้ของคน และ 4. ค่าใช้จ่ายที่ผู้ใช้งานสามารถจ่ายได้ ซึ่งที่ผ่านมาเฟซบุ๊กได้เข้าไปร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในประเทศต่าง ๆ เพื่อจัดทำแพ็กเกจค่าบริการให้มีราคาถูกลงเพื่อให้คนมีกำลังที่จะจ่ายได้ขณะที่ นายซิกวาร์ท โวส เอริคเซน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด ของดีแทค กล่าวว่า จากนโยบาย อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล (Internet for All) ที่ต้องการขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนไทย ดีแทคจึงได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับเฟซบุ๊ก ที่ถือเป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารที่คนใช้นิยมใช้ และมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่เริ่มใช้อินเทอร์เน็ตจากการใช้เฟซบุ๊ก ซึ่งมีฟีเจอร์และฟังก์ชั่นใช้งานที่หลากหลายทั้งการติดต่อสื่อสารกับเพื่อน การติดตามข่าวสาร ฯลฯ“ดีแทคมีเป้าหมายเป็นผู้นำในการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ ขณะเดียวกันนโยบายอินเทอร์เน็ต ฟอร์ออล ก็ต้องการเพิ่มการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนไทย การร่วมกับเฟซบุ๊กจะช่วยทำให้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น โดยปัจจุบันลูกค้าดีแทคมีการใช้งานเฟซบุ๊กประมาณ 11 ล้านคน โดยเป็นลูกค้าใน กทม. 50% และต่างจังหวัด 50% เป็นลูกค้าแฮปปี้หรือแบบเติมเงิน 8 ล้านเลขหมาย และลูกค้าดีแทคแบบรายเดือน 3 ล้านเลขหมาย จึงมีเป้าหมายเพิ่มการใช้งานของลูกค้าแฮปปี้เป็น 16 ล้านเลขหมายในสิ้นปี 58 โดยในส่วนการใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือดาต้า เพิ่มขึ้นเป็น 50% และเมื่อถึงปี 60 จะเพิ่มขึ้นเป็น 80%”ด้านนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด กล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรกับเฟซบุ๊ก จะมีบริการใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยแคมเปญแรก คือ แฮปปี้ คอนเนคชั่น ที่ใช้งบประมาณกว่า 150 ล้านบาท ในระยะ 6 เดือน เพื่อให้ลูกค้าแฮปปี้แบบเต็มเงิน ได้สิทธิประโยชน์จากการเข้าใช้งานเฟซบุ๊ก โดยจะให้สิทธิใช้งานเฟซบุ๊กฟรีสูงสุด 6 เดือน สำหรับลูกค้าที่ซื้อซิมแฮปปี้ทุกรุ่น และเมื่อเข้าใช้งานเฟซบุ๊ก แล้วมีการกดเข้าชมลิงก์อื่น ๆนอกเหนือจากเฟซบุ๊กจะได้รับการแจ้งเตือน เพื่อป้องกันการถูกเรียกเก็บค่าอินเทอร์เน็ตเพิ่ม และถือเป็นครั้งแรกในไทยที่ลูกค้าจะสามารถใช้สัญลักษณ์รอยยิ้มแฮปปี้ เพื่อบอกความรู้สึกสำหรับตั้งสถานะบนเฟซบุ๊ก ขณะที่ลูกค้าแฮปปี้ปัจจุบันก็สามารถสมัคร 3 โปรเสริมแบบคิดตามปริมาณการใช้งานที่ให้สิทธิใช้ฟรีเฟซบุ๊กเมื่อสมัครใช้งานได้ด้วย“ความร่วมมือนี้ในแคมเปญนี้เฉพาะลูกค้าแฮปปี้ เนื่องจากลูกค้าแบบรายเดือนส่วนใหญ่จะมีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้แฮปปี้สามารถเข้าใช้งานเฟซบุ๊กด้วยการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น ทั้งการอัพโหลดรูปภาพ เนื่องจากจะมีการเชื่อมต่อระบบเพื่อลิงก์ไปยังเฟซบุ๊กที่สิงคโปร์โดยตรง” นายปกรณ์ ระบุต้องติดตามกันต่อว่าหลังจากจูบปากเป็นพันธมิตรกันแล้วต่อจากนี้เฟซบุ๊กและดีแทคจะมีการนำเสนอเทคโนโลยีและบริการใหม่ ๆ แบบไหนให้กับลูกค้าได้ใช้งานอีก ซึ่งผู้บริหารทั้งสองบริษัทยืนยันว่ามีแน่ ๆ แต่ขออุบไว้ก่อนจะเฉลยเมื่อถึงเวลา.จิราวัฒน์ จารุพันธ์
JirawatJ@dailynews.co.th

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘เฟซบุ๊ก’ จับมือ ‘ดีแทค’ พันธมิตรรายแรกในไทย

Posts related

 














ไอดีซีเผยภาพรวมตลาดพีซีในเอเชีย

ยอดจำหน่ายคอนซูมเมอร์พีซี ช่วยดันตลาดเอเชียแปซิฟิกในไตรมาส 3 ปี 57 แต่ภาพรวมทั้งปีตลาดยังคงหดตัวลงรายงานการสำรวจตลาดเบื้องต้นของไอดีซี เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2557 พบว่า ตลาดพีซีภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) โตขึ้นร้อยละ 8 จากไตรมาส 2 ปี 2557 แต่ลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2556 โดยมียอดจำหน่ายอยู่ราว 26.6 ล้านเครื่องสูงกว่าที่ ไอดีซี ได้ประเมินไว้ในเบื้องต้นการขยายตัวในภูมิภาคนี้มาจาก ยอดจำหน่ายที่สูงเกินคาดในกลุ่มตลาดคอนซูมเมอร์ โดยเฉพาะใน 2 ตลาดหลักอย่างจีนและอินเดีย ในประเทศอินเดีย ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาอีกครั้ง หลังจากเลือกตั้งส่งผลให้ยอดค้าปลีกขยับตัวสูงขึ้น ขณะที่ ประเทศจีน เกิดจากการผลักสต๊อกไปให้บริษัทตัวแทนจำหน่าย แม้ว่ายอดขายออกจะไม่ค่อยดีนัก สำหรับในกลุ่มประเทศอาเซียน ตลาดก็ยังคงมีความหลากหลายอย่างใน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ตลาดทั้งปีหดตัวลงเป็นตัวเลขสองหลัก ขณะที่ประเทศอื่น ๆ อย่างเวียดนาม ตลาดกลับขยายตัว“การเลิกสนับสนุนวินโดวส์ เอ็กซ์พี มีส่วนช่วยกระตุ้นยอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีที่กลุ่มผู้ใช้งานภายในองค์กรในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในครึ่งปีหลัง ไมโครซอฟท์ เริ่มทำตลาดล่างมากขึ้นด้วยการออกวินโดวส์ 8.1 พ่วงไปกับโปรแกรมบิง เป็นการจูงใจให้ซื้อระบบปฏิบัติการ สำหรับคอมพิวเตอร์พีซีที่เป็นลิขสิทธิ์แท้สำหรับผู้ใช้งานกลุ่มคอนซูมเมอร์ในหลายประเทศของภูมิภาคนี้” นายแอนดี้ ฮันโดโก ผู้จัดการฝ่ายวิจัยตลาด ด้านอุปกรณ์ไคลเอนท์ ประจำ ไอดีซี เอเชียแปซิฟิก กล่าวรายงานไอดีซี ระบุว่า เลอโนโว ยังคงรั้งอันดับหนึ่งในภูมิภาคนี้และมีอัตราการเติบโตสูงเป็นตัวเลขสองหลักโดยเฉพาะในประเทศจีนและอินเดีย เดลล์ อยู่อันดับสอง มีแรงหนุนมาจากการเติบโตของตลาดล่างในบางประเทศเช่น อินเดีย และ เวียดนาม.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไอดีซีเผยภาพรวมตลาดพีซีในเอเชีย

ตลาด ‘โมบาย เกม’ เติบโตขึ้นเท่าตัว

โมบาย เกม เมืองไทยโตเท่าตัว ชี้อีก 3 ปีมีสิทธิกินสัดส่วนตลาดรวมมากกว่าครึ่ง จากในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่า 2,000 ล้านบาท เร่งยกระดับงานไทยแลนด์ เกมโชว์ บิ๊ก เฟสติวัล ให้ยิ่งใหญ่เชิญต่างประเทศร่วมจัดงาน รับการเปิดตลาดเออีซีในปี 58 ยกระดับอุตสาหกรรมเกมของไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคน.ส.จิรัฐติกาล สุทธิวรรณารัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู ไอคอนเท้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเกมของไทยในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเกมออนไลน์ 4,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นฉลี่ยปีละ 5-10% ขณะที่โมบายเกมมีมูลค่า 2,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นมากกว่า 100% อย่างไรก็ตามจากการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟน ทำให้คาดการณ์อย่างน้อยใน 3 ปีข้างหน้า มีโอกาสที่โมบายเกม จะมีสัดส่วนในตลาดเกมมากกว่า 50% เนื่องจากจะมีการพัฒนาโมบายเกมออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น รองรับความนิยมเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ“ปีนี้โมบายเกมมีอัตราการเติบโตมากกว่าเท่าตัว จากปีที่แล้วมีมูลค่าไม่มาก ซึ่งแนวโน้มต่อจากนี้ยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดดอยู่ หลังจากปีนี้มีเกมคุกกี้ รัน และเกมเศรษฐีของไลน์ เป็นตัวกระตุ้นตลาด ซึ่งจากข้อมูลของต่างประเทศระบุว่าตลาดเกมของไทยมีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่ 31 ของโลกและอันดับ 4 ของเอเชียเป็นรองเพียง จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เท่านั้น ทำให้มีบริษัทเกมจากต่างประเทศสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง”ทั้งนี้จากการเติบโตดังกล่าว บริษัทในฐานะผู้จัดงานไทยแลนด์ เกมโชว์ บิ๊ก เฟสติวัล ร่วมกับ บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด ก็มีแผนจะจัดงานในปีหน้า (พ.ศ. 2558) ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม โดยจะเชิญบริษัทเกมจากต่างประเทศมาร่วมงานเพิ่มมากขึ้น และเปิดโอกาสให้มีการเจรจาธุรกิจระหว่างชาวต่างชาติและบริษัทเกมชั้นนำของไทย จากที่ในปีนี้มีมาจากประเทศจีน สิงคโปร์ และฝรั่งเศส เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี พ.ศ. 2558 โดยมีเป้าหมายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเกมและการจัดงานเกมในภูมิภาคนี้ให้ได้.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ตลาด ‘โมบาย เกม’ เติบโตขึ้นเท่าตัว

Page 18 of 805:« First« 15 16 17 18 19 20 21 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file