ในสหรัฐอเมริกา การจัดการกองทุนทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กก็ยังส่อถึงประสิทธิภาพต่ำหลายกองทุน วิธีการจัดการความชัดเจน เลยทำให้ผลลัพธ์อัตราการตอบแทนหรือไออาร์อาร์ (IRR) รวมกันแล้วยังเป็นศูนย์บทความที่แล้วได้เขียนถึงกองทุนขนาดใหญ่ที่สุดของอเมริกาเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญยังมีพฤติกรรมเป็น “กองทุนผู้ป่วย” เพราะเกิดการลงทุนที่มุ่งแต่หวังเงินคืนกำไรระยะสั้นจึงขาดการลงทุนระยะยาวที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และก็มาดูกองทุนขนาดเล็กทั่วไปว่ามีการลงทุนเพื่อนวัตกรรมการตลาดเพื่อสร้างงานอย่างไรบ้างในปัจจุบันทางรัฐบาลสหรัฐให้แบงก์จ่ายดอกเบี้ยสำหรับเงินเก็บสะสมต่ำเกือบศูนย์ เพื่ออยากให้เกิดการลงทุนมากขึ้น แต่บริษัทและนักลงทุนต่าง ๆ ก็ยังมักจะลงทุนโดยเสนอแผนธุรกิจซึ่งมักจะสามารถคืนทุนได้ถึง 5 เท่าขึ้นไป และนักลงทุนมืออาชีพทั้งหลายจริง ๆ แล้วก็อยากได้เงินคืนบวกกำไรที่สูงมากกว่านี้อีกโดยทั่วไป แผนธุรกิจบริษัทก็มักจะเสนอคืนกำไรประมาณ 20 ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งมักจะคิดคำนวณการลงทุนในอนาคตจากมูลค่าในปัจจุบัน (Present Value) แล้วปรับความเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อก่อให้เกิดกำไรของปีต่าง ๆ ในอนาคต (Future Value) แต่แท้จริงแล้วไม่ว่าราคาของกองทุนจะมีมูลค่าเท่าไร อัตราการคืนกำไรของกองทุนก็ยังคงเป็นศูนย์ ซึ่งนักลงทุนมักจะไม่ยอมสังเกตเห็นตรงนี้นักลงทุนมักจะมองว่าหลายบริษัทที่แข่งขันหากำไรให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งโดยมากมักจะเป็นสูตรหรืออัตราคืนกำไรประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่อย่างไรก็ตามเมื่อรวมกับทุนบริษัทและนักลงทุนทุกรายรวมกัน อัตราคืนกำไรก็จะใกล้เคียงศูนย์อยู่ดี ซึ่งตรงนี้ ศาสตราจารย์ วิลเลี่ยม ซาลแมน ได้เรียกปัญหาตรงนี้ว่า “ตลาดลงทุนแบบสายตาสั้น”เมื่อเข้าไปศึกษาถึงตลาดการลงทุน และศึกษาลึกไปถึงการลงทุนและเพื่อการวิจัยและพัฒนา จะเห็นได้ว่ามีจำนวนน้อยบริษัทมากที่ใช้เงินเพื่อสร้างนวัตกรรมเพื่อให้เกิดการจ้างงาน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจแต่การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มักจะเป็นบริษัทที่มุ่งผลกำไรระยะสั้นและเป็นบริษัทที่เป็นนวัตกรรมเพื่อประสิทธิภาพ คือลดค่าใช้จ่ายเพื่อก่อให้เกิดกำไรในระยะสั้น การลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้เกิดนวัตกรรม ตลาดการจ้างงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้จึงมักจะไม่ค่อยมีบรรดาศิษย์เก่าฮาร์วาร์ดซึ่งได้มาร่วมสัมมนาศึกษาต่าง ๆ รู้สึกทุกข์ใจเพราะกระบวนการจัดสรรทรัพยากรก็ยังมุ่งสู่ผลกำไร โอกาสการเติบโตเร็วและมักจะมุ่งสู่ลูกค้าในอนาคต ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้เกิดทางตัน เพราะนักลงทุนทั้งหลายมักจะแข่งขันกันเพื่อหาผลสำเร็จง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่มีหลายบริษัทแข่งขันกันอย่างดุเดือดให้เลือกในตลาดการลงทุน การลงทุนเพื่อทำให้เกิดตลาดใหม่จึงเป็นไปได้ยากศิษย์เก่าฮาร์วาร์ดหลายคนที่เป็นซีอีโอของบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นนิวยอร์กก็ยอมรับว่า “เราลืมเรื่องการลงทุนในพอร์ตหลายรูปแบบแต่มักจะมุ่งตรงไปถึงการใช้มาตรวัดทางการเงินเพื่อกำไร” ซึ่งก็ยอมรับว่ามักจะพุ่งตรงไปที่ประสิทธิภาพในการคืนกำไรในระยะสั้น ซึ่งถ้าหากมีรูปแบบของการลงทุนที่แตกต่างจากนี้ เขามักจะไม่สนใจ และธนาคารก็มักจะถูกรุมเร้าด้วยการขอกู้ยืมเงินจากบริษัทต่าง ๆ ที่มุ่งหวังผลประโยชน์ระยะสั้นซึ่งทำให้เกิดปัญหาระยะยาว แม้ว่าทางกองคลังกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Re serve) จะกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการลงทุนด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารให้ต่ำแต่ดูเหมือนไร้ความหมาย เพราะนักลงทุนเขาไม่สนใจอัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำหรือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำอยู่แล้วปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากวิธีการอัตราของทุนเหล่านี้จึงถือว่ามีประสิทธิภาพต่ำ เพราะไม่สามารถทำให้เกิดการจ้างงานขนาดใหญ่ ก่อให้เกิดผู้ประกอบการที่สามารถเคลื่อนเศรษฐกิจมาก ๆ ได้จนกระทั่งเกิดคำว่า “มือที่มองไม่เห็น (invisible hand)” ของอดัม สมิธ ที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง“มือที่มองไม่เห็น” ของอดัม สมิธทำให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาปั่นป่วนอยู่ในปัจจุบันจึงต้องมีการจัดระบบทุนนิยมแบบใหม่ของสหรัฐอเมริกา เพื่อให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาแข็งแกร่งจริงจากนวัตกรรมการเสริมสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งผมจะเขียนในบทความต่อไป.รศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล
อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด
boonmark@stamford.edu
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ประสิทธิภาพกองทุนยังต่ำ (8) – โลกาภิวัตน์
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs