shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

สิ่งประดิษฐ์‘iC-HiEd 2014’ – ฉลาดสุดๆ

คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทค โนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัด “โครงการถ่ายทอดองค์ความรู้และประกวดสิ่งประดิษฐ์ (iC-HiEd 2014)” ระดับปริญญาตรี-โท-เอก ชิงรางวัลทุนการศึกษารวม 3 แสนบาท ขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยการประกวดมีผลงานที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ จำนวนรวม 25 ผลงาน เป็น พลังงานทางเลือก 8 ผลงาน เครื่องมือแพทย์ จำนวน 5 ผลงาน และเครื่องจักรกลการเกษตร จำนวน 12 ผลงาน ซึ่งผลตัดสินของคณะกรรมการ ปรากฏว่า 3 สิ่งประดิษฐ์สุดยอดที่มีไอเดียน่าทึ่ง โดยฝีมือคนรุ่นใหม่ ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทพลังงานทางเลือก คือ รถปั่นพลังงานคน 20 ที่นั่ง รางวัลชนะเลิศประเภทเครื่องจักรกลการเกษตร คือ หุ่นยนต์ไต่ต้นมะพร้าวราคาประหยัดเพื่อกำจัดศัตรูพืช และรางวัลชนะเลิศสิ่งประดิษฐ์ประเภทเครื่องมือแพทย์ คือ ชุดถอดประกอบรถเข็นคนพิการแบบใช้ไฟฟ้า น.ส.วรรณวิภา ราศี หัวหน้าทีมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าของผลงาน รถปั่นพลังงานคน 20 ที่นั่ง กล่าวว่า ผลงานรถปั่นพลังงานคน 20 ที่นั่ง มาจากแนวคิดรถที่ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากน้ำมันฟอสซิล และไร้มลพิษ แถมได้ออกกำลังกายเสริมสุขภาพให้แข็งแรงและเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ เหมาะสำหรับใช้ภายในหน่วยงานองค์กร เช่น รถทัศนาจรภายในมหาวิทยาลัย“ใช้เวลาออกแบบและผลิตประมาณ 6 เดือน ตัวถังเป็นรถบัสขนาดมาตรฐานตามกฎหมายการขนส่งที่เคลื่อนที่โดยใช้คนปั่น 20 ที่นั่ง ซึ่งมีแป้นถีบ จานและโซ่แบบจักรยาน รถมีเพลา 6 แถว และส่งกำลังผ่านโซ่ ขับเพลารวมไปที่เกียร์ ขับเคลื่อนล้อหลัง ในการขับเคลื่อนจะมีผู้คุมรถซึ่งทำหน้าที่เหยียบปล่อยคลัตช์เข้าเกียร์กระปุก 1-2-3 ตามระดับความเร็ว และเกียร์ถอยหลัง รวมทั้งการเหยียบเบรกเพื่อชะลอและหยุดรถ ส่วนเกียร์เป็นแบบทดแรงช่วยให้คนปั่นไม่ต้องออกแรงมากจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีไดนาโมสำหรับเก็บแรงปั่นเป็นไฟฟ้าสำหรับใช้กับไฟหน้า ไฟเลี้ยวและไฟภายในรถ น้ำหนักรถ 2 ตัน มีความเร็วสูงสุด 20 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง นับเป็นพาหนะที่ใช้พลังงานทางเลือกและเป็นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”ขณะที่รางวัลชนะเลิศประเภทเครื่อง จักรกลการเกษตร นายนวภัณฑ์ ศุภวัตน์ หัวหน้าทีมจากสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เจ้าของผลงานสิ่งประดิษฐ์ หุ่นยนต์ไต่ต้นมะพร้าวสำหรับกำจัดศัตรูพืช กล่าวว่า แรงบันดาลใจในการสร้าง หุ่นยนต์ไต่ต้นมะพร้าว มาจากการได้ศึกษาข้อมูลปัญหาของเกษตรกรสวนมะพร้าว ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย และไทยเราเป็นผู้ผลิตมะพร้าวรายใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันสวนมะพร้าว ทางภาคใต้มักจะประสบปัญหาเรื่องแมลงหนอนหัวดำระบาด กัดกินใบและยอดมะพร้าวทำให้มะพร้าวยืนต้นตายจำนวนมากในพื้นที่ระบาด เกษตรกรบางรายถึงขั้นทิ้งสวนมะพร้าวเพราะไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับปัญหานี้ดีจึงได้ออกแบบหุ่นยนต์ไต่ต้นมะพร้าวทำด้วยวัสดุอะลูมิเนียมมีน้ำหนักเบาโดยมีแท็งก์พร้อมหัวฉีดด้านหลังบรรจุยาหรือสารกำจัดศัตรูพืชได้ 2 ลิตร ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 12 โวลต์ เคลื่อนที่ขึ้น-ลงด้วยล้อ 3 ล้อที่ทำจากวัสดุซูพิลีน ผู้ใช้ควบคุมการทำงานหุ่นยนต์ด้วยรีโมตคอนโทรล เมื่อหุ่นยนต์ไต่ขึ้นถึงยอดแล้วจะฉีดพ่นใต้ใบมะพร้าว ซึ่งแต่ก่อนเกษตรกรใช้รถเครนบรรทุกถังฉีดแล้วต่อท่อหัวฉีดแรงดันสูง ซึ่งสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและเปลืองปริมาณสารกำจัดศัตรูพืชสูงถึง 10 ลิตรต่อต้น ส่วนคนที่ฉีดยาจะโดนละอองของสารเคมีไปด้วย หุ่นยนต์ไต่ต้นมะพร้าวจึงสามารถช่วยเกษตรกรประหยัดค่าใช้จ่ายยาปราบศัตรูพืช โดยลดปริมาณการใช้ยากำจัดศัตรูพืชจาก 10-20 ลิตรต่อต้น ให้เหลือเพียง 2 ลิตรต่อต้น รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัยต่อเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเกษตรกร การประดิษฐ์เน้นราคาประหยัด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่มีรายได้น้อยสุดท้ายเป็นผลงาน ชุดถอดประกอบรถเข็นคนพิการแบบใช้ไฟฟ้า โดย นายพงษ์สิทธ์ มิสา หัวหน้าทีมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าของผลงานสิ่งประดิษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรผู้ป่วยที่ต้องนั่งวีลแชร์และพิการหลายล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเนื่องด้วยไทยจะก้าวเป็นสังคมคนสูงวัยมากขึ้น แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานนี้เพื่อจะได้ช่วยให้ผู้พิการที่นั่งวีลแชร์อยู่แล้วสามารถเพิ่มการติดตั้งชุดถอดประกอบรถเข็นคนพิการแบบใช้ไฟฟ้าเข้ากับส่วนหน้าของวีลแชร์ สำหรับการสัญจรภายในและนอกอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ“จุดเด่นของชุดถอดประกอบรถเข็นคนพิการแบบใช้ไฟฟ้า คือ มีน้ำหนักเพียง 20 กิโลกรัม ด้วยการออกแบบข้อต่อแบบพิเศษ ทำให้ผู้พิการสามารถถอดประกอบได้ด้วยตนเองและสะดวกง่ายดายเพียงยกแล้วหมุนบิดลงล็อก ส่วนปุ่มบังคับการเคลื่อนที่จะอยู่บนมือจับด้านขวา ล้อหน้าเมื่อวิ่งไปกระทบพื้นลูกคลื่นหรือทางชันบนฟุตปาธจะยก 2 ล้อหน้าของวีลแชร์ขึ้น ลดแรงสะเทือนลง ทำให้วิ่งได้เรียบด้วยล้อหน้า และ 2 ล้อหลังของวีลแชร์ ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมสามารถทำงานได้ 4-5 ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟ หนึ่งครั้ง ไม่มีมลพิษ สิ่งประดิษฐ์นี้จึงช่วยให้ผู้พิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งร่างกาย จิตใจและสังคม สามารถช่วยเหลือตัวเอง และทำภารกิจในชีวิตประจำวันได้สะดวกขึ้น เป็นอุปกรณ์ในราคาประหยัดและช่วยลดการนำเข้า” นายพงษ์สิทธ์ กล่าวผศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นความสนใจ การพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศไทยให้ยั่งยืน ช่วยลดการนำเข้าและการพึ่งพาจากต่างประเทศ และสร้างเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลงานประดิษฐ์คิดค้นด้านพลังงานทางเลือก เครื่อง จักรกลการเกษตรและเครื่องมือทางการแพทย์ พร้อมสร้างพันธมิตรและเครือข่ายความร่วมมือในการวิจัยสิ่งประดิษฐ์ของนิสิตนักศึกษาในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาของประเทศไทยด้วยนับว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์จากเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งทุกผลงานสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและพลังสร้างสรรค์พร้อมไอเดียของคนไทยที่สามารถตอบโจทย์และนำไปใช้ประโยชน์เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาสังคมได้จริง.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สิ่งประดิษฐ์‘iC-HiEd 2014’ – ฉลาดสุดๆ

Posts related

 














ปณท เร่งตรวจสอบคูปองทีวิดิจิตอลที่ธัญบุรีกรณีฉีกขาด

วันนี้ (13 ต.ค.) นายปิยะวัตร์ มหาเปารยะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส (สายงานระบบปฏิบัติการ) รักษาการในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวถึงความคืบหน้าในการนำจ่ายคูปองส่วนลดสำหรับแลกซื้ออุปกรณ์รับชมทีวีระบบดิจิตอล 21 จังหวัดนำร่องว่า ดำเนินการไปได้แล้วทั้งสิ้นกว่า 770,000 ชิ้น ใน 6 จังหวัดแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี โดยคาดว่าจะสามารถนำจ่ายได้แล้วเสร็จทั้ง 4.65 ล้านชิ้น ภายในวันที่ 18 ต.ค.นี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถนำคูปองที่ได้รับไปใช้สิทธิ์ได้ในวันที่ 20 ต.ค. ตามที่ กสทช. ระบุไว้ทั้งนี้ หลังทราบข่าวการนำจ่ายคูปองดิจิตอลในพื้นที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จำนวน 1 ราย ว่าได้รับคูปองในสภาพฉีกขาดนั้น ขณะนี้ได้มอบหมายให้ที่ทำการไปรษณีย์ธัญบุรีเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและจะรายงานผลให้ทราบต่อไป โดยขั้นตอนในการนำจ่ายคูปองไปยังครัวเรือนต้องมีผู้เซ็นรับทุกราย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการรับคูปอง กรณีที่นำจ่ายแล้วไม่มีผู้รับอยู่บ้าน เจ้าหน้าที่จะนำไปจ่ายให้ในวันรุ่งขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หากไม่มีใครลงนามรับอีกก็จะหย่อนใบแจ้ง (ขนาดเท่าโปสการ์ด) ไว้ให้เจ้าของบ้านว่าไปรษณีย์ได้มานำจ่ายแล้วแต่ไม่พบคนในบ้าน จึงขอให้ไปติดต่อขอรับ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ เมื่อครบกำหนด 7 วันยังไม่มีผู้มาติดต่อขอรับ ทางเจ้าหน้าที่จะส่งใบเตือนแจ้งให้มารับเป็นครั้งที่ 2ทั้งนี้ หากครบกำหนดเวลา 15 วัน ยังไม่มีผู้มารับอีก ปณท จะเก็บรักษาคูปองไว้เพื่อรอผู้มาติดต่อขอรับจนกว่าคูปองจะหมดอายุการใช้งาน คือ 31 พฤษภาคม 2558 และหากครบกำหนดการใช้คูปอง (31 พ.ค.58) ยังไม่มีผู้มาติดต่อรับ ทางที่ทำการไปรษณีย์จะเก็บรวบรวม และส่งคืน กสทช. ทันที ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบหมายเลขไปรษณีย์ลงทะเบียนได้จากเว็บไซต์ของ กสทช. จากนั้นนำหมายเลขมาเช็คสถานะการจัดส่งได้ผ่านแอพพลิเคชั่น Track & Trace และเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ปณท เร่งตรวจสอบคูปองทีวิดิจิตอลที่ธัญบุรีกรณีฉีกขาด

กสทช.คาดโทษผู้เก็บบัตรปชช.อาสาแลกกล่องทีวีดิจิตอล

วันนี้(13ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.เปิดเผยว่า ภายหลังแจกคูปองไปเมื่อวันที่10 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านคอลเซ็นเตอร์กสทช.1200 จำนวน 1,072 ราย พบมีผู้นำชุมชนดำเนินการรวบรวมเก็บบัตรประจำตัวประชาชนคนในพื้นที่เพื่อนำไปแลกกล่องดิจิตอลกับบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการแลกคูปองโดยเฉพาะในพื้นที่จ.พิจิตร และจ.นครสวรรค์ ซึ่งยังไม่ได้รับแจกคูปองในล็อตแรก ในขณะเดียวกันยังพบว่าประชาชน จ. ปทุมธานี ได้รับคูปองไม่ครบ โดยชิ้นส่วนที่เป็นคูปอง 690 บาทสำหรับนำไปแลกนั้นหายไปได้รับเพียงชิ้นส่วนที่ 1 และ 3 ที่แจ้งรายละเอียดขั้นตอนการใช้งานทั้งนี้การกระทำดังกล่าวได้สั่งการให้สำนักงานเขต กสทช.ในพื้นที่ลงตรวจสอบพร้อมส่งหนังสือไปยังอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นมีหนังสือเวียนแจ้งเตือนไปยังอบจ. อบต.ทั่วประเทศ ว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดรวมถึงส่งหนังสือแจ้งไปยังไปรษณีย์ไทยตรวจสอบคูปองหาย และห้ามบุรุษไปรษณีย์ชี้นำ เชิญชวนประชาชนนำไปแลกกล่องดิจิตอลกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง หากพบว่าบริษัทที่เข้าร่วมโครงการฯ อยู่เบื้องหลัง หรือมีส่วนเกี่ยวข้องจะพิจารณาตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการ และชะลอการเบิกจ่าย นอกจากนี้กสทช.ได้เพิ่มคอลเซ็นเตอร์จำนวน 100 คู่สาย และบริษัทรับช่วงงานจากภายนอก(เอ้าท์ซอร์ส) ที่ได้รับการฝึกอบรมสำหรับตอบปัญหาประชาชนที่โทรเข้ามาสอบถาม“เบื้องต้นทราบรายชื่อบริษัทแล้วแต่ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน มองว่าแรงจูงใจส่วนใหญ่มีการให้เงินรางวัลสูงสุดประมาณ 45 บาท ต่อกล่อง โดยฝากเตือนประชาชนอย่าไปหลงเชื่อที่มาขอบัตรประจำตัวประชาชนนำไปแลกกล่องเนื่องจากกสทช.กำหนดให้ 1 คน สามารถรับมอบฉันทะแลกได้ 3 คนเท่านั้น การแอบอ้างดังกล่าวผิดกฎหมาย แต่บริษัทที่แลกกล่องสามารถส่งสินค้าให้กับประชาชนบริการติดตั้งได้ ”นายฐากรกล่าวอย่างไรก็ตามขณะนี้คูปองถึงมือประชาชนจำนวน 5 แสนครัวเรือนในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรีพระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี โดยคาดว่าภายใน 1-2 วันคูปองจะทยอยแจกครบ 21 จังหวัดจำนวน 4.6 ล้านครัวเรือน โดยในวันที่ 17ต.ค. 57 กสทช.จะเปิดเผยรายชื่อจุดรับแลกคูปอง ในวันที่ 20 ต.ค. 57 จะเปิดแลกคูปองในวันแรกโดยขณะนี้มี 26 บริษัท จาก 42 บริษัทที่ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการ เข้ามายื่นขอสติกเกอร์ประมาณ4 ล้านดวง หรือคิดเป็นกล่องที่แลกได้ 4 ล้านกล่อง.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสทช.คาดโทษผู้เก็บบัตรปชช.อาสาแลกกล่องทีวีดิจิตอล

Page 41 of 805:« First« 38 39 40 41 42 43 44 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file