shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

ปณท.รับส่งคูปองทีวีดิจิตอลขาดทุน

ไปรษณีย์ไทย โอดส่งคูปองโครงการทีวีดิจิตอลให้ กสทช.ขาดทุนกว่า 50% รับพร้อมทำเพื่อประชาชน ถือเป็นการคืนความสุขให้ประชาชนตามนโยบายรัฐบาล มั่นใจส่งถึงมือผู้รับทันตามกำหนดนายปิยะวัตร์ มหาเปารยะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท.เปิดเผยว่า รายได้จากการจัดส่งคูปองปองทีวีดิจิตอลให้กับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่จะจัดส่งไปยังประชาชน 4.6 ล้านครัวเรือนใน 21 จังหวัดเป็นลอตแรกในวันที่ 10 ต.ค.นี้ยอมรับว่าไม่คุ้มกับต้นทุนการจัดส่งตามปกติทั่วไป เนื่องจากบริการจดหมายลงทะเบียนปกติราคา 16 บาทต่อ 1 ฉบับ แต่สำนักงาน กสทช.ขอให้จัดส่งในราคา 10 บาทต่อ 1 ฉบับและมีขั้นตอนการส่งที่พิเศษ ทำให้รายได้จากการจัดส่งหายไปคิดเป็นประมาณ 50%อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทยพร้อมร่วมบริการกับ กสทช.เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการคืนความสุขให้ประชาชนในการรับชมทีวีดิจิตอล สำหรับระยะเวลาการจัดส่งคูปองทีวีดิจิตอลในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น จะถึงมือประชาชนภายใน 1 วัน ส่วนต่างหวัดจะอยู่ที่ 2 วัน และจัดส่งในระบบอำเภอจะใช้เวลา 3 วัน ส่วนระดับตำบลจะใช้เวลา 4-5 วัน ตามลำดับทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยมีความพร้อมทุกด้านในการจัดส่งคูปองทีวีดิจิตอล ที่จะต้องเข้มงวดเป็นพิเศษกว่าเอกสารทั่วไปใช้ระบบเดียวกับการจัดส่งเอกสารสำคัญทางราชการ การเตรียมพร้อมบุคลากร รวมถึงเตรียมแนวทางรองรับและแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดจากการจัดส่งคูปอง เช่น กรณีไม่มีผู้เซ็นรับเนื่องจากเป็นจดหมายลงทะเบียน แต่เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาใด ๆ ในการจัดส่งและจะสามารถจัดส่งคูปองไปยังบ้านเรือนประชาชนได้ทันตามกำหนด เนื่องจากการจัดส่งจะเป็นการนำจ่ายในพื้นที่เดียวกันพร้อม ๆ กันสำหรับรายได้รวมของ ปณท. ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 19,391.57 ล้านบาท กำไร 1,224.35 ล้านบาท แบ่งเป็นบริการจัดส่งจดหมายและเอกสาร 8,690.55 ล้านบาท การส่งกล่องพัสดุ 8,150.44 ล้านบาทรายได้จากบริการค้าปลีกต่าง ๆ 1,064.69 ล้านบาท ธุรกิจการเงิน 781.59 ล้าน และรายได้อื่น ๆ 704.3 ล้านบาท โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 20,817 ล้านบาท กำไร 1,700 ล้านบาท.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ปณท.รับส่งคูปองทีวีดิจิตอลขาดทุน

Posts related

 














2 ผลงานเด็กไทยในเวทีสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ

กวาดรางวัลกลับมาทุกครั้ง ที่มีการนำผลงานนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยไปจัดแสดงและประกวดในเวทีสิ่งประดิษฐ์นานาชาติและล่าสุดในงาน The 10th Taipei International Invention Show & Technomart” (INST 2014) ที่กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช. ) นำ 20 ผลงานคนไทยจาก 8 หน่วยงาน ก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง ได้รับรางวัลตั้งแต่เหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง และรางวัลอื่น ๆ รวมกว่า 50 รางวัลแต่ที่น่าสนใจ… ผลงานที่สร้างความภาคภูมิใจครั้งนี้ นอกจากส่วนใหญ่เป็นผลงานของนักวิจัยหรือนักประดิษฐ์มืออาชีพแล้ว ในปีนี้ ยังมีอีก 2 ผลงานที่มาจากนักสิ่งประดิษฐ์รุ่นเยาว์ ในโครงการ “ Move World Together : เคลื่อนโลกไปด้วยกัน” ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและมหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือ “เตาประหยัดพลังงาน” และ “กระติบไฟฟ้า” ที่เรียกความสนใจจากนักลงทุนและผู้มาร่วมชมงาน และสามารถกวาดรางวัลเทียบรุ่นนักวิจัยระดับโลกมาได้เป็นจำนวนมากอีกด้วยโดย เตาประหยัดพลังงาน เป็นผลงาน ของนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนร่มเกล้ากาญจนบุรี ได้รับรางวัลเหรียญเงิน รางวัลพิเศษ จากองค์กรสิ่งประดิษฐ์ในประเทศไต้หวัน และจากประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงรางวัลผู้นำนวัตกรรมจากเครือข่ายทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างประเทศนายปัณณวิชญ์ ชาไข ครูชำนาญการฯ หัวหน้าทีม บอกว่า นักเรียนได้คิดค้นประดิษฐ์เตาประหยัดพลังงานขึ้น เพื่อช่วยประหยัดพลังงานในชุมชนที่ยังนิยมให้เตาอั้งโล่แบบโบราณ โดยเป็นเตาที่เหมาะสำหรับตุ๋น ใช้ถ่านไม้เป็นเชื้อเพลิง ประกอบด้วยตัวเตา ที่มีช่องใส่ถ่าน และฝาปิด-เปิด ส่วนนอกเตาทำหน้าที่ในการกักเก็บความร้อน และเป็นปากทางเข้าออกของอากาศ ตัวเตาหุ้มด้วยอะลูมิ เนียม ผนังชั้นในฉาบด้วยดินเหนียวผสมปูนซีเมนต์และแกลบเผาเพื่อเป็นชนวนกันความร้อน มีการทำให้เกิดการหมุนเวียนความร้อนภายใน ให้ความร้อนได้อย่างรวดเร็ว และสามารถดัดแปลงใช้กับหม้อหรืออุปกรณ์หุงต้มตามต้องการ จุดเด่นของเตานี้ช่วยประหยัดการใช้ถ่านไม้หรือถ่านอัดแท่ง ได้ถึง 300% โดยถ่านอัดแท่งขนาด 100 กรัม สามารถใช้ได้นานถึง 4-6 ชั่วโมง สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศจำนวนมากทั้งไต้หวัน เกาหลีและญี่ปุ่น ต่างต้องการซื้อเทคโนโลยีที่คิดขึ้นเพื่อไปจำหน่ายในประเทศของตนเอง สำหรับผลงาน “กระติบไฟฟ้า” เป็นผลงานของนักเรียนโรงเรียนอุบลรัตน์พิทยาคม จังหวัดขอนแก่น ผู้ประดิษฐ์บอกว่า ชั้นนอกซึ่งเป็นฐานรองรับตัวหม้อ ทำจากเซรามิก มีแผงวงจรควบคุมไฟฟ้า มีการส่งผ่านความร้อนไปยังแผ่นความร้อนของหม้อชั้นในที่มีน้ำใส่อยู่ เมื่อน้ำร้อนขึ้นจนเดือดกลายเป็นไอ และระเหยไปยังชุดปรับแรงดันไอน้ำ เปลี่ยนไอน้ำธรรมดาให้กลายเป็นไอน้ำยิ่งยวด ซึ่งจะพุ่งสู่กระติบข้าวเหนียวที่ใส่ไว้ข้างในกระติบไฟฟ้านี้สามารถนึ่งอาหารได้อย่างรวดเร็ว โดยนึ่งข้าวเหนียวให้สุกได้ในเวลา 15-20 นาที เมล็ดข้าวเหนียวเป็นเงาสวยหอมนุ่มอร่อย และยังประยุกต์ใช้กับการนึ่งอาหารหลากหลายประเภทจากจุดเด่นเหล่านี้ทำให้กระติบไฟฟ้ากวาดไปถึง 5 รางวัลคือ รางวัลพิเศษเกียรติยศ รางวัลพิเศษ จากประเทศเกาหลีใต้ ประเทศกาตาร์ และประเทศไต้หวัน และ รางวัลนวัตกรรมที่ชาญฉลาด จาก TIIIA Outstanding Diplomaเห็นของจริงแล้ว… แม้ไม่ใช้เทคโนโลยีไฮเทค แต่เพราะมีที่มา ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐาน โดยเฉพาะต้องการที่จะช่วยประหยัดพลังงานในชุมชนของตนเอง ซึ่งหยิบจับวิถีชีวิตใกล้ตัวมาพัฒนาต่อยอด แค่นี้ก็ได้ผลงานที่ไม่ธรรมดา และสามารถเทียบชั้นได้กับนักประดิษฐ์รุ่นใหญ่ที่มาจากทั่วโลก.นาตยา คชินทร
nattayap.k@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : 2 ผลงานเด็กไทยในเวทีสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ

‘ทรูอินคิวบ์’ปั้นสตาร์ทอัพไทย แข่งสร้างโมบายแอพฯระดับโลก – ฉลาดสุดๆ

นับเป็นการยกระดับขึ้นอีกขั้นหนึ่งสำหรับโครงการประกวดพัฒนาแอพพลิเคชั่นของไทย เมื่อกลุ่มทรู โดยโครงการทรู  อินคิวบ์ ได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ  (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการประเทศญี่ปุ่น J-Seed Ventures Inc สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ทรู มันนี่ จำกัด และ Amazon Wed Servicer จัดการแข่งขัน True Incube Asia Pacific Mobile App Challenge 2014 ขึ้น โดยมีเป้าหมายหานักพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่มีแนวคิดของผลงานที่มีความน่าสนใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จจำนวน 3 ทีม เป็นตัวแทนประเทศไทย เดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ประเทศสิงคโปร์ ร่วมกับตัวแทนจากอีก 8 ประเทศ คือ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาเหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน จำนวน 24 ทีม เพื่อหา 3 ทีมสุดท้ายในระดับภูมิภาคนำผลงานแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาขึ้นไปแข่งขันชิงแชมป์โลกในงาน จีเอสเอ็มเอ โมบาย เวิลด์ คองเกรส  2015 ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในเดือน มี.ค. 58 นี้ นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ผู้อำนวยการบริหาร ทรู อินคิวบ์ กล่าวว่า ในฐานะผู้จัดโครงการบ่มเพาะผู้ประกอบการไทยด้านเทคโนโลยีของกลุ่มทรู เห็นถึงการขยายตัวของสมาร์ทโฟนในไทย จนทำให้ธุรกิจโมบายแอพพลิเคชั่นเติบโตขึ้นมาก และศักยภาพของคนไทยที่มีความโดดเด่นด้านไอเดีย จึงร่วมกับพันธมิตรจัดโครงการนี้ขึ้น โดยการแข่งขันในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้คนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ร่วมทีมกันมา 2-6 คน โดยที่ไม่จำเป็นต้องออกจากงานประจำมาทำอย่างเต็มตัวเหมือนอย่างที่จัดโครงการทรู อินคิวบ์ ในรุ่น 1 และ 2 ที่ผ่านมา โดยสามารถพัฒนาผลงานเป็นโมบาย แอพพลิเคชั่นประเภทใดก็ได้เข้าประกวด อาทิ ด้านการศึกษา บันเทิง สุขภาพ และธุรกิจ ฯลฯ และจะเป็นแอพพลิเคชั่นในระบบปฏิบัติการใดก็ได้เช่นกัน ทั้ง ไอโอเอส แอนดรอยด์ วินโดว์ส โฟน ซึ่งผลงานที่มีศักยภาพนอกจากจะได้รับเลือกไปประกวดแล้ว ทางกลุ่มทรูก็พร้อมเข้าไปสนับสนุนเงินทุนเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ในอนาคต “ปัจจุบันคนไทยใช้แอพพลิเคชั่นมากกว่าการเข้าเว็บไซต์ เห็นได้จากการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กต่าง ๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน โครงการนี้จึงเป็นโครงการพิเศษที่นอกเหนือจาก ทรู อินคิวบ์ เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีของไทย หรือสตาร์ทอัพใหม่ ๆ เพื่อร่วมสร้างระบบนิเวศด้านโมบายแอพพลิเคชั่นของไทยให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในโครงการทรู อินคิวบ์ รุ่น 1 และ 2 ที่ผ่านมา ก็สามารถสร้างสตาร์ทอัพหน้าใหม่ได้ถึง 11 ทีม ในจำนวนนี้ 8 ทีม ได้เปิดให้บริการมีลูกค้าและเริ่มมีรายได้เข้ามาแล้ว และมี 2 ทีม ที่เริ่มมีกำไรแล้ว และมีจำนวน 6 ทีม ที่มีนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาให้เงินร่วมลงทุนด้วยแล้ว” ด้านนายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการ ซิป้า กล่าวว่า ซิป้า มีพันธกิจในการส่งเสริมธุรกิจซอฟต์แวร์ของไทย และสนับสนุนการขยายตลาดของผู้ประกอบการไทยไปยังผู้ใช้คนไทยและทั่วโลก จึงได้เข้ามาสนับสนุนการจัดโครงการนี้ เน้นการพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยสู้และแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้ ถึงแม้ว่าการพัฒนาแอพพลิเคชั่นและเปิดตลาดให้สามารถประสบความสำเร็จในตลาดโลกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ต้องช่วยกันผลักดัน เพื่อให้เข้ากับนโยบายของรัฐในเรื่องดิจิตอล อีโคโนมี ซึ่งหวังว่าผู้ประกอบการของไทยจะสามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จจากโครงการนี้ได้ ขณะที่นายสาโรจน์ อธิวิทวัส ผู้จัดการทั่วไป ทรู อินคิวบ์ กล่าวว่า โครงการนี้เปิดกว้างให้นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป อายุ 18-35 ปี ที่มีความคิดสร้างสรรค์เข้าร่วม โดยแต่ละทีมต้องมีคนไทยอย่างน้อย 1 คนเป็นสมาชิก โดย 10 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบ จะมีการจัดเวิร์กช็อป ให้ความรู้ในการพัฒนาผลงานให้สำเร็จ รวมถึงความรู้ในการดำเนินธุรกิจ และ 3 ทีมสุดท้ายที่เป็นตัวแทนประเทศไทยจะได้เข้าร่วมแข่งขันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไป เพื่อหา 3 ทีมสุดท้ายไปแข่งขันที่งาน จีเอสเอ็มเอ โมบาย เวิลด์ คองเกรส 2015 ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในเดือน มี.ค. ปีหน้า “สำหรับเกณฑ์การตัดสินผลงานของโครงการนี้จะดูจากความพร้อมของทีม ผลงานและแผนการตลาด ซึ่งจะเปิดรับสมัครเข้าร่วมโครงการและแนวคิดของผลงาน ผ่านเว็บไซต์ www.mobile-asia.com/thailand.html ถึง 26 ตุลาคมนี้ จากนั้นจะทำการคัดเลือก 40 ทีม ที่มีผลงานน่าสนใจและมีโอกาสพัฒนาและประสบความสำเร็จในตลาด จากนั้นจะคัดเลือกให้เหลือ 10 ทีมสุดท้ายเข้าร่วมเวิร์กช็อป และในช่วงเดือนมกราคมปีหน้าจะทำการประกาศผลผู้ชนะเลิศของไทย ซึ่งทีมที่ผ่านเข้ารอบต้องพัฒนาผลงานให้แล้วเสร็จ และหากสามารถมีลูกค้าใช้งานแล้วยิ่งเป็นผลดี  โดย 3 ทีมสุดท้ายจะเดินทางไปแข่งขันระดับภูมิภาคที่สิงคโปร์ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งหากผ่านเป็น 3 ทีมสุดท้ายก็จะได้เป็นตัวแทนในระดับภูมิภาคไปแข่งระดับโลกที่บาร์เซโลนาต่อไป” โอกาสที่จะประสบความสำเร็จระดับโลกมาแล้ว ใครมีไอเดียสุดล้ำ ต้องรีบเข้าร่วมโครงการโดยเร็ว!!. จิราวัฒน์ จารุพันธ์ JirawatJ@dailynews.co.th

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘ทรูอินคิวบ์’ปั้นสตาร์ทอัพไทย แข่งสร้างโมบายแอพฯระดับโลก – ฉลาดสุดๆ

Page 54 of 805:« First« 51 52 53 54 55 56 57 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file