shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

‘เอไอเอส’มั่นใจสิ้นปีรายได้เอ็มเปย์โต 40%

เอไอเอสมองรายได้จากบริการเอ็มเปย์สิ้นปีโต 40% อยู่ที่ 800 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนที่มีรายได้ที่ 500 ล้านบาท ปัจจัยหนุนจากการเติบโตของการใช้สมาร์ทโฟน นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการเอ็มเปย์ทั้งหมดร่วม 1 ล้านราย และมีลูกค้าที่ใช้งานอย่างต่อเนื่องทุกเดือน 4 แสนราย ซึ่งยอดผู้ใช้งานโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาถึง 40% ทั้งนี้เป็นผลมาจากการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มภายในสิ้นปีนี้อีก 4-5 หมื่นราย และเพิ่มขึ้นอีกประมาณปีละ 1 แสนราย สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมจากบริการเอ็มเปย์ในปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 700-800 ล้านบาท จากการใช้งานรวมทั้งหมด 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งโตจากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้อยู่ที่ 400-500 ล้านบาทเท่านั้น สำหรับรายได้หลักของเอ็มเปย์มาจากค่าธรรมเนียมที่ได้จากการใช้จ่ายของลูกค้า ทั้งนี้ บริการเอ็มเปย์ถือเป็นแอพพลิเคชั่นหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับเอไอเอสในระดับหนึ่ง ถึงแม้จะมีมูลค่าไม่มากก็ตาม อย่างไรก็ตาม หลังจากเมื่อต้นเดือน เม.ย. 56 ที่ผ่านมา เอไอเอสจับมือแรบบิท ร่วมกันนำนวัตกรรมเอ็นเอฟซี (NFC) ในรูปแบบของซิมการ์ด เข้ามาให้บริการในเมืองไทยเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก บนเครือข่ายของเอไอเอส ภายใต้บริการ AIS mPAY Rabbit ล่าสุดได้มีแนวคิดให้บริการดังกล่าวเป็นซิมเดียวที่เปลี่ยนมือถือให้กลายเป็นกระเป๋าสตางค์ ให้ลูกค้าเอไอเอสที่ใช้มือถือ ซัมซุง 6 รุ่น สามารถชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า บีทีเอส รถโดยสารบีอาร์ที รวมถึงใช้ซื้อของ และรับบริการ ที่ร้านค้าที่ร่วมให้บริการแรบบิทกว่า 40 แบรนด์ 700 จุดให้บริการ.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘เอไอเอส’มั่นใจสิ้นปีรายได้เอ็มเปย์โต 40%

Posts related

 














‘ดีแทค’เพิ่มชุมสายเชื่อมต่อโครงข่ายหวังให้ลูกค้าใช้งานเครือข่ายไม่สะดุด

ดีแทค ลุยเพิ่มโครงข่ายเชื่อมต่อสัญญาณสู่ภูมิภาค จาก 2 จุด เป็น 3 จุด หวังให้ประชาชนใช้งานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือกับพาร์ทเนอร์สำรองเครือข่ายใต้น้ำเพื่อสำรองหากเกิดกรณีฉุกเฉิน นายปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า แนวทางในการจัดการโครงข่ายของดีแทค นั้นมีแนวคิดที่จะเพิ่มชุมสายโครงข่ายในการเชื่อมต่อไปยังแต่ละภูมิภาคให้มากขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ 2 เส้น ปัจจุบันได้มีการเพิ่มเส้นที่ 3 แล้ว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับชุมสายเหมือนที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติน้ำท่วมครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าในช่วงที่ประเทศไทยต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ ในปี 2554 นั้น ส่งผลให้การส่งสัญญาณและสถานีฐานเกิดความเสียหายและไม่สามารถเชื่อมต่อบริการในจุดนั้น ๆ ได้ ดังนั้นเมื่อดีแทคเห็นปัญหาจุดนี้ จึงได้ส่งทีมวิศวกร ติดตามทุกสถานที่ที่เกิดปัญหาน้ำท่วม จึงส่งผลให้ปัญหาน้ำท่วมในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ ปัญหาสัญญาณในการให้บริการโครงข่ายจึงไม่เกิดขึ้น “ดีแทคมีแนวคิดที่จะหาพาร์ทเนอร์ร่วมเพิ่มเติมในการเดินเครือข่ายสำรองใต้น้ำประกอบด้วย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือผู้ให้บริการเครือข่ายรายอื่นๆ เพื่อมาช่วยสำรองอีก 1 เส้น ในกรณีฉุกเฉิน ที่อาจเกิดปัญหาขึ้นได้” นายปัญญา กล่าว สำหรับสถานีฐานของดีแทคเมื่อสิ้นเดือน ต.ค.56 ที่ผ่านมาดีแทคมีสถานีฐาน 2จี อยู่ที่ 11,000 สถานี ส่วนสถานีฐาน 3จี บนคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ ที่ 5,200 สถานี และสถานีฐาน 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ อยู่ที่ 5,300 สถานี จากที่วางไว้ 5,500 สถานีฐานภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งาน 55% ของประชากร.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘ดีแทค’เพิ่มชุมสายเชื่อมต่อโครงข่ายหวังให้ลูกค้าใช้งานเครือข่ายไม่สะดุด

ชิ้นส่วนจรวดปล่อยดาวเทียมอินเดียคาดไม่กระทบไทย

องค์การวิจัยอวกาศอินเดีย (ISRO) ได้ประกาศแจ้งข่าวที่จะกำหนดส่งดาวเทียมสำรวจดาวอังคารดวงแรกของประเทศขึ้นสู่อวกาศ โดยใช้จรวดนำส่ง PSLV-C25 จากศูนย์อวกาศตีศธวัน (Satish Dhawan Space Centre SHAR) บนเกาะศรีหริโกฎา และมีกำหนดจะนำส่งขึ้น ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2556 เวลา 16.38 น. ตามเวลาประเทศไทย แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศและปัจจัยอื่นๆ โดยวิถีการนำส่งนี้ดาวเทียมดวงนี้ จะพาดผ่านน่านฟ้าจากมหาสมุทรอินเดียไปยังมหาสมุทรแปซิฟิกGISTDA ได้จัดทำแผนที่ โดยใช้ข้อมูลที่ได้รับจากรัฐบาลอินเดีย ซึ่งแสดงถึงวิถีพาดผ่านเหนือภาคใต้ของประเทศไทยบริเวณจังหวัดพังงา สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง และพัทลุง โดยคาดว่าจะมีชิ้นส่วนจากจรวดนำส่งที่จะตกลงมายังพื้นโลกจำนวน 5 ชิ้น ซึ่งทั้งหมดจะตกลงในมหาสมุทรอินเดีย โดยคาดว่าชิ้นส่วนชิ้นสุดท้ายซึ่งจะตกใกล้ประเทศไทยมากที่สุด จะตกในทะเลอันดามัน นอกชายฝั่งจังหวัดพังงาประมาณ 360 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะของสาธารณรัฐอินเดีย (ดูภาพจากแผนที่จำลองวิถี)ดังนั้นจึงขอให้เรือและอากาศยานหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวในในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2556 ช่วงเวลาตั้งแต่ 16.00-18.00 น. แต่สำหรับพื้นที่บนบกนั้นยังไม่มีความจำเป็นจะต้องเตรียมการใดๆ เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นที่ที่คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะได้ติดตามและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลอินเดียถึงเวลาการปล่อยจรวดที่แน่นอนและชัดเจน รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ต่อไป

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชิ้นส่วนจรวดปล่อยดาวเทียมอินเดียคาดไม่กระทบไทย

Page 753 of 805:« First« 750 751 752 753 754 755 756 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file