นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจสอบภาษีย้อนหลังสถานพยาบาลที่รับทำอุ้มบุญทุกแห่ง รวมทั้งตรวจสอบรายได้ นพ.พิสิฐ ตันติวัฒนากุล นายแพทย์เจ้าของคลินิกออลไอวีเวฟ แต่ยันยันว่ากรมสรรพากรพร้อมจะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบดังกล่าวอย่างเต็มที่ รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลภาษีย้อนหลังของกรมสรรพากรตามที่กฎหมายระบุไว้ จะกำหนดให้ผู้เสียภาษีต้องเก็บเอกสารทางบัญชีและภาษีไม่น้อยกว่า 5 ปี ภายใต้เงื่อนไขต้องยื่นแบบทุกปี ไม่ว่าผู้เสียภาษีจะยื่นแบบภาษีถูกหรือยื่นผิดก็ตาม แต่ตามปกติเจ้าพนักงานสรรพากรมีสิทธิประเมินย้อนหลังไม่เกิน 2 ปี หากตรวจสอบแล้วพบว่าเกิดการหลีกเลี่ยงภาษี เจ้าพนักงานสรรพากรมีอำนาจประเมินขยายระยะเวลาได้ถึง 5 ปี แต่ผู้เสียภาษีไม่เคยยื่นแบบเลย กรมสรรพากรสามารถประเมินย้อนหลังได้ไม่เกิน 10 ปี ทั้งนี้ กรณีที่เกิดขึ้นคงต้องตรวจสอบว่าเป็นการเสียภาษีรูปแบบใด หากเสียภาษีที่เป็นคณะบุคคล และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังและพบว่าเสียภาษีไม่ถูกต้อง จะต้องเสียค่าปรับในกรณีไม่ยื่นแบบ 200 บาท และเสียเงินเพิ่มเดือนละ 1.5% ของภาษีที่ต้องจ่ายทั้งหมด หากมีหลักฐานที่แน่ชัดว่ามีการหลีกเลี่ยงภาษีจะถูกปรับตามระยะเวลาย้อนหลังตามจริงที่กรมสรรพากรตรวจพบ และยังมีความผิดทางอาญา โดยถือเป็นความผิดฐานเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี อันเป็นความผิดตามมาตรา 37 แห่งประมวลรัษฎากร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-200,000 บาท

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เตรียมสอบภาษีโรงหมอรับอุ้มบุญ

Posts related