ปี 2554 เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ปี 2555 ตลาดไอทีไทยหวังว่าจะดีขึ้น แต่ก็ได้รับผลกระทบจากโครงการรถยนต์คันแรก จนไม่โตอย่างที่คิด ปี 2556 ก็มีปัญหาหนี้สินครัวเรือนและสถานการณ์ทางการเมือง…แล้วปี 2557 ตลาดไอทีไทยจะเป็นอย่างไร…เรื่องนี้ ..”นายปฐม อินทโรดม” กรรมการผู้จัดการ บริษัทเออาร์ไอพี จำกัด(มหาชน) ซึ่งมาร่วมเสวนา “ มองตลาดไอซีที ปี 2557 แนวโน้มตลาดกับการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ” ที่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์แห่งชาติและเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกันจัดขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมาบอกว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดไอทีสำหรับผู้ใช้ทั่วไปหรือตลาดคอนซูเมอร์ค่อนข้างหดตัว จากปัจจัยหลาย ๆ อย่างทั้งภาวะเศรษฐกิจ การเมืองรวมถึงปัจจัยภายนอกที่ตลาดไอทีโลกมีความผันผวนอย่างมากด้วย แต่ในส่วนของตลาดลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่หรือเอ็นเทอร์ไพรซ์ กลับมีการเติบโตดี เนื่องจาก มีการลงทุนด้านไอทีใหม่ ๆ มากขึ้นโดยเฉพาะการรองรับการเติบโตของโซเซียลมีเดีย และการทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซส่วนปีหน้ามองว่าตลาดไอทีคงไม่หวือหวาเหมือนกับตลาดอุปกรณ์เคลื่อนที่ ที่เติบโตตามพฤติกรรมของผู้บริโภค และอาจสะดุดจากการชะลอตัวของโครงการภาครัฐ ทำให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะตลาดค้าปลีกไอทีไทยตายแน่ถ้าไม่ปรับตัว…ซึ่งทางรอดก็คือการหันมาทำตลาดลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่มากขึ้นนั่นเอง…นายปฐม บอกอีกว่า จากการคาดการณ์ภาวะตกต่ำของตลาดไอทีไทย สิ่งที่สำคัญนอกจากการปรับตัวของภาคธุรกิจแล้ว สิ่งที่ต้องฝากให้ผู้เกี่ยวข้องต้องคิดก็คือ หากตลาดไอทีไทยตกต่ำ เราจะเสียมันสมองด้านไอที ซึ่งจะผันตัวเองไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ ทันที เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสหรัฐอเมริกาสำหรับมูลค่าตลาดฮาร์ดแวร์และตลาดสื่อสารของประเทศไทยปี 2556 ที่ สวทช.ร่วมกับกสทช.ได้ทำการสำรวจมานั้น “นายจำรัส สว่างสมุทร” ผู้อำนวยการ สถาบันส่งเสริมความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาโครงการสำรวจตลาดดังกล่าว บอกว่า ภาพรวมของตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ในปี 2556 หดตัวลงจากปี 2555 คือ เติบโตติดลบ 4% คิดเป็นมูลค่า 87,435 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว และภาคครัวเรือนซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้หลักลดการใช้จ่ายลงคาดว่าในปี 2557 ตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์จะสามารถกลับมาเติบโตได้อีกครั้งโดยเติบโตประมาณ 4.3% หรือมีมูลค่า 91,174 ล้านบาท จากการเติบโตตามกระแสอุปกรณ์พกพา หรือแท็บเล็ตพีซีที่คนหันมาซื้อทดแทนโน้ตบุ๊คเครื่องที่สอง เพราะมีราคาลดลง ตลอดจนนิยมนำไปใช้ภายในที่ทำงานมากขึ้นนอกจากนี้ ยังมีปัจจัยด้านการใช้งานเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ อาทิ ระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ และการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อนำมาจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่แบ่งปันอยู่ในโลกโซเชียลมีเดียในหลายรูปแบบ เช่น ภาพ วิดีโอ สถานที่ และข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า เป็นต้นด้านตลาดสื่อสาร นายจำรัส บอกว่าภาพรวมตลาดนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยปี 2556 มีมูลค่า 466,526 ล้านบาท คาดว่าเติบโต 8.4% ในปี 2557 หรือ คิดเป็นมูลค่า 505,831 ล้านบาทปัจจัยหลักมาจากตลาดบริการสื่อสาร โดยเฉพาะการใช้งานโมบาย อินเทอร์เน็ต ที่ในปี2556 มีมูลค่า 11,571 ล้านบาท และคาดว่าปี 2557 จะเติบโตเพิ่มอีกกว่า 26.4% คิดเป็นมูลค่า 14,627 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากคนเมืองปัจจุบันนิยมรับข่าวสารทางโซเชียลมีเดียมากขึ้นส่วนตลาดสมาร์ทโฟนปี 2556 มีการเติบโต 24.2% จากปี 2555 และคาดว่าอัตราการเติบโตจะเพิ่มขึ้นเป็น 32.5% หรือคิดเป็นมูลค่า 60,996 ล้านบาท ภายในปี 2557 ขณะที่โทรศัพท์บ้านมีการเติบโตติดลบลงเรื่อย ๆ จากพฤติกรรมการใช้งานมือถือ ส่วนไอพี โฟน ไม่เติบโตเท่าที่เคยคาดการณ์เนื่องจากคนนิยมใช้การโทรผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือมากกว่านอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์เสริมที่น่าจับตามอง เช่น เพาเวอร์ แบงค์ และ โมบายเราท์เตอร์ ที่คาดว่าคนจะนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาลดลง ประกอบกับความไม่มั่นคงทางการเมือง ทำให้ทุกบริษัทเริ่มคิดหาแผนสำรองในการให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคลาวด์ คอมพิวติ้ง จะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดีนายจำรัส บอกอีกว่า สรุปภาพรวมตลาดสื่อสารน่าสนใจ แต่ถือว่าไม่หวือหวามากนัก เพราะจากที่เคยคาดว่า 3จีจะเป็นตัวกระตุ้นตลาดอย่างมาก แต่ก็ติดปัญหาตัวเครื่องรองรับยังไม่มากพออย่างไรก็ดี มองว่าในปีนี้ ปัจจัยบวกของตลาดยังคงหนีไม่พ้นกระแสของทีวีดิจิทัล การใช้ประโยชน์จากโครงข่าย 3 จี 4 จี การเตรียมตัวรับการเปิดเออีซี และการใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะความนิยมในการรับข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองส่วนปัจจัยลบที่อาจทำให้มูลค่าไม่เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ คือ ความไม่มั่นคงทางการเมือง ธุรกิจไอทีในภาพรวมซบเซา และภาระหนี้สินภาคครัวเรือน ซึ่งทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง…ปัจจัยเสี่ยง ๆ เหล่านี้ … ทำให้ปีม้านี้ …คงต้องลุ้นกันอีกว่าตลาดไอทีไทยจะสามารถเติบโตได้ตามคาดหรือไม่!!!!นาตยา คชินทรnattayap.k@gmail.com
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ลุ้นตลาดไอทีปีม้า รุ่งหรือรอด!
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs