ณรงค์ชัยห่วงไทยติดกับดักหนี้นโยบายประชานิยม ทำหนี้สินล้นพ้นตัว-หนี้สาธาณะพุ่ง
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรมว.พาณิชย์  กล่าวว่า ไทยเป็นโรคกับดักหนี้ โดยหนี้ภาคครัวเรือนของประชาชน ซึ่งมีรายจ่ายเกินรายได้ทำให้เกิดหนี้สินเพิ่มสูง และจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธปท.พบว่าหนี้ครัวเรือนสูงถึง 80% ของจีดีพี   และข้อมูลตลาดแรงงานในปัจจุบันที่มีอยู่ 40 ล้านคน สัดส่วน 2 ใน 3 ความรู้น้อยทำอาชีพอิสระไม่มีประกันสังคม เช่น หาบเร่  แผงลอย เป็นต้น  ขณะที่รัฐบาลได้ก่อหนี้หนี้สาธารณะเพิ่ม ด้วยการแก้ปัญหาหนี้เก่าด้วยหนี้ใหม่ส่งผลให้หนี้สาธารณะกำลังจะแตะสู่ระดับ 60% ของจีดีพี  ส่วนหนี้ภาครัฐมีความเสี่ยงแตะ60%ของจีดีพีในปี 63 หากไม่สามารถเข้าสู่งบสมดุลได้ในปี 60  เนื่องจากหนี้ส่วนใหญ่เกิดจากโครงการประชานิยมของภาครัฐ  อย่างไรก็ตาม เห็นว่ารัฐควรจำกัดเพดานหนี้ไม่เกิน 50% เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจเหมือนสหรัฐอเมริกา และไม่อยากให้ไทยติดกับดักหนี้มากเกินไป  เพราะอาจกระทบต่อเศรษฐกิจระยะยาว นายทนง พิทยะ อดีตรมว.คลัง และอดีตรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ภาวะซึมเป็นโรคเบาหวานเสพติดนโยบายประชานิยม  ซึ่งรัฐบาลแจกขนมให้ประชาชนมากเกินไป จะแก้ไขได้ต้องอยู่ที่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีดอกเบี้ยต่ำชักจูงให้เกิดการลงทุน เงินเฟ้อต่ำ การว่างงานน้อยมาก แต่สาเหตุที่เศรษฐกิจไม่ขยายตัว  เนื่องจากสมรรถนะการผลิตต่อประชาชนไม่สามารถเพิ่มได้   ถ้าไม่เยียวยาแก้ไขจะรักษายากมาก เห็นได้จากเกษตรกรไทยมีรายได้ปีละ 50,000-60,000 บาทหรือเดือนละ 4,000 บาท หรือเท่ากับครึ่งเดียวของรายได้เฉลี่ยประชากรทั้งประเทศทำให้ไม่สามารถอยู่รอดได้ นายสมพล เกียรติไพบูลย์ อดีตประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และอดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ไทยเป็นโรคทุจริตคอรัปชั่น  เหมือนมะเร็งร้ายทำให้เกิดหลุมดำทางเศรษฐกิจ และมีข้อบกพร่องเชิงบริหารงานภาครัฐ  เนื่องจากคนส่วนใหญ่บูชาเงินโดยไม่สนใจว่าเงินได้มาจากไหนทำให้มีปัญหาคอรัปชั่นกลโกงมากมาย  ซึ่งไม่สามารถแก้ได้ เพราะส่วนหนึ่งเกิดจากความเหลื่อมล้ำของสังคม

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ห่วงคนไทยติดกับดักประชานิยมรัฐ

Posts related