ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ ตามข้อเสนอของสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยให้ขยายอายุสัญญาก่อสร้างที่มีกับหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศออกไปอีก 180 วัน ในระว่างวันที่ 1 เม.ย.55 – 22 เม.ย.56 ขณะเดียวกันในกรณีที่มีการบอกเลิกสัญญาหลังวันที่ 1 เม.ย.54 จนถึงวันที่ครม.มีมติ ให้ถือว่า ไม่เป็นผู้ทิ้งงาน แต่หากยังไม่ได้จัดหาใหม่ก็ให้หน่วยงานนั้น ดำเนินการจัดหาโดยวิธีพิเศษจากผู้รับจ้างรายเดิมก่อน ภายใต้เงื่อนไขและวงเงินตามสัญญาที่เหลืออยู่ แต่ถ้าผู้รับจ้างรายเดิมปฏิเสธให้ดำเนินการจัดหาใหม่ได้ ทั้งนี้ที่ประชุมยังมอบหมายกระทรวงการคลัง โดยให้คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ พิจารณาข้อเสนอของสมาคมฯ ที่เหลือ คือ การเสนอขอให้หน่วยงานราชการใช้อัตราค่าปรับรายวันในอัตราตายตัว 0.01% ของราคาพัสดุที่ยังไม่ได้รับมอบ และการเสนอให้ผู้ประกอบการก่อสร้างสามารถประกันผลงานของตนเองได้ เมื่อผลงานก่อสร้างนั้นก่อสร้างเสร็จไปแล้ว 6 เดือน โดยไม่ต้องใช้หนังสือค้ำประกันจากธนาคาร หากได้ข้อสรุปให้เสนอมาที่ครม.พิจารณาอีกครั้ง นอกจากนี้ที่ประชุมครม.ยังอนุมัติการขยายขยายระยะเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้พ.ร.ก.กู้เงินตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ภายหลังปีงบประมาณ 56 ทั้งโครงการของกระทรวงสาธารณสุข ที่อยู่ระหว่างดำเนินการและมีการผูกพันสัญญาแล้ว จำนวน 9 รายการ วงเงิน 292.7 ล้านบาท โครงการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในรายการผูกพันสัญญาของกรมทรัพยากรน้ำวงเงิน 86 ล้านบาท โครงการพัฒนาการเรียนรู้แบบบูรณาการองค์ความรู้ด้านวิชาชีพด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) วงเงิน 629 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์วิทยบริการ 50 แห่ง ของ สอศ. ด้วย รวมทั้งอนุมัติการยกเลิกโครงการเงินกู้ พ.ร.ก. และนำวงเงินกู้ดังกล่าวรวมเป็นวงเงินเหลือจ่ายในสาขาเศรษฐกิจอื่นต่อไป และอนุมัติจัดสรรเงินสำรองจ่ายเพื่อเป็นเงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่าเค) พร้อมทั้งอนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการ โดยให้หน่วยงานส่งข้อมูลให้ สำนักงบประมาณพิจารณาขอจัดสรรเงิน ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน และอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินเป็นภายในวันที่ 31 พ.ค.57 และยังรับทราบวงเงินเหลือจ่ายของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี วงเงิน 42,884,333.0000 บาท ก่อนพิจารณาจัดสรรวงเงินให้ และอนุมัติโครงการพัฒนางานห้องผ่าตัด ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน และห้องปฏิบัติการกลาง 30 รายการ
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ครม.ไฟเขียวให้เวลาผู้รับเหมาเพิ่ม 180 วัน
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs