ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ ประธานคณะอนุกรรมการด้านเนื้อหาและผังรายการ ได้ถอนวาระ การพิจารณาร่างประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์การกำกับดูแลเนื้อหารายการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. … หรือร่างฯกำกับเนื้อหาทางวิทยุ – โทรทัศน์ ตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่ระบุว่า ห้ามนำเสนอเนื้อหาหลัก ได้แก่ 1.เนื้อหาที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย 2.เนื้อหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน 3.เนื้อหาที่มีการกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจาร และ 4.เนื้อหาที่มีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง อีกทั้งยังกำหนดมาตรการที่สามารถสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตแก้ไข หรือพักใช้ใบอนุญาตได้) ออกไปจากการพิจารณา และได้นำกลับเข้ามาพิจารณาในที่ประชุม กสท.อีกครั้ง วันจันทร์นี้ (4 พ.ย.56) ภายหลังมีการปรับแก้ไขร่างฯประกาศ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. ด้านสิทธิเสรีภาพและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เปิดเผยว่า ไม่น่าเชื่อว่า ร่างประกาศฯ ฉบับดังกล่าวจะถูกนำกลับเข้ามาอย่างเร่งด่วน เพื่อพิจารณาในการประชุมครั้งนี้ ที่แม้จะตัดหมวด 2 มาตรการในการออกอากาศรายการ ออกไป ตามที่เคยถูกคัดค้านอย่างหนักมาตลอด แต่ปรากฎว่าได้นำบางข้อสำคัญไปไว้ในหมวด 1 เนื้อหารายการต้องห้ามมิให้ออกอากาศ แทน ดังนั้น มองว่า ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เพราะจะกลายเป็นการมีสภาพบังคับเนื้อหาที่ต้องห้ามมากกว่าการใช้เป็นแนวทางปฏิบัติตามแนวทางการส่งเสริมให้ผู้รับใบอนุญาต ผู้ผลิตรายการ และผู้ประกอบการวิชาชีพสื่อสารมวลชน จัดทำมาตรฐานทางจริยธรรมและกำกับควบคุมกันเองภาย ภายใต้มาตฐานจริยธรรม ตามมาตรา 39 เพราะเชื่อว่าหากนำมาเป็นกฎต้องห้ามเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อาจเกิดแรงต้านมากกว่าเดิม ซึ่งที่ผ่านมา นักกฎหมายบางคนได้แนะนำ การออกประกาศตามาตรา 37 ฉบับนี้ ขีดเส้นต่ำสุดที่ไม่อนุญาตให้ใครกระโดดข้ามเส้นที่อาจจะนำไปสู่ความรุนแรง เพราะนี่เป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตย ที่เรื่องใดยังเป็นข้อถกเถียง ต้องปล่อยให้ถกเถียง เพราะเมื่อไรที่เราเลือกขีดเส้นแล้ว กสทช.จะกลายเป็นคนชี้ถูกชี้ผิด “ส่วนตัวเสียใจ ที่การถอยของกสท.คราวที่แล้ว น่าที่จะนำกลับไปทบทวนให้รอบคอบมากขึ้น กลับกลายเป็นการถอยที่ซ้ำเติมการจำกัดสิทธิเสรีภาพสื่อ ตามหลักการรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่การเมืองเข้มข้นขณะนี้ หวั่นว่าร่างประกาศฉบับนี้จะถูกโยงการเมืองเป็นเครื่องมือปิดกั้นสื่อของฝ่าย ทั้งนี้ ตนจะคัดค้านอย่างเต็มที่ และขอเรียกร้องให้สื่อมวลชน และประชาชนที่สนใจการแสดงออกทางความคิดเห็น ร่วมจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด” นางสาวสุภิญญา กล่าว
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : จับตาผลประชุมบอร์ด กสท.ในร่างประกาศคุมเนื้อหา
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs