ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวไม่ชัดเจนได้ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยต้องดิ่งหัวลงตามไปด้วย… เพราะเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างการส่งออก ไม่สามารถขยายตัวได้ในปี 56 คงเหลือเพียงภาคการท่องเที่ยวเท่านั้นที่ช่วยประคับประคองให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้ โดยล่าสุดจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ต.ค.) ได้เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยมากถึง 21.7 ล้านคนแล้ว หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นมากถึง 22.3% ทีเดียว จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากมายขนาดนี้แสดงให้เห็นว่าเมืองไทย… ยังเป็น “สวรรค์ของนักท่องเที่ยว” แบบที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้!เพื่อเป็นการยืนยันสถานะของเมืองท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้พาคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนเดินทางข้ามทวีปกว่า 9,992 กิโลเมตร เข้าร่วมงานมหกรรมการท่องเที่ยวที่มีความสำคัญที่สุดในตลาดนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ในงาน “เวิลด์ ทราเวล มาร์เก็ต” หรือดับเบิลยูทีเอ็ม ซึ่งเป็นการจัดงานส่งเสริมการขายการท่องเที่ยวครั้งใหญ่ และเป็นการจัดติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2523 นับเป็นครั้งที่ 34 ที่ไทยเข้าร่วมงาน ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ ททท. ได้เปิดพื้นที่ให้เอกชนโฆษณาแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก รวมถึงเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวจากทั่วโลก เพื่อหวังให้ช่วยพานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในไทย ที่สำคัญ ททท. ได้กราบทูลเชิญ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จทรงเป็นประธาน โดยประทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนไทยและประทานคำแนะนำแก่คนไทย ถึงการนำเสนอแผนประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวประเทศไทยของ ททท. ภายใต้รูปแบบ “อเมซิ่ง ไทยแลนด์ : อิท บีกิน วิท เดอะ พีเพิ่ล” ที่เน้นศิลปวัฒนธรรม อาหาร และวิถีชีวิตของคนไทย รวมทั้งการใช้โซเชียล มีเดีย เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อคนไทยและการดำเนินการต่อไปของ ททท. “สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยในเวลานี้คือ คนไทย เพราะคนไทยเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนน่ารัก เป็นคนที่ใจดี เฟรนด์ลี่ และมียิ้มที่สดใส ขณะเดียวกันยังมีความงดงามที่สามารถทำให้คนที่มาท่องเที่ยวประเทศไทยทุกคนมีความสุข จึงบอกว่าขึ้นอยู่กับคนไทยที่จะช่วยกันประชาสัมพันธ์ความเป็นคนไทย วิถีชีวิตของคนไทย ต้องเริ่มจากคนของเราที่จะมีความปรารถนาดี เพื่อทำให้แขกของเรา คนที่มาเยี่ยมเยียนประเทศของเรามีความรู้สึกที่ดีกับพวกเรา” ขณะเดียวกัน ในโลกทุกวันนี้ ซึ่งเป็นโลกที่มีการสื่อสารไร้พรมแดน ทูลกระหม่อมหญิงฯ ทรงเห็นด้วยว่า การใช้โซเชียลมีเดีย จะช่วยสื่อสารประเทศไทยไปยังโลกที่กว้างมากขึ้นได้ และช่วยให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกสัมผัสความเป็นไทย ความเป็นคนไทยได้มากขึ้น เราสามารถแบ่งปันหรือแชร์สิ่งที่ประทับใจในไทย ผ่านโซเชียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือโปรแกรมอื่น ๆ เพื่อสื่อสารถึงคนทั่วโลกได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ดี ๆ ที่ประทับใจ อาหารดี ๆ รวมทั้งการแสดงของไทยที่ชื่นชอบ ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องโบราณ อาหารโบราณ การรำฟ้อน หรือดนตรีไทย แต่สามารถนำสิ่งที่เป็นสมัยใหม่ ร่วมสมัยของไทยที่ชอบ แชร์ให้โลกรู้ได้เหมือนกัน ขณะที่ “สุรพล เศวตเศรนี” ผู้ว่าการ ททท. บอกว่า ในการเข้าร่วมงานดับเบิลยูทีเอ็มในปีนี้ ได้เปิดตัว “อเมซิ่ง ไทยแลนด์ : อิท บีกิน วิท เดอะ พีเพิ่ล” อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและเป็นจุดขายของไทย โดยสะท้อนให้ชาวต่างชาติรับรู้ถึงความประทับใจที่มีต่อไทย ทั้งวิถีชีวิต มิตรไมตรีที่โดดเด่น โดยจะประสานงานกับผู้ให้ข้อมูลที่เป็นตัวแทนขาย ให้ถ่ายทอดความรู้แก่ผู้ประกอบการ เกี่ยวกับความรู้สึกที่เป็นเรื่องคนไทย พร้อมสร้างความแตกต่างในการท่องเที่ยวในไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวสนใจต้องการเดินทางกลับมาเที่ยวไทยอีก ซึ่ง ททท. ได้วางแผนใช้เป็นกลยุทธ์เจาะตลาดนักท่องเที่ยวทั่วโลกโดยเฉพาะในกลุ่มที่สนใจ โดยจะดึงผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวเด่น ๆ มาเป็นจุดขายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมีการใช้จ่ายสูง ทั้งเรื่องของการตีกอล์ฟ สปา ฮันนีมูน และแอดเวนเจอร์ นอกจากนี้ยังได้นำเสนอแผนการตลาดใหม่คือ “โรแมนติก ไทยแลนด์” เพื่อขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มแต่งงาน ฮันนีมูน รวมถึงกลุ่มที่ต้องการฉลองครบรอบวันแต่งงาน เพราะเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูงสุดและมีการใช้จ่ายสูงกว่ากลุ่มทั่วไป 2-3 เท่า ส่วนการที่ททท.ได้ตั้งเป้าหมายว่าหลังจากที่เปิดตัว “อเมซิ่ง ไทยแลนด์ : อิท บีกิน วิท เดอะ พีเพิ่ล” แล้ว ภายในปี 58 นี้จะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็น 30 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นอีก 10% พร้อมขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวในตลาดกลางและใหญ่เป็น 40% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 30% และลดสัดส่วนตลาดเล็กลงเหลือ 60% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 70% การวางแผนการตลาดของ ททท. ในครั้งนี้จะเป็นผลสำเร็จตามความฝันหรือไม่? คงต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดซึ่งสถานการณ์การเมืองที่รุนแรงในเวลานี้ อาจกลายเป็นขวากหนามสำคัญที่อาจทำลายความฝันของททท.ก็เป็นไปได้!. วุฒิชัย มั่งคั่ง
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ททท.จัดทัพลุยดับเบิลยูทีเอ็ม ชู 2 กลยุทธ์ดันนักท่องเที่ยวพุ่ง
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs