เรื่องหนึ่งซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันมากในเวทีต่าง ๆ ที่เสวนาเกี่ยวกับเรื่องพลังงานก็คือ ประเทศไทยมีแหล่งสำรองปิโตรเลียมมากน้อยขนาดไหน บางคนก็บอกว่ามีมากติดอันดับโลก บางคนก็บอกว่ามีน้อยใช้อย่างนี้อีกไม่กี่ปีก็หมด สำหรับผมจะไม่บอกว่ามีมากหรือน้อยหรอกครับ แต่ขอให้ข้อคิดเอาไว้ว่า ไม่ว่าเราจะมีมากหรือน้อย แต่ที่แน่ ๆ คือตอนนี้เราผลิตพลังงานได้เองไม่พอใช้ ต้องนำเข้าในปริมาณมากทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ถ้าเรามีแหล่งพลังงานมากอย่างที่ว่ากันจริง ๆ วันนี้ชาติมหาอำนาจหรือบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ข้ามชาติจะต้องแห่เข้ามาลงทุนด้านธุรกิจสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียมในบ้านเรากันอย่างมากมาย ไม่ใช่มีแค่หนึ่งหรือสองบริษัทอย่างทุกวันนี้ และจนถึงวันนี้ เราได้เปิดให้มีการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศมาเป็นเวลาร่วม 50 ปีแล้ว มีการเปิดให้สัมปทานปิโตรเลียมมาแล้ว 20 รอบ และกำลังจะเปิดรอบที่ 21 เร็ว ๆ นี้ ถ้าเรามีแหล่งปิโตรเลียมขนาดใหญ่จริง ๆ ก็น่าจะมีการค้นพบกันไปนานแล้ว เรื่องปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พูดกันอยู่ในบ้านเรานี่ทำเอาคนไทยสับสนกันมากนะครับ เพราะเอาคำว่า Recoverable Resources ซึ่งหมายความถึงทรัพยากรที่คาดว่าจะค้นพบได้ มาปนกับคำว่า Petroleum Reserve ซึ่งหมายถึงปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่มีการสำรวจค้นพบและพิสูจน์แล้ว แล้วเอาไปพูดทำให้คนเข้าใจผิดไขว้เขวกันไปหมด ในทางวิชาการ ความหมายของปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่มีการสำรวจและค้นพบแล้วยังแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ 1. Proved Reserve (P1) คือ ปริมาณสำรองที่สำรวจและพิสูจน์แล้ว มีความเชื่อมั่น 85-90% ว่ามีแน่นอนตามที่ได้ประเมินเอาไว้ ซึ่งตัวเลขนี้เมื่อประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ จะได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย รวมทั้งสำนักงานการบัญชี ผู้ตรวจสอบ และสถาบันทางการเงิน ยอมให้ประเมินเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สิน (Asset) ของบริษัท 2. Probable Reserve (P2) คือ ปริมาณสำรองที่ยังไม่ได้พิสูจน์ แต่ผู้สำรวจมีความเชื่อมั่น 50% ว่ามีแน่ตามที่ประเมินเอาไว้ ซึ่งเอาไปใช้ประเมินเป็นทรัพย์สินไม่ได้ แต่ยังสามารถเอาไปใช้เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเงินกู้ได้ 3. Possible Reserve (P3) คือ ปริมาณสำรองที่ผู้สำรวจมีความเชื่อมั่นพียง 15% ว่ามีแน่ ถือว่ามีการสำรวจแล้ว มีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าได้ค้นพบแหล่งปิโตร เลียมแล้ว แต่ไม่สามารถนำไปใช้เป็นหลักประกันใด ๆ ทางการเงินได้ จะเห็นได้ว่าแม้แต่ปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่สำรวจและค้นพบแล้ว ยังมีการแบ่งแยกออกเป็นประเภทต่าง ๆ ตามความไม่แน่นอนในผลของการสำรวจ ซึ่งนี่ก็คือความเสี่ยงในการทำธุรกิจสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียม ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงนั่นเอง ดังนั้น ต่อไปนี้เวลาได้ยินใครพูดว่าประเทศไทยมีปริมาณสำรองปิโตรเลียมเยอะ อย่าลืมถามเขาด้วยนะครับ ว่าเขาพูดถึงอะไร P1, P2 หรือ P3!!!.
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ปริมาณสำรองปิโตรเลียมของไทย – พลังงานรอบทิศ
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs