นายชูชาติ บุญยงยศ ประธานชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยในงานสัมมนาเรื่องการควบคุมกำกับดูแลการประกอบธุรกิจบัตรเครดิตเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ว่า เป็นห่วงผู้บริโภคถูกเอาเปรียบจากบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตทุกรูปแบบโดยเฉพาะการกำหนดอัตราดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภครวมทั้งการคิดค่าใช้จ่ายในการทวงถามถามหนี้ไม่สมเหตุผล เช่นบางบริษัทคิดค่าทวงถามครั้งละ 200 บาท วันละหลายครั้งและนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปรวมกับเงินต้น แล้วมาคิดดอกเบี้ยรวมอีกครั้งซึ่งถือว่าไม่เหมาะสม ดังนั้นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)จึงต้องเข้ามาเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว"การกระทำผิดทุกอย่างของผู้ให้บริการบัตรเครดิตกลับไม่มีบทลงโทษดังนั้นเมื่อช่วงที่ร่างกฎหมายทวงถามหนี้ ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากครม.แล้วแต่ยังไม่สามารถนำเข้ารัฐสภาได้ จึงอยากให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งผลักดันพร้อมทั้งยังเสนอให้ ธปท.ออกประกาศเพื่อเพิ่มบทลงโทษให้ชัดเจนและควรควบคุมดูแลการทำบัตรเครดิตบัตรเสริมให้กับบุตรหลานเพราะเมื่อเกิดหนี้เสียผู้ปกครองไม่ชำระหนี้ได้ต้องมีฟ้องเด็กแทนนับว่าเป็นเรื่องไม่เป็นธรรม"น.ส.ธัญทิพย์ สรรพโชติวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินธปท. กล่าวว่า การควบคุมธุรกิจบัตรเครดิตนั้น ล่าสุดร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจบัตรเครดิตยังค้างอยู่ในสภา เพราะเกิดสุญญากาศทางการเมืองจึงไม่มีกฎหมายออกมาควบคุมการใช้บัตรเครดิตและเพื่อเป็นการดูแลลูกหนี้ให้ได้รับความเป็นธรรม จึงได้เสนอในร่างกฎหมายใหม่โดยกำหนดแนวทางการคิดอัตราดอกเงินกู้จากยอดเงินที่ค้างอยู่ไม่ใช่คิดดอกเบี้ยจากยอดเงินต้นทั้งหมดเพราะปัจจุบันเมื่อใช้บัตรเครดิตชำระซื้อสินค้าครบกำหนดชำระผู้ซื้อชำระเงินเพียงบางส่วนเท่านั้น"บริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตจะคิดดอกเบี้ยจากยอดเงินกู้ทั้งหมดไม่ได้คิดจากยอดเงินที่เหลือ รวมทั้งการแย่งทำตลาดของธุรกิจบัตรเครดิตจนทำให้คนหนึ่งคนมีบัตรเครดิตหลายใบ มีทั้งจ่ายเต็มยอดหนี้และผ่อนจึงเกิดปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนสูงมาก จึงเสนอให้กำหนดการถือครองบัตรเครดิตไม่เกิน 3 ใบเพราะจากข้อมูลการใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้า พบว่า 70% ของการดใช้บัตรจ่ายเงินคืนเต็มจำนวน ส่วนอีก 30% ยอมผ่อนชำระ 10% ของวงเงินซึ่งยอมรับว่าเป็นห่วงยอดผ่อนชำระเพราะจะใช้แนวทางหมุนเงินหลายใบจนเกิดปัญหาจึงต้องดูแลในกลุ่มผ่อนชำระไม่ให้เกิดปัญหาหนี้ที่ไม่เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล"
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ห่วงบัตรเครดิตเอาเปรียบผู้บริโภค
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs