วันนี้(30เม.ย.)ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น น.ส.สารี อ๋องสมหวังเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคและองค์กรภาคประชาชนไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.)โดยขอให้คณะกรรมการกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ(กทปส.) และกสทช. ทบทวนคูปองเงินสดส่วนลดสำหรับการแลกซื้ออุปกรณ์ดิจิตอลจาก1,000 บาทลดลงเหลือ416 บาทไม่รวมเสาอากาศ หรือ 512บาทรวมเสาอากาศเนื่องจากมูลค่าคูปองสูงนั้นต้องใช้งบประมาณสูงถึง22,000ล้านบาท สร้างความเสียหายให้แก่รัฐไม่น้อยกว่า10,000 ล้านบาท กสท.ยังดำเนินการขัดประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ. 2556 ที่กำหนดให้เงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตต้องนำส่งกองทุนกทปส.พร้อมนำเงินรายได้ไปสนับสนุนคูปองโดยคำนวณราคาขั้นต่ำการประมูลที่ได้งบเพียง 15,190 ล้านบาท นอกจากนี้การที่กสท.กำหนดให้กล่องรับสัญญาณรับชมทีวีดิจิตอล36 ช่อง ขณะที่ กสทช. กำหนดให้มีการจัดสรรคลื่นความถี่ทีวีดิจิตอล48 ช่อง ดังนั้นการที่กล่องรับสัญญาณดาวเทียมซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สามารถใช้คูปองแลกซื้อได้นั้น ไม่สามารถรับชมทีวีดิจิตอลประเภทชุมชนได้อาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ ปิดกั้นการรับข้อมูลข่าวสารของประชาชนอย่างไรก็ตามสำหรับการประมูลทีวีดิจิตอลเพื่อให้บริการธุรกิจ 24ช่องประมูลเมื่อวันที่ 28 – 29 ธ.ค. 56 แบ่งออกเป็น 4 หมวดหมู่ได้แก่ หมวดเด็ก 3ช่อง หมวดข่าวสาร 7 ช่อง หมวดวาไรตี้คุณภาพมาตรฐาน(เอสดี) 7 ช่องและหมวดวาไรตี้คุณภาพมาตรฐานคมชัด(เอชดี) 7 ช่อง โดยได้เงินประมูลทั้งหมด 50,862 ล้านบาท ซึ่งกสท.นำเงินรายได้จากการประมูลทั้งหมดนำเข้าคณะกรรมการกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ(กทปส.)ทั้งหมด ซึ่งการสนับสนุนคูปองดังกล่าวจึงต้องผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการกองทุนฯและบอร์ดกสทช.อีกด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เครือข่ายผู้บริโภคให้ทบทวนมูลค่าคูปองทีวีดิจิตอล

Posts related