กองทุน กทปส.เป็นหน่วยงานที่เน้นสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อประโยชน์สาธารณะจัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทร คมนาคม พ.ศ. 2551 (พ.ร.บ.กสทช.)นายนิพนธ์ จงวิชิต รักษาการผู้จัดการสำนักงานกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) เล่าว่า ขณะนี้กองทุนมีเงินรวมอยู่ที่ 27,110 ล้านบาท โดยแยกออกเป็น 4 บัญชีบัญชีที่ 1 ถือเป็นเงินที่ใช้ได้ทุกวัตถุประสงค์ มีอยู่ 12,114 ล้านบาท โดยจะรวมเงินที่ได้จากการประมูลคลื่นทีวีดิจิตอลทั้งหมดกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้มาแล้วประมาณ 11,000 ล้านบาททั้งนี้ หลังมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งให้นำเงินส่วนที่เหลือเข้ากระทรวงการคลังทั้งหมด ดังนั้น กองทุนต้องหักเงินที่จะได้จากการประมูลทีวีดิจิตอลครั้งที่ 2 ในเดือน พ.ค. 58 อีกจำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อนำมาเป็นค่าคูปองทีวีดิจิตอลจนครบโครงการที่ต้องใช้เงินประมาณ 15,000 ล้านบาทสำหรับบัญชีที่ 2 นั้นจะมาจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุ และโทรทัศน์จำนวน 2% ต่อปี โดยจะใช้เพื่อโครงการ USO แต่ปัจจุบันยังไม่มีรายได้เข้ามาบัญชีที่ 3 จะมาจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบการกิจการโทรคมนาคมที่ต้องนำส่งเข้ากองทุนในอัตรา 3.75% ต่อปี ประมาณปีละ 6,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีเงินอยู่ในบัญชีนี้ประมาณ 12,300 ล้านบาทและบัญชีที่ 4 จะเป็นเงินที่รับโอนมาจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จำนวน 2,657 ล้านบาท โดยขณะนี้กระทรวงเทคโน โลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้คืนมาให้ กสทช.จำนวน 950 ล้านบาท ในโครงการไวไฟฟรีทั่วประเทศสำหรับภาระผูกพันในโครงการหลัก ๆ ที่จะต้องใช้งบประมาณประกอบด้วย โครงการนำร่องบรอดแบนด์มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการติดตาม และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.)การจ่ายค่าชดเชยกรณีถ่ายทอดการออกอากาศฟุตบอลโลก 2014 ให้กับ บริษัท อาร์เอส จำกัด ตามคำสั่งของศาลโดยบอร์ดกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เห็นชอบอนุมัติจ่ายให้ 369 ล้านบาท การแจกคูปองทีวีดิจิตอล จำนวน 15,000 ล้านบาทโครงการที่หน่วยงานภายนอกของบเพื่อสนับสนุนโดยกรอบวงเงินปีนี้อยู่ที่ 500 ล้านบาท แต่มีผู้ขอสนับสนุนแล้วกว่า 200 กว่าโครงการ ในวงเงิน 2,000 กว่าล้าน ถือว่าเกินงบประมาณ ซึ่งกองทุนจะต้องมาคัดเลือกให้อยู่ในกรอบวงเงิน 500 ล้านบาท โดยจะต้องเสนอและเข้าที่ประชุม กสทช.เห็นชอบภายในปีนี้“เมื่อคำนวณเงินที่เหลือหักลบกับโครงการภาระผูกพันกว่า 13,580 กองทุนจะเหลือเงินอยู่ที่ 13,530 ล้านบาท”ทั้งนี้ หลังจากเงินที่ประมูลทีวีดิจิตอลหายไป แผนการดำเนินงานต่อจากนี้จะต้องปรับเปลี่ยนไปด้วย โดยจะต้องทบทวนว่าเงินจะเข้ากองทุนจากทางไหน และถ้าไม่ได้หรือได้น้อยลง ยุทธศาสตร์กองทุนจะต้องเป็นอย่างไรถึงคราวที่ผู้จัดตั้งกองทุนและผู้เกี่ยว ข้องจะต้องมาดูว่า เม็ดเงินลดลง แล้วหน่วยงานรัฐที่เคยอยากได้มาบริหารจัดการกองทุนด้วย จะมีทีท่าเปลี่ยนไปหรือไม่.กัญณัฏฐ์ บุตรดี
Kanyanat25@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เปิด 4 บัญชี กองทุน กทปส.

Posts related