สถานการณ์การเมืองในประเทศที่ยังยืดเยื้อยุ่งยาวออกไปอย่างไม่มีกำหนดเริ่มฟาดหางต่อการใช้จ่ายของภาคส่วนต่าง ๆ ในระบบเศรษฐกิจมากขึ้นผนวกกับปัญหาค่าครองชีพที่พุ่งขึ้นแบบสัมผัสได้จริง ไม่ใช่แค่รู้สึกไปเอง เหมือนที่รัฐบาลเคยกล่าวอ้างในช่วงปีก่อน ๆ ก็ทำให้ประชาชนคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางออกอาการชักหน้าไม่ถึงหลังต้องหาทางสร้างกระแสเงินสดในมือเพิ่มขึ้นกันแบบเฉพาะหน้า ทั้งนี้ช่องทางที่ผู้คนในทุกยุคทุกสมัย จะคิดถึงเป็นลำดับ แรก ๆ คงหนีไม่พ้นเพื่อนยามยากอย่าง “โรงรับจำนำ” ซึ่งจะถูกจับจ้องทุกครั้งเมื่อเศรษฐกิจบ้านเมืองเริ่มเกิดสัญญาณข้าวยากหมากแพง หรือเข้าสู่ช่วงมหกรรมระดมทุนอย่าง ช่วงปิดเทอม หรือช่วงเทศกาลต่าง ๆ ที่ประชาชนต้องใช้กำลังทรัพย์กันมากกว่าปกติ แต่ใครจะรู้บ้างว่าที่พึ่งยามยากอย่างโรงรับจำนำเองก็โดนพายุการเมืองเล่นงานเข้าด้วยเช่นกัน เห็นได้จาก ตัวเลขสถิติการรับ จำนำของสำนักงานธนานุเคราะห์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 57 หรือระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค. 56 ที่ผ่านมา พบว่า มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการประมาณ 282,238 ราย ลดลง 43,616 ราย หรือประมาณ 13.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีลูกค้ามาใช้บริการ 326,154 ราย ในแง่ของวงเงินรับจำนำก็ลดลงมาอยู่ที่ 4,390 ล้านบาท ลดลง 1,395 ล้านบาท หรือ 24.12% หากเทียบกับช่วงเดียว กันของปีก่อนหน้าที่ มีการใช้วงเงิน 5,785 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากในเดือน พ.ย. 56 จนถึงปัจจุบันเกิดสถาน การณ์ทางการเมืองในกรุง เทพมหานครส่งผลให้ลูก ค้าไม่สะดวกต่อการเดินทางเข้ามา ใช้บริการรับจำนำที่สถานธนานุเคราะห์ ประกอบกับราคาทองคำในตลาดโลกผันผวนอย่างหนักทำให้ตัวเลขการรับจำนำในช่วงต้นปีไม่สดใสนัก ขณะที่โรงรับจำนำของเอกชนก็พบว่าการรับจำนำเฉลี่ยลดลงประมาณ 5-10% นอกจากผลกระทบจากการเมืองที่ทำให้ลูกค้าโรงรับจำนำหดหายไปแล้ว การเติบใหญ่ของสินเชื่อเงินด่วน สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อทองคำ สินเชื่อบุคคลและสารพัดบัตรกดเงินสดก็เข้ามาเบียดแย่งตลาดคนร้อนเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน โดยเฉพาะบัตรกดเงินสดที่เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจและการเมือง โดยในช่วงนี้หลายค่ายก็ได้อัดโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์กันถ้วนหน้า เริ่มจาก “บริษัทบัตรกรุงไทยหรือเคทีซี” ใช้โอกาสครบรอบ 9 ปี “จัดแคมเปญบิ๊กแทงส์” มอบ 500 รางวัลรวมมูลค่ากว่า 2.19 ล้านบาท ให้กับลูกค้า โดยรางวัลใหญ่ คือคอนโดสตูดิโอตกแต่งพร้อมอยู่ในโครงการ คริส การ์เดน พระราม 9 จำนวน 1 ห้อง มูลค่ากว่า 1.34 ล้านบาท พร้อมรางวัลไอโฟน ไอแพด บัตรกำนัลห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เพียงสมาชิกมียอดเงินต้นคงค้างเพิ่มขึ้นทุก 2,000 บาท จากรอบบัญชีที่ผ่านมาเริ่มแคมเปญตั้งแต่วันนี้ถึง 20 พ.ค.นี้ ขณะที่ค่ายแบงก์ต่างชาติอย่าง “ซิตี้แบงก์ เรดดี้เครดิต” จัดโปรโมชั่นแจกกระเป๋ามูลค่า 4,250 บาท เมื่อลูกค้ามีการใช้จ่ายบัตรตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ภายใน 60 วัน หลังได้รับอนุมัติบัญชีแถมฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพและค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มทุกธนาคารทั่วประเทศ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยค่าธรรม เนียมเบี้ยปรับ ค่าใช้จ่ายใด ๆ รวมแล้วไม่เกิน 28% ต่อปี ส่วน “ยูโอบี แคชพลัส” ชูจุดขายดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 2 รอบบัญชีโดยให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 1 ล้านบาทและสมัครเพียงครั้งเดียวสามารถใช้วงเงินได้ตลอดชีพ เบิกถอนเงินสดผ่านบัตรยูโอบีแคช พลัส โดยสามารถถอนผ่านเครื่องเอทีเอ็มทั้งจากเครื่องเอทีเอ็มในประเทศและทั่วโลกที่มีเครื่องหมาย ’พลัส“ โดยไม่เสียค่าธรรม เนียมการกดเงินสด และเลือกชำระคืนขั้นต่ำเพียง 500 บาท หรือ 5% ของยอดคงค้างชำระ แคมเปญของบัตรกดเงินสด “เอ็กซ์ตร้าแคช” ของแบงก์สัญญาชาติมาเลเซียอย่างซีไอเอ็มบีไทยพิเศษคืนดอกเบี้ย 50% ใน 2 รอบบัญชีเมื่อโอนเงินก้อนแรกเข้าบัญชีพร้อมรับฟรีหมอนดอกไม้เมื่อมียอดโอนเงินมากกว่า 100,000 บาทขึ้นไป ด้านธนชาตมี “บัตร แฟรช การ์ด” ซึ่งลูกค้าที่สมัครใช้บริการจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 80% เป็นเงินคืนเข้าบัญชีเมื่อมียอดกดเงินสดหรือ โอนเงินก้อนเข้าบัญชีตามเงื่อนไข โดยลูกค้าใหม่ที่สมัครวงเงินสดหมุนเวียนธนชาตภายในวันที่ 30 มิ.ย. 57 และได้รับการอนุมัติบัตรภายใน 31 ก.ค.นี้ ฝั่ง “กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์” ออกแคมเปญ “ลดต้นลดดอก” ให้กับลูกค้าใหม่ โดยขึ้นกับยอดสินเชื่อ ซึ่งลูกค้าที่กู้ 300,000 บาทขึ้นไปคิดดอกเบี้ย 19% และถ้ากู้เพียง 50,000-100,000 บาทคิดดอกเบี้ย 24% นอกจากนี้มีโปรโมชั่นแนะนำเพื่อนสมัคร 25 รายรับฟรีสร้อยพร้อมจี้ม้าทองคำสูงสุดมูลค่า 20,000 บาท สำหรับบริษัทที่ประกอบธุรกิจสถาบันการเงินหรือไม่ใช่สถาบันการเงินหรือนอนแบงก์ สัญชาติญี่ปุ่น อย่าง “บริษัท อีซี่บายจำกัด (มหาชน)” ก็ขอร่วมแจมแม้ว่าไม่โดดเด่นในการทำตลาด แต่ก็มีน้ำจิ้มเล็ก ๆ น้อย ๆ ออกมาเล่นไม่ให้ตกกระแสด้วยการแนะนำ เพื่อนสมัครบัตรยูเมะพลัส รับฟรี! บัตรของขวัญมูลค่า 300 บาท หันไปดูในส่วนของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับประชาชนในยามจำเป็นที่ต้องใช้เงินสดและสามารถจะได้รับเงินก้อนใหญ่ไปใช้นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมด้วยโดยสินเชื่อ “มายคาร์มายแคช” ของธนาคารไทยพาณิชย์ วงเงินสูงสุดให้กู้ยืมได้ไม่เกิน 90% ของราคาสินทรัพย์หรือไม่เกิน 2 ล้านบาท อายุของสัญญา (ระยะเวลาสิ้นสุดของสัญญา) สูงสุดไม่เกิน 72 เดือน หรือ 6 ปี โดยไม่มีหลักประกัน โดยรถยนต์ใช้แล้วอายุรถยนต์ไม่เกิน 9 ปีคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อปี 10% และดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี 20% รถยนต์ใช้แล้วอายุรถยนต์ตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้นไปคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อปี 17% และดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี 34% ขณะที่สินเชื่อ “คาร์ฟอร์แคช” ของ บริษัทอยุธยาแคปปิตอล ออโต้ลีส จำกัด หรือกรุงศรีออโต้ ก็มีแคมเปญที่หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือก เช่น แคมเปญจ่ายแบบโปะ ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน ตัวเล่มยังเป็นชื่อคุณเหมือนเดิมไม่เสียค่าธรรมเนียมการโอนเล่ม โดยผู้ขอสินเชื่อต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถอย่างน้อย 6 เดือนและไม่รับรถโอนลอยทุกกรณี แต่ถ้าลูกค้าเลือกแคมเปญที่โอนเล่มทะเบียนรถก็จะให้วงเงินสูงสุด 100% ของมูลค่ารถยนต์จากราคาประเมินของบริษัทโดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ส่วนค่าย “ทิสโก้ ออโต้ แคช” ก็เน้นไม่โอนเล่ม ไม่ต้องจอดรถรับเงินรวดเร็ว 3 วันทำการ โดยให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 100% ของราคาประเมินรถยนต์ ขณะที่สินเชื่อ ธนชาต “รถแลกเงิน” มีแคมเปญผ่อนสบาย ๆ แสนละ 59 บาทต่อวัน วงเงินอนุมัติสูงสุด 100% ของราคากลาง ไม่ต้องใช้ผู้ค้ำประกัน รับเงินภายใน 1วัน โดยรถต้องมีอายุใช้งานไม่เกิน 16 ปี ด้าน “ค่ายกสิกรไทย” มีสินเชื่อ “รถช่วยได้” ให้เงินสินเชื่อสูงถึง 80% เวลาผ่อนชำระ 12-60 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่โดยต้องขอสินเชื่อวงเงินขั้นต่ำ 100,000 บาท ขึ้นไป เมื่อเห็นการเปิดแนวรบของบริษัทสินเชื่อเงินด่วนต่าง ๆแบบนี้ เชื่อว่า โรงรับจำนำทั้งรัฐและเอกชนคงต้องปาดเหงื่อสู้ศึกรับปิดเทอมในยุคนี้อย่างหนักซึ่งก็เริ่มสัญญาณกันแล้วว่าบรรดาโรงรับจำนำต่าง ๆ คงไม่ยอมให้ใครมาแย่งตำแหน่งขวัญใจคนยากที่สั่งสมมานาน ไปได้ง่าย ๆ ด้านสถานธนานุเคราะห์ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษปรับอัตราดอก เบี้ยรับจำนำลงเพื่อลดภาระความเดือดร้อนให้กับผู้ปกครองซึ่งเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ย 0.25% ต่อเดือน เงินต้น 5,001-25,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.75% ต่อเดือน และเงินต้น 25,001-100,000 บาท คิดดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 ก.ย.นี้ จากปกติอัตราดอกเบี้ยตาม พ.ร.บ.เงินต้นไม่เกิน 2,000 บาท คิดดอกเบี้ย 2% ต่อเดือน และส่วนที่เกิน 2,000 บาทขึ้นไปดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน ขณะที่ สถานธนานุบาลของกรุงเทพมหานคร ก็ไม่น้อยหน้า เพราะจะคิดอัตราดอกเบี้ยในอัตราเดียวคือ 0.50% ต่อเดือนทุกวงเงินสำหรับผู้ปกครองนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการใช้เงินเป็นค่าใช้จ่ายค่าเทอมและอุปกรณ์การเรียน ซึ่งให้วงเงินสูงสุดถึง 70,000 บาทโดยขึ้นอยู่กับทรัพย์ที่นำมาจำนำว่ามีมูลค่ามากน้อยแค่ไหนเริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พ.ค.นี้ และถ้าลูกค้าที่นำทรัพย์มาตึ๊งแล้วยังไม่เต็มวงเงินลูกค้าสามารถที่จะนำทรัพย์อื่นมาจำนำเพิ่มได้แต่ให้วงเงินไม่เกินรายละ 70,000 บาท แต่มีเงื่อนไขว่าถ้าเป็นนักศึกษาต้องแสดงบัตรประจำตัวนักศึกษา หากเป็นนักเรียนต้องใช้บัตรประจำตัวนักเรียนของบุตรธิดา และถ้าไม่มีบัตรประจำตัวนักเรียน และนักศึกษาผู้ปกครองต้องใช้สูติบัตร ซึ่งหากไม่มีสูติบัตรก็ต้องใช้ใบเสร็จรับเงินจ่ายค่าเทอมมาแสดงกับเจ้าหน้าที่แทน ยกเว้นกรณีที่ใช้เงินช่วงเปิดเรียนไม่เกิน 5,000 บาท แนะนำให้ใช้บริการอัตราดอกเบี้ยของการรับจำนำทั่วไปเพราะคิดดอกเบี้ยเพียง 0.25% ต่อเดือน ส่วนประชาชนที่เงินขาดมือก็สามารถนำสินทรัพย์มาจำนำได้ โดยเงินต้น 5,001-15,000 บาท คิดดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน เงินต้นเกิน 15,000 บาทนั้น 2,000 บาทแรกคิดดอกเบี้ย 2% ส่วนที่เกิน 2,000 บาทคิดดอกเบี้ย 1.25% ด้านโรงรับจำนำของเอกชนนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดโดยเงินต้น 2,000 บาทแรก คิดดอกเบี้ย 2% ส่วนที่เกิน 2,000 บาท คิดดอกเบี้ย 1.25% แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่คิดลูกค้าจะแพงกว่าโรงรับจำนำของรัฐแต่ก็เป็นทางเลือกให้ลูกค้าภูธรได้ค่อนข้างสะดวกกว่าเนื่องจากโรงรับจำนำของรัฐ เช่น สถานธนานุเคราะห์มีข้อจำกัดในการขยายสาขาในต่างจังหวัด เพราะติดกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย เมื่อต่างฝ่ายต่างจัดเต็มเปิดหน้าท้ารบกันแบบนี้การจะตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการอัดฉีดสภาพคล่องชั่วพริบตาให้แก่ประชาชนก็คงหนีไม่พ้นบรรดาเข้าข่ายจะใช้บริการต่าง ๆ โดย “นายบัว ขันวิมาน” อาชีพ ขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ให้ความเห็นว่าปกติในช่วงเปิดเทอมจะนำสร้อยคอทองคำไปจำนำที่โรงรับจำนำเอกชนมากกว่าโรงรับจำนำของรัฐแม้ว่าดอกเบี้ยจะแพงกว่าแต่มีความสะดวกมากกว่าเพราะจำนวนสาขาใกล้บ้านขณะที่โรงรับจำนำรัฐมีสาขาน้อยต้องใช้เวลาเดินทางนาน ขณะที่ “น.ส.ทวิติยา สมัตถะ” อาชีพอิสระ ระบุว่า จะนำทองไปจำนำเพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงค่าใช้จ่ายเปิดเทอมสูง เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ติดตัวมานาน และราคาทองที่มีอยู่ต่ำกว่าราคาท้องตลาดในปัจจุบันจะทำให้เราได้กำไรส่วนต่างจำนวนมากซึ่งหากไม่สามารถไถ่ถอนคืนได้ก็ทำให้เรามีกำไรบ้าง ส่วน “น.ส.สุนิสา บุญรักษา” เจ้าของธุรกิจรับจัดงานนอกสถานที่ บอกว่า ในช่วงที่เงินขาดมือคงจะนำรถยนต์ไปขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน เพราะได้เงินมากกว่าเอาสินทรัพย์ประเภทอื่นไปจำนำเนื่องจากสามารถที่จะนำรถยนต์ไปใช้ทำงาน เพื่อหารายได้มาชำระหนี้ได้ แม้ว่าดอกเบี้ยจะแพงกว่าการนำสินทรัพย์ประเภทอื่นไปจำนำแต่มีความปลอดภัยกว่าการกู้เงินนอกระบบ จากความเห็นที่ออกมาจะพบว่าปัจจุบันประชาชนมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นในการหาที่พึ่งทางการเงินเมื่อยามจำเป็น ส่วนจะเลือกทางใดนั้นก็คงจะขึ้นอยู่กับความสะดวก ปริมาณเงินที่ต้องการและความสามารถในการเข้าถึงช่องทางต่าง ๆ ได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ โลกนี้ไม่มีของฟรี เงินที่ได้มาถ้าไม่ได้แลกมาด้วยของที่เอาไปจำนำไว้ ก็จะต้องตามด้วยดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายให้กับผู้ประกอบการที่ปล่อยสินเชื่อให้มา ดังนั้น การหยิบยืมเท่าที่จำเป็นและการมีวินัยในการผ่อนชำระคืน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การต่อลมหายใจทางการเงินด้วยการพึ่งพาโรงรับจำนำและสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่กลับมาบีบรัดและตัดลมหายใจของเราในท้ายที่สุด. สุกัญญา สังฆธรรม
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : โรงตึ๊งอัดโปรโมชั่นรับเปิดเทอม เงินด่วน-จำนำรถเบียดชิงตลาด
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs