shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

เศรษฐกิจทรุดฉุดกำลังซื้อวูบขุดเงินออมฉลองวาเลนไทน์-มาฆะ

นับเป็นครั้งแรก ในรอบ19 ปี ที่ “วันแห่งความรัก” ของ“โลกตะวันตก” เวียนมาตรงกับวันสำคัญทางศาสนาของ “โลกตะวันออก” นับตั้งแต่ปี 38เป็นต้นมา ที่ “วันวาเลนไทน์”14 กุมภาพันธ์ มาบรรจบครบรอบตรงกับ วันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ของทุกปี ที่เรียกว่า“มาฆบูชา” ซึ่งเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง“โอวาทปาติโมกข์” แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน 14 ก.พ. 57 ปีนี้ มีความพิเศษ คือนอกจากเป็นทั้งวันวาเลนไทน์และวันมาฆบูชาแล้ว ยังเป็นวันหยุดยาวติดต่อกัน 3 วันในช่วงสุดสัปดาห์ ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมือง จึงทำให้ประชาชนทั่วไปมีกิจกรรม ที่จะเลือกออกไปทำหลากหลาย ในช่วงเทศกาลแห่งความรักนี้มากขึ้นกว่าเดิมในเชิงเศรษฐกิจนั้น “ธนวรรธน์ พลวิชัย” ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ได้สำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาล พบว่าจะมีเงินสะพัด 6,251 ล้านบาท คึกคักน้อยกว่าปีก่อนหน้า เพราะประชาชนส่วนใหญ่วิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหา “เศรษฐกิจที่ชะลอตัว” สวนทางกับ “ราคาสินค้าที่แพงขึ้น” ทุกอย่าง ขณะที่สถานการณ์ทาง “การเมือง”ยังไม่มีวี่แววว่าจะยุติลงเมื่อใด จึงไม่มั่นใจว่าเงินในกระเป๋าจะมีมากเพียงพอต่อการใช้จ่ายดำรงชีวิตในอนาคตอันใกล้นี้มากน้อยเพียงใดส่งผลให้การใช้จ่ายสำหรับ วันวาเลนไทน์ มีเงินสะพัดเพียง3,361 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7% ถือเป็นการเพิ่มที่ต่ำที่สุดในรอบ 8 ปีทั้ง ๆ ที่ปีนี้คนไทยให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มากขึ้นโดยตลอด10 ปีที่ผ่านมา หรือ 41.9% แต่กลับซื้อสินค้าต่อชิ้นให้คนรักน้อยลงและเลือกฉลองแบบประหยัดทำให้สินค้า หรือร้านอาหารราคาแพงนั้น อาจมีคนบางตากว่าปีก่อน โดยมีการใช้จ่ายเฉลี่ยรวมคนละ1,813บาท เพิ่มขึ้นจากปี 56 ที่ใช้เพียง 1,509 บาท และใช้เงินซื้อของขวัญให้คู่รักของตนเองเฉลี่ยเพียง 996 บาท แม้เป็นยอดเงินที่ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากปี 56 ที่เฉลี่ย 883 บาท แต่นั่น…เป็นเพราะราคาสินค้าที่แพงขึ้นเนื่องจากปริมาณการซื้อนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากปีก่อน ขณะที่กิจกรรมที่นิยมทำในวันวาเลนไทน์มากที่สุดยังคงเป็น การซื้อดอกไม้ 78.5% รองลงมา คือ ทานอาหารนอกบ้าน หรือไปท่องเที่ยวที่ต่าง ๆ รวมถึงการเดินห้างสรรพสินค้า การบอกรัก ซื้อช็อกโกแลตให้ส่งการ์ดให้ มอบของขวัญและสุดท้ายคือการมีเพศสัมพันธ์ 2.7% “กุหลาบ”ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งการแสดงความรัก อย่างชัดเจนที่สุด แต่ปีนี้ผู้ที่จะซื้อกุหลาบให้คนรัก ซื้อน้อยลง จากราคาที่สูงขึ้นถึง 2 เท่าตัว เนื่องจากแหล่งปลูกใหญ่ในจีน ประสบปัญหาพายุไต้ฝุ่นแม้ว่ากุหลาบในไทยจะมีผลผลิตสูงขึ้น จากสภาพอากาศที่หนาวยาวนานกว่าทุกปีแต่ผู้ประกอบการหลายรายก็หันไปนำเข้าดอกกุหลาบจากต่างประเทศมากขึ้น ส่งผลให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว จึงต้องปรับขึ้นราคาขายอีก 15-20% และร้านค้าขนาดใหญ่ต้องลดกำลังการผลิตเหลือ 600-700 ช่อ จากที่เคยเตรียมไว้กว่า 1,000 ช่อ เพราะเชื่อว่าตลาดกุหลาบวาเลนไทน์ปีนี้ จะลดจากปีก่อน 20-30% จากการสำรวจของทีมเศรษฐกิจ “เดลินิวส์” ได้ออกไปสำรวจราคา ดอกกุหลาบที่ย่านปากคลองตลาด พบว่า ราคาดอกกุหลาบจากที่เคยขายช่อละ 50 ดอก ราคา 150 บาท เพิ่มเป็น 180 บาทและขยับสูงสุดถึง 350 บาท ขณะที่กุหลาบพันธุ์ฮอลแลนด์ (ดอกใหญ่ ก้านยาว) ราคาสูงถึงช่อละ 900 บาท ส่วนการจัดทำช่อดอกกุหลาบมีราคาตั้งแต่ 300–700 บาท ตามขนาดและจำนวนดอกในวันปกติก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัวเช่นเดียวกับ “ดอกบัว” ถือเป็นสัญลักษณ์ของวันมาฆบูชา ราคาปรับสูงขึ้นเกินเท่าตัว จากปกติดอกบัวราคากำละ 80-100 บาท แต่สัปดาห์แห่งความรักนี้ อยู่ที่กำละ 100-250 บาท และมีแนวโน้มสูง ถึง 300 บาท จากสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้บัวไม่ออกดอกขณะที่ค่าใช้จ่ายในวันมาฆบูชานั้นพบว่ามีการใช้จ่ายรวม2,890 ล้านบาท เติบโต 4.4% ถือว่าต่ำสุดในรอบ 4 ปี โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 2,318 บาท ยิ่งภาวะเศรษฐกิจแย่ลงเท่าใด ประชาชนยิ่งใช้จ่ายเงินเพื่อการทำบุญมากขึ้นเท่านั้น ด้วยหวังว่าจะมีส่วนช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้น โดยพุทธศาสนิกชนจะไปทำบุญมากที่สุด86% ใช้เงินเพื่อทำบุญเฉลี่ย 682บาท เพิ่มขึ้น 41% รองลงมาคือ ตักบาตร 406 บาท เพิ่มขึ้น35% ซื้อสังฆภัณฑ์ 551 บาท เพิ่มขึ้น 40% ปล่อยนกปล่อยปลา ไปเวียนเทียน อย่างไรก็ตามยังมีอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ออกไปฉลองเทศกาลดังกล่าวด้วยการกลับบ้านที่ต่างจังหวัด และท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ที่มีการจัดงานวันมาฆบูชา หรือเข้าคอร์สธรรมะ เพื่อพักผ่อนจิตใจคำยืนยันจาก “สกล แสงมาลี” ประธานกรรมการ บริษัทสังฆภัณฑ์ จำกัด ยอมรับว่า ยอดขายเครื่องสังฆภัณฑ์ปีนี้ไม่คึกคัก ผู้บริโภคชะลอการจับจ่าย จนคาดว่ายอดขายช่วงวันมาฆบูชานี้จะไม่เติบโตเลยจากปกติที่เติบโต 10% แต่ในแง่ของผู้ที่เข้าไปทำบุญนั้นคาดว่าจะมีมากขึ้นเพราะต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ ขณะที่ “เรวัต จินดาพล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิสลิลลี่จำกัด ผู้ให้บริการจัดดอกไม้ กล่าวว่าภาพรวมการซื้อดอกไม้ในวันวาเลนไทน์ ปีนี้ เงียบเหงามากที่สุดในรอบ 10 ปีทีเดียว จากลูกค้าระดับกลางลงไปลดการซื้อลงถึง 50% เรียกได้ว่า ในปีม้าที่ไม่คึกคักเช่นนี้ ทำให้คนไทยต้องฉลองความรักกันแบบประหยัด ขณะเดียวกัน ก็ถือโอกาสใช้วันสำคัญหันมาทำบุญร่วมกับคู่รัก และครอบครัวมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณสะท้อนที่ชัดเจนว่า ผู้คนประหยัดมากขึ้นรวมทั้งนำเงินออมออกมาใช้จ่ายเพราะภาวะเศรษฐกิจเริ่มซึมเซาอย่างมาก หลังได้รับผลกระทบมาจากปัญหาทางการเมืองที่ยืดเยื้อซึ่งทำให้การเฉลิมฉลองวันแห่งความรักปีนี้ แตกต่างไปจากปีก่อน ๆ อย่างมาก. ณัฐธินี มณีวรรณ  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เศรษฐกิจทรุดฉุดกำลังซื้อวูบขุดเงินออมฉลองวาเลนไทน์-มาฆะ

Posts related

 














“เพ้ง” ยันยังไม่ขยับแอลพีจีขนส่ง

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รักษาการรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยังไม่มีนโยบายการปรับราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคขนส่ง จากเดิมกำหนดไว้ในเดือน มี.ค. เนื่องจากอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถเรียกประชุมคณะกรรมกรรมการนโยบายพลังงงานแห่งชาติ (กพช.) ได้ คงต้องรอให้รัฐบาลใหม่ตัดสินใจ โดยประเด็นที่ห่วง หากไม่ปรับราคาแอลพีจีขนส่ง จะทำให้เกิดส่วนต่างราคาระหว่างราคาแอลพีจีครัวเรือนในเดือน มี.ค. จะอยู่ที่ 21.63 บาทต่อกก.สูงกว่าภาคขนส่งที่ 21.38 บาทต่อกก. ซึ่งอาจทำให้เกิดการลักลอบใช้ข้ามประเภท เพื่อหาประโยชน์จากส่วนต่างราคาที่เกิดขึ้นได้ จึงได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานออกมาตรการเพิ่มเติมให้เข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันการลักลอบ แต่เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะมีไม่มากนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า การดำเนินโครงการลดผลกระทบจากการปรับราคาแอลพีจีครัวเรือนว่า ขณะนี้จำนวนผู้มาลงทะเบียนใช้สิทธิ์ซื้อแอลพีจีราคาเดิม 160,00ราย แยกเป็น กลุ่มครัวเรือนผู้ใช้ไฟฟรี 66,000 รายและ กลุ่มหาบเร่แผงลอย 96,000 ราย โดยมีการใช้สิทธิ์ผ่านระบบเอสเอ็มเอส จำนวน500,000 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหายเร่แผงลอย ซึ่งยอมรับว่ายังมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ไม่มากนัก จึงทำให้จะทบทวนขยายขอบเขตการเข้าใช้สิทธิ์ในโครงการเพื่อให้การช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น เช่นการกำหนดพื้นที่ของร้านค้าหาบเร่แผงลอยให้มีขนาดมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มปริมาณการใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซฯ จากปัจจุบัน ที่กำหนดร้านค้าที่มีพื้นที่ไม่เกิน 50 ตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนได้มากยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตามเงื่อนไขที่ กระทรวงพลังงาน ได้ช่วยเหลือให้ผู้มีรายได้น้อย และร้ายคัาหาบเร่แผงลอย ซื้อก๊าซราคาเดิม 18.13 บาทต่อกก. โดยแยกเป็นกลุ่มครัวเรือน ได้รับสิทธิ์ไม่เกิน 18 กก.ต่อ 3 เดือน หรือเฉลี่ยเดือนละ 6 กก. ส่วนร้านค้าหาบเร่ ให้ตามการใช้จริงไม่เกิน 150 กก.ต่อเดือน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “เพ้ง” ยันยังไม่ขยับแอลพีจีขนส่ง

ปตท.เตรียมฟ้องม๊อบทั้งแพ่ง-อาญา

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รักษาการรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ปตท. และบริษัทในเครือได้ดำเนินการแจ้งความและเตรียมฟ้องร้องทางแพ่งและอาญากับแกนนำ และกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ปิดล้อมพื้นที่ศูนย์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์(เอนโก้) ซึ่งเป็นที่ตั้งกระทรวงพลังงานและปตท.จนทำให้พนักงานกว่า 1,000 คน ไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ โดยขณะนี้มีหลักฐานชัดเจน ทั้งรูปถ่ายและอื่นๆ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าความเสียหายที่จะฟ้องร้องเรียกคืน ขณะเดียวกันกลุ่มชาวบ้าน และร้านค้าย่อยรอบอาคารเอ็นโก้ได้ไปยื่นหนังสือต่อศรส.เพื่อแจ้งผลกระทบจากการชุมนุมปิดพื้นที่แล้วนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ผู้เช่าอาคารเอ็นโก้ยังต้องเสียค่าเช่าตามสัญญาที่ตกลงไว้ เช่น กระทรวงพลังงาน ต้องจ่ายค่าเช่าให้เอ็นโก้ 50-60 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ในผู้ค้า และเครือปตท. ยังต้องจ่ายค่าเช่าที่ดินให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในอัตราปกติเช่นกัน แม้ว่าจะไม่สามารถเข้าไปใช้อาคารได้ จึงขอวิงวอนให้มีการเปิดทางให้เข้าไปทำงานได้โดยเร็วส่วนกรณีที่กลุ่มกองทัพประชาชน และเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย(กปท.) ได้เสนอให้กระทรวงพลังงานพิจารณาผู้ค้าน้ำมันปรับลดราคาขายปลีกลงทันที 5 บาทต่อลิตรโดยเฉพาะน้ำมันกลุ่มเบนซินนั้นเห็นว่า แนวทางดังกล่าวหากดำเนินการจริงจะต้องคำนึงถึงผลกระทบหลายด้านเพราะการพูดนั้นจะพูดอย่างไรก็ได้ แต่ถ้าทำแล้วจะเป็นอย่างไรจะต้องพิจารณาด้วย“ หากจะปรับลดราคาน้ำมันลงทันที 5 บาทต่อลิตรจะต้องคำนึง คือ จะให้ปตท.ลดราคาเพียงรายเดียวหรือไม่แล้วผู้ค้าที่เหลือโดยเฉพาะต่างชาติไม่ต้องลดเชลล์ คาลเท็กซ์ เอสโซ่ ไม่ลดก็ต้องเจ๊ง เพราะคนจะแห่ไปใช้ปตท.ก็จะกลายว่าปตท.ผูกขาดเข้าไปอีก และการปรับลดนั้นจะลดจากส่วนไหนเพราะหากลดส่วนที่เป็นภาษีสรรพสามิตและภาษีฯอื่นๆนั่นหมายถึงกระทรวงการคลังจะขาดรายได้เข้ารัฐที่จะเป็นงบประมาณแผ่นดินลดลงทันที แต่หากลดจากเนื้อน้ำมันภายใน3-5 วันโรงกลั่นน้ำมันในประเทศเจ๊งหมดแน่”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ปตท.เตรียมฟ้องม๊อบทั้งแพ่ง-อาญา

Page 1044 of 1552:« First« 1041 1042 1043 1044 1045 1046 1047 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file