shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

เอกชนเมินพึ่ง‘รัฐ’หันพึ่งกันเอง เอสเอ็มอีลูกผีลูกคนต้องหาทางอุ้ม

 แม้การเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 2 ก.พ. 57 จะผ่านพ้นไปแล้วแต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งได้และสภาผู้แทนราษฎร ไม่สามารถเปิดเลือกประธานสภาและนายกรัฐมนตรีได้ เนื่องจากมีจำนวน ส.ส. ไม่ครบตามที่กฎหมายกำหนดไว้จนหลายฝ่ายแสดงความกังวลมาก เชื่อว่าประเทศไทยคงต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้บรรดาผู้ประกอบการจำเป็นต้องพึ่งตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะองค์กรเอกชนต่างเร่งหามาตรการเพื่อประคองกิจการของเครือข่ายให้ฝ่าฟันวิกฤติประเทศไทยครั้งนี้  ประเด็นความร้อนแรงทางการเมืองที่ยังยืดเยื้อไร้จุดจบทำให้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 ฝ่ายประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยซึ่งมีประชุมทุกต้นเดือนครั้งนี้มีวาระสำคัญโดยยกประเด็นผลกระทบทางการเมืองต่อภาคธุรกิจต่าง ๆ มาหารืออย่างเข้มข้นเพื่อสะท้อนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมทั้งหาแนวทางการช่วยเหลือต่อลมหายใจให้กับผู้ประกอบการโดยเฉพาะในภาคธุรกิจเอสเอ็มอีซึ่งมีสายป่านสภาพคล่องทางการเงินในระยะสั้นเท่านั้น  ห่วงลากยาวกระทบจีดีพีหาย 2.4 แสนล้าน  นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า ที่ประชุมกกร.ได้หารือถึงผลกระทบทางการเมืองต่อระบบเศรษฐกิจซึ่งจากการประเมินตัวเลขมหภาคพบว่าตัวเลขต่าง ๆ หลายตัวลดลงจนน่ากังวล เช่น กำลังผลิตของภาคอุตสาหกรรมการนำเข้าสินค้าทุนเพื่อการส่งออกลดลงจึงกังวลว่าจะส่งผลต่อตัวเลขการผลิตในประเทศการส่งออก การลงทุน และการท่องเที่ยวโดยประเมินว่าหากการเมืองยืดเยื้อ 6 เดือนจะกระทบผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ลดลง 1% หรือคิดเป็นมูลค่า 120,000 ล้านบาท แต่หากยืดเยื้อทั้งปีนี้อาจทำให้จีดีพีหายไป 2% คิดเป็นมูลค่า 240,000 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าทั้งปีจีดีพีน่าจะขยายตัว 5-6% ตามเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตามจากการประเมินพบว่าธุรกิจขนาดเล็กมีความเสี่ยงได้รับผลกระทบมากที่สุดเพราะเน้นจำหน่ายในประเทศและขณะนี้มีสัญญาณการบริโภคลดลงชัดเจนซึ่ง กกร. ได้ข้อสรุปว่า จะมีมาตรการช่วยเหลือ เช่น ผู้ประกอบการรายใหญ่จะเข้าช่วยเหลือให้ความรู้ พัฒนาประสิทธิภาพการผลิตให้กับรายเล็ก การพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมทั้งให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการส่งออกมากขึ้น รักษาตลาดเดิม หาตลาดใหม่และกระตุ้นการค้าชายแดน พร้อมทั้งเร่งสร้างบรรยากาศความเชื่อมั่นให้ลูกค้าต่างชาติเชื่อมั่นในการสั่งสินค้าไทย โดย กกร. จะพยายามชี้แจงผ่านเวทีต่าง ๆ เพื่อสื่อสารให้นักลงทุนต่างชาติเข้าใจเชื่อว่า นักลงทุนเองรับข้อมูลจากสื่อต่าง ๆ อยู่แล้วเช่นกัน และขณะนี้ยังมีปัญหาการไม่มีคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพราะคณะกรรมการชุดเดิมหมดอายุต้องรอการแต่งตั้งจากรัฐบาลชุดใหม่ทำให้การส่งเสริมการลงทุนที่มีมูลค่าเกิน 200 ล้านบาทไม่สามารถดำเนินการได้ เอกชนเดินหน้าเรียกความเชื่อมั่นทูต    นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย ระบุว่า ขณะนี้ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยมากที่สุด ยอมรับว่าช่วงที่การเมืองไทยอยู่ในภาวะสุญญากาศ ทำให้ภาครัฐไม่สามารถออกนโยบายต่าง ๆ ได้เต็มที่ ดังนั้นนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศต้องการให้การเมืองกลุ่มผู้ชุมนุมและผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย ควรหาแนวทางในการเจรจาหาข้อยุติให้เร็วที่สุด เพื่อให้ประเทศไทยสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ในส่วนของภาคเอกชนจะไม่มีสุญญากาศแน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมาภาคเอกชนต่างหามาตรการในการช่วยเหลือเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อให้สามารถประคองธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการหารือกับสมาคมธนาคารไทยในการหาแนวทางช่วยเหลือสภาพคล่อง ขณะเดียวกันก็จะการเดินทางไปพบปะกับเอกอัครราชทูตของประเทศต่าง ๆ ที่อยู่ในประเทศไทย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ รวมถึงการหาแนวทางร่วมกันในการช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศนั้น ๆ ที่อยู่ในไทย เบื้องต้นบรรดาทูตเป็นห่วงนักลงทุนใหม่ที่เข้ามาอยู่ในไทย เพราะข่าวที่ออกไปถือว่าค่อนข้างน่ากลัวมาก แต่ในส่วนของนักลงทุนรายเก่าที่อยู่มานานส่วนใหญ่ก็เข้าใจถึงวัฒนธรรมประเทศไทยเป็นอย่างดี แบงก์ขยายวงเงิน–ชำระหนี้ช่วยผู้ประกอบการ  นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย ระบุว่า จากการหารือร่วมกับสมาชิกสมาคมธนาคารไทยทุกแห่งมีความเข้าใจถึงสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างดี ทางธนาคารแต่ละแห่งจึงมีแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้า เช่น การขยายเวลาการชำระหนี้ การเพิ่มวงเงินเพื่อนำไปเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ โดยจะพิจารณาเป็นราย  ๆ เพราะแต่ละรายความช่วยเหลือจะไม่เหมือนกัน ท่องเที่ยวหวั่นรายได้หลุด 2 ล้านล้าน    นางพรทิพย์ หิรัญเกตุ รองประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า เป้าหมายรายได้ของการท่องเที่ยวไทยในปี 57 อาจไม่ถึง 2 ล้านล้านบาทแล้ว หรืออาจลดลงประมาณ 10% เนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่แน่ชัดและไม่มีทิศทางทำให้ไม่สามารถประสานงานด้านนโยบายจากภาครัฐได้ ประกอบกับนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นตลาดหลัก ก็ลดลงทั้งจากการควบคุมกฎหมายทัวร์คุณภาพของรัฐบาลจีน กับปัญหาการเมืองไทยที่ไม่มีความปลอดภัยนักท่องเที่ยวจึงไม่มั่นใจมา ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าในปี 57 รายได้ทางการท่องเที่ยวอาจจะคงที่หรือลดลงประมาณ 10% อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในภาคการท่องเที่ยวคาดว่าจะได้รับผลกระทบในเรื่องของสภาพคล่องไม่มีเงินหมุนเวียน เนื่องจากการเมืองที่ยืดเยื้อทำให้นักท่องเที่ยวงดการจองล่วงหน้าลงไปทันที โดยปัจจุบันในส่วนของโรงแรมมีกลุ่มเอสเอ็มอีประมาณ 70% และภาคธุรกิจทัวร์มีประมาณ 80% ส่วนการทำตลาดเพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่อจากนี้จะต้องโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวนอกกรุงเทพฯให้ได้มากขึ้น เพราะอัตราการจองห้องพักบริเวณพื้นที่ราชประสงค์และสุขุมวิทลดลงมาก แต่ในทางกลับกันโรงแรมที่อยู่ในพื้นที่ติดริมแม่น้ำยังคงมีอัตราการเข้าพักที่ดีอยู่ “ตอนนี้การท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จะต้องเดินได้ด้วยตัวเองหรือสร้างความเข้มแข็งให้ได้เองเท่านั้น เพราะในสถานการณ์แบบนี้คงไม่มีใครมองออกว่าจะเป็นเช่นไร แต่เศรษฐกิจของไทยก็ยังต้องเดินหน้า สิ่งที่ทำได้ก็มีการทำงานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เท่านั้นเพราะเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและมีงบประมาณของตัวเองอยู่แล้ว” การเมืองไร้จุดจบฉุดตลาดทุน  นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ และในฐานะประธานกรรมการสภาธุรกิจ ตลาดทุนไทย กล่าวว่า แม้การเลือกตั้งของประเทศจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ยังไม่ใช่จุดจบของปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้น เนื่องจากต่างชาติยังกังวลเรื่องเศรษฐกิจไทย เห็นได้จากการที่หลายสำนักประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจเติบโตต่ำกว่า 3% นอกจากนี้การเมืองไทยที่ยังอยู่ในภาวะสุญญากาศจะกระทบต่อการคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ขณะเดียวกันยังทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจลงทุนน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน 5 ประเทศ   หากเอกชนมัวแต่รอพึ่งความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเดียวรับรองคงไม่รอดพ้นจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวและปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองได้เพราะนักการเมืองก็ยังเอาตัวเองไม่รอด ดังนั้นแนวทางที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการให้เร็วที่สุดคือการพึ่งพาตนเองและสร้างเครือข่ายในการช่วยเหลือกัน. ทีมเศรษฐกิจ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอกชนเมินพึ่ง‘รัฐ’หันพึ่งกันเอง เอสเอ็มอีลูกผีลูกคนต้องหาทางอุ้ม

Posts related

 














กสอ.ชี้การเมืองฉุดยอดขายอัญมณี

นางอรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า ได้สำรวจความเห็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 10 กลุ่มอุตสาหกรรม ถึงผลกระทบการชุมนุมทางการเมือง พบว่า อุตสาหกรรมอัญมณี และเครื่องประดับ ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักอย่างนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง และสินค้ากลุ่มนี้จะขายดีช่วงเดือน พ.ย.-ก.พ. แต่เกิดเหตุการณ์ชุมนุมทำให้ยอดขายลดลง ขณะที่การส่งออก ต้องขายผ่านการจัดงานแสดงสินค้าบางกอกเจมส์ ที่จะจัดปลายเดือนก.พ.นี้ แต่ล่าสุดมีผู้ซื้อต่างชาติ แจ้งยกเลิกร่วมงานแล้ว 10%ทั้งนี้ รองลงมา เป็นกลุ่มสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอท็อป) โดยผู้ประกอบการได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกลุ่มของใช้ ของที่ระลึก ซึ่งปกติมียอดขายปลายปีถึง 70% ซึ่งตรงกับช่วงที่เกิดการชุมนุม , กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน เพราะมีร้านค้าอยู่บริเวณพื้นที่ชุมนุม เช่น ประตูน้ำ แพลตตินัม ส่งผลให้ยอดขายลดลงกว่า 80% รวมทั้งการลงทุนซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิตก็ลดลง เนื่องจากต้องรอดูสถานการณ์ทางการเมืองก่อน ขณะที่เอสเอ็มอีที่ส่งออก ยังพอมีคำสั่งซื้ออยู่บ้างนอกจากนี้ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับผลกระทบจากยอดขายลดลงกว่า 30% เพราะผู้บริโภคตัดสินใจซื้อยากขึ้น และจะซื้อเมื่อจำเป็น ประกอบกับอากาศหนาวเย็น และตลาดเครื่องปรับอากาศของหน่วยงานภาครัฐลดลงเนื่องจากการปิดสถานที่ราชการ กลุ่มอาหาร ได้รับผลกระทบเช่นกัน ในทางจิตวิทยา ทำให้การจับจ่ายใช้สอยลดลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีรายได้ลดลง ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และหากสถานการณ์ยืดเยื้อออกไปอีกอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารได้อย่างไรก็ตาม กสอ. จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ โดยจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปให้คำปรึกษา เพื่อหาแนวทางลดต้นทุนการผลิตในทุกๆด้าน การลดสต็อกสินค้า เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น การใช้แรงงานที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ฉวยโอกาสช่วงที่คำสั่งซื้อสินค้าลดลงทำการปรับปรุงเครื่องจักร และพัฒนาบุคลากร หาช่องทางการตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะขายผ่านระบบออนไลน์ เป็นต้น และควรพิจารณาขายตลาดออกไปสู่ประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ เออีซี รวมทั้งจะเข้าไปเจรจากับสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ โดย กสอ. จะทำการสำรวจเอสเอ็มอีเป็นระยะๆ เพื่อหามาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้อย่างตรงจุด

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสอ.ชี้การเมืองฉุดยอดขายอัญมณี

“ชัชชาติ” รับรถไฟฟ้าสีม่วงล่าช้า

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าเส้นทางต่าง ๆ พบว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ – ท่าพระ คืบหน้า 53.19% ช้ากว่าแผน 0.15% รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ – บางใหญ่ คืบหน้า 84.97% ช้ากว่าแผน 1.47% และรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ คืบหน้า 22.58% เร็วกว่าแผน 1.91% ทั้งนี้ ในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ก่อนสายอื่น ยังเป็นไปตามแผนงานที่กำหนด โดยการจัดหาขบวนรถมาวิ่งให้บริการมีความคืบหน้าแล้ว 4.07% คาดว่าจะเริ่มทดสอบระบบได้เดือน ก.ย.59 สามารถเปิดให้บริการได้ต้นปี 60  “การก่อสร้างไม่มีปัญหาอะไร พยายามให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งการดำเนินงานให้เร็วกว่าแผนที่กำหนด แต่ยังเป็นห่วงส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าใต้ดินอีก 1 สถานี คือ จากสถานีบางซื่อ ของรถไฟฟ้าใต้ดินในปัจจุบัน เชื่อมต่อกับสถานีเตาปูน ระยะทาง 1 กิโลเมตร โดยต้องการให้ รฟม.เร่งดำเนินการให้สามารถเปิดบริการได้ พร้อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางของผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าให้สะดวกมากขึ้น” นายชัชชาติ กล่าวว่า สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ขณะนี้ยังพบปัญหาการก่อสร้างบริเวณสามแยกไฟฉาย จึงได้สั่งการให้ รฟม.ไปหารือกับทางกรุงเทพมหานคร(กทม.)ให้มีความชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่การก่อสร้าง เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า โดยยืนยันว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าในทุกเส้นทางจะยังเดินหน้าต่อไปตามแผนงานที่ กำหนดถึงแม้จะมีการปรับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ แต่ในระหว่างนี้หากมีความจำเป็นต้องขอใช้เงินเพื่อจ่ายให้ผู้รับเหมาตาม สัญญาการก่อสร้าง ก็จะต้องหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขออนุมัตินำเงินออกมาจ่ายให้กับผู้รับเหมาเป็นงวดๆไป

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “ชัชชาติ” รับรถไฟฟ้าสีม่วงล่าช้า

Page 1080 of 1552:« First« 1077 1078 1079 1080 1081 1082 1083 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file