shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

อุตฯอาหารหั่นเป้าส่งออกเหลือ9.7แสนล้าน

นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เปิดเผยว่า ปีนี้อุตสาหกรรมอาหารได้ตั้งเป้าหมายการส่งออก 970,000  ล้านบาท ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่คาดว่า จะส่งออกได้ถึง 1ล้านล้านบาท เนื่องจากสินค้าข้าว ยังไม่ชัดเจนว่า ไทยจะส่งออกได้ปริมาณเท่าไร เพราะขณะนี้ยังเกิดปัญหาภายในประเทศ  ขณะที่น้ำตาล  ราคาในตลาดโลก ยังตกต่ำ และมีแนวโน้มความต้องการลดลง  “ อุตฯ อาหารได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้ 1 ล้านล้านบาท มา 3 – 4 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้สักครั้ง ปี 57 ก็เหลือ 970,000 ล้านบาท แต่ยังดีกว่าปี 56  ที่คาดว่า มูลค่าการส่งออกอาหารจะอยู่ที่ 920,000 ล้านบาท  สาเหตุที่ปี 57 ดีกว่าปี 56 เพราะมีสินค้าส่งออกอุตฯ อาหาร ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามความต้องการของตลาดโลก   คือ ไก่สด และกุ้ง  โดยเฉพาะในตลาดญี่ปุ่น เกาหลี ตะวันออกกลาง สั่งไก่จากไทยมากขึ้น” อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันจะเกิดปัญหาทางการเมือง และยังไม่มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ แต่กลุ่มอุต ฯ อาหาร ของส.อ.ท. ยังทำงานร่วมกับสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหาร และคุณภาพอาหาร บรรจุภัณฑ์ โดยอยู่ระหว่างดำเนินโครงการอุทยานอาหารภาคเหนือ (นอร์ทเทิร์น ฟูล วัลเล่ย์)  ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าทางอาหาร  มีโรงงานอาหารเข้าร่วม 20 แห่ง และจะดำเนินโครงการในภาคที่เหลือ คือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ใต้ กลาง ภายในปีนี้ ซึ่งเป็นการช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการ มีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และปัญหาค่าแรงขั้นต่ำปรับตัวสูงขึ้น  รายงานข่าวจากสถาบันอาหาร แจ้งว่า มูลค่าการส่งออกอาหารช่วง 11 เดือนของปี 56(ม.ค. –พ.ค. ) อยู่ที่ 841,000 ล้านบาท ขณะที่การส่งออกทั้งปี 56 คาดว่า อยู่ที 913,000 ล้านบาท ลดลง 6% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ค่าเงินบาทแข็งค่าในช่วงต้นปี วัตถุดิบกุ้งลดลงจากโรคตายด่วน ความต้องการ และราคาน้ำตาลในตลาดโลกลดลง และความต้องการไก่แปรรูปในยุโรปลดลง และมีการแข่งขันรุนแรง สำหรับสินค้าส่งออกกลุ่มอาหาร 10 ประเภท คือ น้ำผักผลไม้ เพิ่มขึ้น 15.3% มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 9.5% เครื่องปรุงรส เพิ่มขึ้น 6.8% ทูน่ากระป๋อง ลดลง 1% ข้าวโพดหวานปรุงแต่ง ลดลง 3.9% สัปปะรดกระป๋อง ลดลง4% ข้าว ลดลง5.4% ไก่ ลดลง6% น้ำตาลทราย ลดลง12.4% และกุ้งลดลง 38.3% ตลาดส่งออกที่สำคัญคือ เอเชีย 59.6% รองลงมาคือ อเมริกาเหนือ 13.2% และยุโรป 12.8% ส่วนปี 57 สถาบันอาหาร ได้ประเมินปัจจัยที่ส่งผลต่อการส่งออก คือ ปัจจัยลบมาจากสินค้าอาหารแปรรูปของไทยจะถูกสหภาพยุโรปตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(จีเอสพี) ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าสูงขึ้นจากการอ่อนค่าของเงินบาท และราคา ความต้องการน้ำตาลทรายในตลาดโลกไม่ขยายตัวตามคาดการณ์เนื่องจากสต็อกน้ำตาลทรายในตลาดโลกยังอยู่ระดับสูงขณะที่ปัจจัยบวก มาจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นชัดเจน ค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าลง ผลผลิตกุ้งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และญี่ปุ่นเริ่มนำเข้าไก่สดจากไทยหลังยกเลิกไปนาน  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : อุตฯอาหารหั่นเป้าส่งออกเหลือ9.7แสนล้าน

Posts related

 














หุ้นไทยวันที่ 29 มกราคม 2557 ปิดลบ 0.37 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 29ม.ค. ดัชนีแกว่งตัวผันผวนทั้งในแดนบวกและลบ แต่ภาคเช้าสามารถปิดบวกได้ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่สดใสกันถ้วนหน้าหลังได้รับข่าวดีจากการที่ธนาคารกลางตุรกี มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหาค่าเงินอ่อนค่า แต่หลังเปิดตลาดภาคบ่ายตลาดหุ้นไทยเริ่มอ่อนตัวลงเพราะยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองในประเทศที่มีแนวโน้มร้อนแรงขึ้น สวนทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปิดบวกโดยระหว่างวันหุ้นไทยทะยานขึ้นสูงสุดที่ 1,279.32 จุดลดลงต่ำสุดที่ 1,267.82 จุด จนมาปิดตลาดที่ 1,271.42 จุด ลดลง 0.37 จุด หรือ0.03% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 25,006.88 ล้านบาท สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด5 อันดับแรก1. ทอท.ปิดที่ 173.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00  บาท2. ธ.ไทยพาณิชย์ปิดที่ 146.00 บาท ลดลง 1.00  บาท3. จัสมินปิดที่ 6.85 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง4. พีทีทีจีซีปิดที่ 70.50 บาท ลดลง 1.75  บาท5. ธ.กสิกรไทยปิดที่ 170.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50  บาท 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หุ้นไทยวันที่ 29 มกราคม 2557 ปิดลบ 0.37 จุด

สถาบันฯสิ่งทอดันไทยเป็นฮับแฟชั่นอาเซียน

นางสุทธินีย์พู่ผกา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอเปิดเผยระหว่างการศึกษางานเชิงปฎิบัติการด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมประเทศอินโดนีเซียว่า สถาบันมีแผนที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ)อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มแบบครบวงจรของอาเซียนภายในปี 59 ตั้งแต่การพัฒนาการผลิตสินค้า ศูนย์รวมของการค้าขาย การสร้างมูลค่าเพิ่ม แฟชั่นและมาตรฐานสินค้าเพื่อรองรับการแข่งขัน “หลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)ทำให้เป็นตลาดที่ใหญ่มีประชากรรวมกัน 600 ล้านคน ดังนั้นไทยจำเป็นต้องเร่งเตรียมพร้อมในทุกๆด้านโดยในปัจจุบันประเทศในอาเซียนที่มีอุตสาหกรรมสิ่งทอฯแบบครบวงจรคือไทยกับอินโดนีเซียโดยอินโดนีเซียเป็นตลาดใหญ่และโดดเด่นด้านเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายมุสลิมที่มีการพัฒนาแฟชั่นล้ำหน้ากว่าไทยแต่ในส่วนของไทยจะมีความโดดเด่นเรื่องฝีมือ ศักยภาพและคุณภาพสินค้าเสื้อผ้าทั่วไป” นางสุทธินีย์กล่าวว่า แม้ว่าประเทศไทยจะมีชาวมุสลิม 6-7 ล้านคนซึ่งน้อยกว่าอินโดฯที่มีกว่า 200 ล้านคนแต่สถาบันฯก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครื่องแต่งกายมุสลิมในไทยอย่างมากเช่นกันเพราะต้องการช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชากรใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้และยกระดับความสามารถการแข่งขันผู้ประกอบการทั้งการออกแบบ การสร้างตลาดและการจับมือทางธุรกิจกับผู้ประกอบการในเพื่อนบ้านมากขึ้น สำหรับการเดินทางมาศึกษางานในประเทศอินโดนีเซียนั้นสถาบันได้นำนักออกแบบผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญมาศึกษาวัฒนธรรมที่ถ่ายทอดบนเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่มีกว่า10,000 วัฒนธรรม ทั้งที่เป็นวัฒนธรรมใหญ่และวัฒนธรรมในชุมชนเล็กๆ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญคัดรูปแบบของอินโดนีเซียมาผสมกับวัฒนธรรมไทยของไทยในการออกแบบและลวดลายบนเครื่องแต่งกายมุสลิมของผู้ประกอบการไทยในอนาคตเพื่อรองรับความต้องการสินค้าแฟชั่นของชาวมุสลิมทั่วโลก “เท่าที่สอบถามผู้ประกอบการในอินโดฯ ส่วนใหญ่ก็จะมีการพัฒนาสินค้าด้วยตนเองโดยไม่ค่อยจ้างต่างชาติขณะที่บางรายก็ส่งลูกหลานไปเรียนถึงฝรั่งเศสและยุโรปประเทศอื่นเกี่ยวกับด้านดีไซน์จนสามารถพัฒนาแฟชั่นเครื่องแต่งกายมุสลิม ได้เป็นอย่างดีอย่างไรก็ตามประเทศไทยคงไม่เน้นการผลิตเครื่องแต่งกายมุสลิมมาเจาะตลาดที่อินโดนีเซียแต่ละเน้นการพัฒนาสินค้าและแฟชั่นให้สอดคล้องกับความต้องการสินค้าแฟชั่นของมุสลิมโลกโดยเฉพาะในตลาดที่มีกำลังซื้อสูงอย่าง ตะวันออกกลาง”   นางสุทธินีย์กล่าวว่า ในปัจจุบันผู้บริโภคที่เป็นมุสลิมมีประมาณ2,000 ล้านคน ดังนั้นจะเร่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเครื่องแต่งกายมุสลิมใน 5 จังหวัดที่มีความพร้อมให้สามารถออกไปมีบทบาทในการทำธุรกิจในอาเซียนมากขึ้นและสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากภูมิภาคอาเซียนเพื่อให้ลูกค้าทั่วโลกรู้จักเครื่องแต่งกายมุสลิมจากประเทศไทยมากยิ่งขึ้นจากที่ปัจจุบันจะรู้จักเครื่องแต่งกายจากมาเลเซียและอินโดนีเซียมากกว่าไทย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สถาบันฯสิ่งทอดันไทยเป็นฮับแฟชั่นอาเซียน

Page 1106 of 1552:« First« 1103 1104 1105 1106 1107 1108 1109 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file