shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

ททท.เล็งหารือปรับตัวเลขนักท่องเที่ยว

นายธวัชชัย อรัญญิกผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าททท.เตรียมเรียกผู้อำนวยการสำนักงานททท.ที่ประจำในเอเชียทั้ง 18 แห่งมาประชุมเพื่อสรุปตัวเลขนักท่องเที่ยวในแต่ละประเทศเนื่องจากขณะนี้มีสัญญาณชะลอตัวในนักท่องเที่ยวเอเชียอย่างชัดเจนแล้วเพราะเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อข่าวการเมืองจึงต้องมีการหารือว่าจะต้องปรับตัวเลขนักท่องเที่ยวให้ลดลงหรือไม่ รวมถึงจะต้องวางแผนทำการตลาดใหม่ด้วยโดยจะเน้นการเข้าไปเจาะตลาดกลุ่มที่นักท่องเที่ยวหายไปจำนวนมาก เช่น ฮ่องกง จีนทั้งนี้จะต้องเรียกประชุมหลังเทศกาลตรุษจีนเพราะเป็นช่วงที่จะเห็นผลได้ชัดเจนมากที่สุด “จากเดิมเป้าหมายปี 57ตลาดเอเชียจะมีนักท่องเที่ยวเป็นสัดส่วน 60%ของเป้าหมายทั้งหมด คือ ประมาณ 28ล้านคนทำราย รายได้ 740,000 ล้านบาท โดยในจำนวน 50%ของนักท่องเที่ยวเอเชียเป็นนักท่องเที่ยวที่คุ้นเคยกับเมืองไทย(นักท่องเที่ยวซ้ำ)รวมถึงคุ้นเคยกับการชุมนุมในเมืองไทยด้วย แต่อีก 50% เป็นนักท่องเที่ยวใหม่ซึ่งกลุ่มนี้จะอ่อนไหวกับเรื่องการเมืองเป็นพิเศษจึงต้องประเมินว่าหายไปเท่าไหร่ในตลาดไหนบ้าง และจะเข้าไปเจาะการตลาดในประเทศนั้นๆให้มากขึ้นเพื่อให้คงเป้าหมายการท่องเที่ยวทั้งปีไว้ที่ 28 ล้านคนไว้ให้ได้” ทั้งนี้เมื่อตลาดต่างประเทศมีสัญญาณว่านักท่องเที่ยวลดลง ตลาดในประเทศจึงเป็นตลาดที่ททท.ต้องเร่งทำตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการเมือง เช่นหัวหิน พัทยา ชะอำ เป็นต้น โดยจะเน้นการจัดโปรโมชั่นเดิม แต่เร่งประชาสัมพันธ์ให้เพิ่มขึ้นไปอีกเช่น ททท.ภาคกลาง เปิดตัวแคมเปญ แพ็กเกจหนีกรุง หลบความวุ่นวายพักผ่อนใจออกไปสัมผัสที่เมืองเพชรบุรีโดยจะร่วมมือกับผู้ประกอบการด้านที่พัก และรีสอร์ท 4-5 ดาวลดราคาพิเศษ ใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 3-31 ม.ค.นี้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ททท.เล็งหารือปรับตัวเลขนักท่องเที่ยว

Posts related

 














หุ้นไทยวันที่ 24 มกราคม 2557 ปิดบวก 6.29 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 24ม.ค. ดัชนียังคงแกว่งตัวผันผวนส่งท้ายสัปดาห์แต่ส่วนใหญ่สามารถยืนในแดนบวกได้ สวนทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปิดลบเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญว่าอาจจะมีคำตัดสินให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งในวันที่2 ก.พ.นี้ ออกไป ส่งผลให้ช่วงบ่ายดัชนีดีดตัวขึ้นได้ร้อนแรงหรือขึ้นไปแตะระดับสูงสุดของวันที่ 1,320.65 จุด ลดลงต่ำสุดที่ 1,307.16 จุด จนมาปิดตลาดที่ 1,314.63 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด หรือ 0.48% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33,988.52 ล้านบาท สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด5 อันดับแรก1. ทอท. ปิดที่ 175.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท2. ทรู ปิด 7.55 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง3.เอไอเอส ปิดที่ 215.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง4. พีทีทีจีซี ปิดที่ 74.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50  บาท5. จัสมิน ปิดที่ 7.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.05  บาท  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หุ้นไทยวันที่ 24 มกราคม 2557 ปิดบวก 6.29 จุด

ธปท.ชี้การเมืองยืดเยื้อทำจีดีพีต่ำกว่า3%

นางรุ่งมัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เป็นห่วงว่าหากสถานการณ์การเมืองยังคงยืดเยื้อ หรือมีความรุนแรงเกิดขึ้นประกอบกับการส่งออกชะลอกว่าที่คาดการณ์ไว้อาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตต่ำกว่า 3% ขณะที่เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมากนง.ได้ปรับประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 57 ลงเหลือ 3% จากเดิมที่ 4%เนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายและการลงทุนของภาครัฐทั้งทางตรงคือระบบเศรษฐกิจและส่งผลทางอ้อมคือความเชื่อมั่นของภาคเอกชนที่ทำให้ต้องชะลอการลงทุนออกไป “ตอนนี้เห็นว่าภาครัฐไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ซึ่งมันก็มีผลต่อเนื่องถึงการจัดทำงบประมาณในปี 58 ที่จะต้องล่าช้าออกไปดังนั้นไม่ว่าตอนนี้ใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลมันก็ต้องล่าช้าแน่นอนแต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นแต่จะเข้มแข็งมากน้อยเท่าไหร่นั้นต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองและการเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนของภาครัฐเป็นหลักรวมทั้งต้องติดตามสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิดด้วย” อย่างไรก็ตามสำหรับการจัดทำงบประมาณปี 58 ที่อาจจะต้องล่าช้าออกไปนั้นคาดว่าจะมีการเร่งการใช้จ่ายในช่วงท้ายของปีแต่ก็ยอมรับว่าน่าจะเบิกจ่ายได้ไม่ตามเป้าหมายที่วางไว้ เมื่อเทียบกับสภาวการณ์ปกติและต้องยอมรับว่าไม่ว่าผลการเลือกตั้งใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ในเรื่องของการลงทุนหรือการเบิกงบเพื่อใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นก็ต้องมีความรวบคอบและรัดกุม โปร่งใสเพื่อให้สังคมสามารถตรวจสอบได้ซึ่งยอมรับว่าทุกขั้นตอนเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและอาจส่งผลให้การเบิกจ่ายงบประมาณมีความล่าช้าออกไปอีก ส่วนภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น สะท้อนจากมีเงินไหลออกเล็กน้อย ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอัตราแลกเปลี่ยนหรือค่าเงินบาท รวมถึงตลาดการเงินเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆมากขึ้นแม้ล่าสุด กนง.จะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% ต่อปีก็ไม่ได้ส่งผลให้ตลาดการเงินผันผวนหรือเปลี่ยนแปลงมากนัก โดย ธปท.ประเมินว่าในช่วงที่ผ่านมาที่มีเงินทุนไหลออกค่อนข้างแรงและค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วนั้น เกิดจากหลายปัจจัยประกอบกัน คือการตัดสินใจลดขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี3)ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เงินทุนไหลกลับมากขึ้น และปัญหาการเมืองในประเทศเข้ามาประกอบกัน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธปท.ชี้การเมืองยืดเยื้อทำจีดีพีต่ำกว่า3%

Page 1122 of 1552:« First« 1119 1120 1121 1122 1123 1124 1125 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file