shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

หุ้นไทยวันที่ 13 มกราคม 2557 พลิกปิดพุ่ง 28.11 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่13 ม.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีแกว่งตัวผันผวนอย่างหนัก ซึ่งปรับลดลงกว่า 11 จุดทันทีที่เปิดตลาดจากนั้นก็อ่อนตัวในแดนลบกรอบแคบๆ ก่อนฟื้นตัวได้ร้อนแรงในช่วงบ่ายจนท้ายตลาด ตามแรงเข้าซื้อกลับในหุ้นขนาดใหญ่ รับข่าวดีที่นายกรัฐมนตรีเตรียมเชิญทุกฝ่ายเข้าหารือเพื่อเลื่อนการเลือกตั้งออกไปทำให้นักลงทุนคลายกังวลเรื่องสถานการณ์การเมืองในประเทศไประดับหนึ่ง แม้กลุ่มกปปส.ได้ชัตดาวน์กรุงเทพฯก็ตาม ส่งผลให้ระหว่างวันหุ้นไทยดีดตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,283.76 จุด ลดลงต่ำสุดที่ 1,244.14จุด จนมาปิดตลาดที่ 1,283.56จุด เพิ่มขึ้น 28.11จุด หรือ 2.24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30,254.11 ล้านบาทสำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5อันดับแรก1. เอไอเอส ปิดที่ 209.00บาท เพิ่มขึ้น 9.50 บาท2. ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 164.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท3. ธ.กรุงเทพ ปิดที่ 181.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท4. จัสมิน ปิดที่ 6.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท5. ธ.ไทยพาณิชย์ ปิดที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท   น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่าดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นได้มากในช่วงบ่าย ตามแรงเก็งกำไรกลับ หลังจากที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญทุกฝ่ายเข้าหารือในวันที่ 15 ม.ค.นี้เพื่อเลื่อนการเลือกตั้งออกไป อีกทั้งได้รับอานิสงส์จากตลาดหุ้นกลุ่มทิปส์ที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยฟิลลิปปินส์ เพิ่มขึ้นถึง 1.7% และอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 3%    

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หุ้นไทยวันที่ 13 มกราคม 2557 พลิกปิดพุ่ง 28.11 จุด

Posts related

 














ปี57 ทัวร์จีนออกนอกประเทศ 100 ล้านคน

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพรนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางออกนอกประเทศ(เอาท์บาวด์)ในปี57 คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านคน เนื่องจากเห็นสัญญาณเกี่ยวกับการควบคุณกฎหมายทัวร์คุณภาพจากรัฐบาลจีนที่เริ่มผ่อนปรนแนวทางปฏิบัติให้บริษัทนำเที่ยวเข้มงวดด้านการจัดโปรแกรมทัวร์น้อยลงได้ เช่น อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวสามารถจัดทัวร์ในรูปแบบใดก็ได้แต่ต้องมีการเซ็นสัญญายินยอมจากนักท่องเที่ยวก่อนออกเดินทางก่อน ทั้งนี้ยังมีรายงานจากองค์กรการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (ซีเอ็นทีเอ)ออกมาแล้วว่าสถิตินักท่องเที่ยวจีนเอาท์บาวด์ของปีที่ผ่านมาว่ายังมีจำนวนสูงถึง 97 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 14 ล้านคนเทียบกับปี 55 ขณะที่เมื่อราว10 ปีก่อน หรือในปี 47 ยังมีชาวจีนเดินทางออกเพียง 29 ล้านคนซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มการเติบโตที่ก้าวกระโดดมาก อย่างไรก็ตามในกรณีของธุรกิจทัวร์จีนในไทยยังต้องรอการเจรจาทำการตกลงกับคู่ค้าบริษัทนำเที่ยวในจีนที่ส่งออกลูกค้ามาให้ในรายละเอียดอีกครั้งซึ่งขณะนี้ยังชะลอการเจรจาหรือการเตรียมแผนการทำตลาดออกไปก่อนด้วย 2 เหตุผลหลักคือ  ให้รัฐบาลกำหนดมาตรการผ่อนปรนกฎหมายท่องเที่ยวมากขึ้นกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดแนวทางปฏิบัติให้เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำผิด และ ขอให้การเมืองในประเทศเข้าสู่ภาวะสงบมากกว่านี้เพื่อไม่ให้การทุ่มงบประมาณทำการตลาดเป็นไปโดยเสียเปล่า เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนก็ยังมีความกังวลสถานการณ์ในไทยพอสมควร  สำหรับปัจจุบัน มีทัวร์จีนประมาณ50-60% จองโปรแกรมท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีนปลายเดือนนี้เข้ามาแล้ว และทั้งหมดเป็นการเดินทางผ่านเที่ยวบินปกติขณะที่เที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลท์) ยังไม่กลับเข้ามานับตั้งแต่มีการบังคับใช้กฎหมายปีที่แล้วนอกจากนี้ ยังต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงวันที่13-15 ม.ค. อย่างใกล้ชิดเพราะถ้าหากมีเหตุการณ์รุนแรงหรือยกระดับการเตือนภัยอาจจะมีการยกเลิกการจองเพิ่มเติมอีก

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ปี57 ทัวร์จีนออกนอกประเทศ 100 ล้านคน

ผู้ประกอบการร้องเรียนหาผู้ทำบัญชียาก

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัท ห้าง ร้าน ได้ร้องเรียนเข้ามายังกระทรวงพาณิชย์จำนวนมากว่า เกิดปัญหาไม่สามารถหารายชื่อผู้สอบบัญชีและผู้ทำบัญชี เพื่อจัดทำงบการเงินได้ หลังจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้โอนถ่ายงานไปให้สภาวิชาชีพบัญชีดูแล ก็ทำให้ตรวจสอบหารายชื่อผู้ทำบัญชีได้ยาก ต่างจากเดิมที่เคยหาได้ตามเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่สำคัญตอนนี้ยังมีความเสี่ยงอาจทำบัญชีส่งงบการเงินไม่ทัน เพราะปัจจุบันมีบริษัทห้างร้านเกิดขึ้นใหม่มากขึ้น   ทั้งนี้ปัจจุบันมีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศจำนวน 562,485 รายมีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 10.74 ล้านล้านบาทแบ่งเป็นบริษัทจำกัด 382,759 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,036 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 178,690ราย    “เมื่อก่อนธุรกิจสามารถหาผู้ทำบัญชีผู้สอบบัญชีได้ไม่ยาก ยิ่งตอนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดูแลอยู่ สามารถค้นหาได้เลยแต่พอโอนงานออกไป เหมือนกับผลักภาระทิ้งไปให้สภาวิชาชีพบัญชีดูแล และพอดูแลไม่ดีทำให้ธุรกิจเดือดร้อน ยิ่งตอนนี้รัฐบาลส่งเสริมให้มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเพิ่มมากขึ้นเพื่อผลักดันให้มีการทำธุรกิจโปร่งใส แต่มาเจอปัญหาแบบนี้ก็ยิ่งแย่ แถมตอนนี้มีการออกกฎให้ผู้สอบบัญชีเซ็นงบเหลือเพียงปีละ200 งบ จากเดิม 300 งบ ก็ยิ่งหาคนทำได้ยากไปอีก”   รายงานข่าวแจ้งว่าสาเหตุที่ทำให้สภาวิชาชีพบัญชีออกกฎให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตสามารถเซ็นงบได้ปีละ200 งบ เริ่มปี 57 เป็นต้นไป เนื่องจากสภาวิชาชีพบัญชี ที่มีผู้บริหารส่วนใหญ่มาจากสำนักงานบัญชีรายใหญ่ของไทยได้กำหนดนโยบาย เพื่อต้องการให้สำนักงานบัญชีรายย่อยทำงานได้ยากขึ้นเพราะถูกจำกัดงานที่สำคัญผลกระทบของกฎนี้ยังทำให้สำนักงานบัญชีรายย่อย และภาคธุรกิจต้องเดือดร้อน มีธุรกิจจำนวนมากไม่สามารถหาผู้ทำบัญชีและสอบบัญชีได้และเมื่อไปขอให้สำนักงานบัญชีใหญ่ๆ ก็ต้องจ่ายแพงขึ้นและมีต้นทุนสูงกว่าผู้ทำบัญชีรายเล็ก   ล่าสุดสภาวิชาชีพบัญชียังได้ออกกฎระเบียบใหม่โดยกำหนดให้ผู้ที่จะเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี จะต้องเสียค่าสมาชิกปีละ 500 บาทซึ่งสำหรับนักบัญชีที่มีงานทำแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาแต่สำหรับผู้ที่เพิ่งจบการศึกษามาใหม่ๆ หากอยากเป็นสมาชิกก็ต้องจ่ายและต้องจ่ายทุกปี ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กจบใหม่และยังต้องจ่ายค่าสอบวิชาชีพ เพื่อให้ได้ใบอนุญาตอีกวิชาละ 1,000 บาท 6 วิชา รวม 6,000 บาท ซึ่งเมื่อสอบผ่านจนได้รับใบประกอบวิชาชีพแล้วก็ต้องจ่ายค่าสมาชิกอีกปีละ 2,000 บาททุกปีรวมทั้งต้องมีการอบรมวิชาชีพบัญชีจาก 12 ชั่วโมง เป็น 18 ชั่วโมงด้วย โดยการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมครั้งนี้  สภาวิชาชีพบัญชี ได้แจงว่าเพื่อนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงพัฒนาระบบการบัญชีของไทยให้ได้มาตรฐานโลกและเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ผู้ประกอบการร้องเรียนหาผู้ทำบัญชียาก

Page 1181 of 1552:« First« 1178 1179 1180 1181 1182 1183 1184 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file