shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นชง 5 แนวทางปราบโกง

ที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เวลา 10.00 น. วันที่ 3 ม.ค. 56 ผู้สื่อข่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย คณะทำงานของพรรค อาทิ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ , นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน , นายกรณ์ จาติกวนิช ได้เดินทางเข้าหารือกับ นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น(ประเทศไทย) พร้อมด้วยคณะทำงาน เช่น นายกล้าณรงค์ จันทิก อดีตกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ  โดยเฉพาะแนวทางการต่อต้านการคอรัปชั่น  เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์จะใช้เป็นแนวทางร่างพิมพ์เขียวของพรรคต่อไป  ทั้งนี้ ก่อนการหารือ องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นฯ ได้เสนอ 5 แนวทางในการกำหนดมาตราการกำจัดคอรัปชั่นก่อนการเลือกตั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับทราบ ประกอบด้วย 1.กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่ต้องบังคับใช้และอาจแก้ไขให้เข้มงวดมากขึ้น โดยมีแนวคิดครอบคลุมพฤติกรรมของนักธุรกิจและเจ้าหน้าที่รัฐ  ที่ร่วมมือกันโกงข้ามประเทศโดย แก้กฎหมายให้คดีคอรัปชั่นเป็นคดีอาชญากรรมร้ายแรง คุกคามต่อความมั่นคงของชาติ มีโทษรุนแรงและไม่รอลงอาญา 2.สร้างความแข็งแกร่งของหน่วยงานต่อต้านคอรัปชั่นด้วยการให้ความสนับสนุนงบประมาณและบุคลากรอย่างเร่งด่วนแก่องค์กรที่ต่อต้านคอรัปชั่น เช่น สตง.   ป.ป.ช.3.สร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนโดยเปิดให้เข้ามาสังเกตการจัดซื้อจัดจ้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐและเข้าถึงข้อมูลไดัเต็มที่อย่างไม่มีเงื่อนไข   4.ผลักดันมาตรการเรื่องความโปร่งใสที่สอดคล้องตามมาตรฐานอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ.2003   พร้อมกับให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ให้รัฐวิสาหกิจเปิดเผยข้อมูลการบริหารจัดการไม่น้อยกว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และสุดท้าย 5. การรณรงค์คุณธรรมจริยธรรมและการต่อต้านคอรัปชั่นครั้งใหญ่ ด้วยการสนับสนุนให้นำหลักสูตรการปลูกฝั่งคุณธรรมจริยธรรมและการต่อต้านคอรัปชั่นมาใช้ในการเรียนการสอนของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ   นายอภิสิทธิ์  กล่าวภายหลังหารือร่วมกับองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น ว่าต้องการรับทราบข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นในอนาคต แต่จะต้องให้ผู้ที่มีอำนาจ คือ รัฐบาลชุดใหม่ เป็นผู้ดำเนินการต่อ เพื่อให้เกิดแนวทางการป้องกันการทุจริตเป็นรูปธรรม ดังนั้นสิ่งที่ดำเนินการได้ในขณะนี้จะต้องรณรงค์ให้เกิดการตื่นตัวในสังคม โดยหลังจากนี้จะไม่มีการพบปะกับองค์กรอื่นๆ แต่จะเดินหน้าหารือกับตัวบุคคลอีก 2-3 คน ก่อนที่จะสรุปแนวทางด้านการคอรัปชั่นต่อสื่อมวลชนในวันอังคารหน้า และหลังจากนั้นทางพรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการเรื่องการเลือกตั้งเป็นวาระต่อไป

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นชง 5 แนวทางปราบโกง

Posts related

 














ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 มกราคม 2557 ปิดตลาดร่วง 6.15 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 ม.ค. ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยส่วนใหญ่ยังคงอ่อนตัวในแดนลบ หลังจากดัชนีปรับลดลงมากในช่วงก่อนหน้านี้จากแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ยังไม่ชัดเจน ประกอบกับดัชนีตลาดหุ้นทั้งในภูมิภาครวมถึงยุโรป และสหรัฐฯปรับลดลงทั้งหมดส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะเดียวกันตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาในแนวโน้มที่อ่อนตัวลง ซึ่งทั้งสองปัจจัยยังเป็นแรงกดดันต่อตลาดภูมิภาคอยู่ ส่งผลให้ระหว่างวันหุ้นไทยทะยานขึ้นสูงสุดที่ 1,234.52 จุด ลดลงต่ำสุดที่ 1,208.60 จุด จนมาปิดตลาดที่ 1,224.62 จุด ลดลง 6.15 จุด หรือ 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38,072.18 ล้านบาท สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก1. เอไอเอส ปิดที่  196.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท2. ธ.กสิกรไทย ปิดที่  151.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท3. ธ.ไทยพาณิชย์ ปิดที่  132.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท4. อินทัช ปิดที่  65.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท5. ทรู ปิดที่  6.70 บาท ลดลง 0.10 บาท  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 มกราคม 2557 ปิดตลาดร่วง 6.15 จุด

พาณิชย์จับตาบาทอ่อนกระทบสินค้า

นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า  ขณะนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์การอ่อนค่าของเงินบาทอย่างใกล้ชิด เพราะจะมีผลกระทบ ราคาสินค้าที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้านำเข้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศ  เช่น กลุ่มสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันอย่าง เหล็ก ทองแดง สังกะสี สายไฟ ปุ๋ย เป็นต้น  เนื่องจากเกรงว่าพ่อค้าจะใช้ประเด็นเรื่องค่าเงินบาทอ่อนมาเป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคาสินค้า “การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าจะมีผลต่อวัตถุดิบนำเข้า หรือสินค้านำเข้าให้มีราคาสูงขึ้น แต่โดยปกติแล้วผู้นำเข้าจะต้องมีสต๊อกสินค้าวัตถุดิบสำรองไว้ประเทศ 1-2 เดือน จึงเชื่อว่าผลกระทบจากค่าเงินบาทอ่อนค่าจะยังไม่มีผลต่อราคาสินค้าทันที แต่อาจจะส่งผลในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าเป็นต้นไป ซึ่งกรมฯ จะติดตามสถานการณ์ในทุกเดือนๆ” นอกจากปัญหาค่าเงินบาทแล้ว ประเด็นที่จะกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าอื่นๆ ที่น่าเป็นห่วง เช่น ราคาน้ำมันเชื้อเพลง ค่าไฟฟ้าที่จะมีการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ต่อหน่วยขึ้น โดยในส่วนนี้จะส่งผลต่อต้นทุนราคาสินค้าประมาณ 1% ซึ่งถือว่ากระทบในอัตราที่น้อย แต่ทางจิตวิทยาแล้วจะถูกใช้เป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคาสินค้าเช่นเดียวกัน ด้านราคาน้ำมันดีเซลถ้าปล่อยลอยตัวจะกระทบต่อคาขนส่งสินค้าเป็นหลัก ซึ่งจะส่งผลกระทบในวงกว้าง จึงต้องติดตามนโยบายของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด นายสันติชัย กล่าวว่า กรมการค้าภายในอยู่ระหว่างดำเนินการศึกษา ทบทวนปรับเปลี่ยนสินค้าควบคุม ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 43 รายการ โดยจะเลือกสินค้าที่ประชาชนใช้ส่วนใหญ่และมีผลต่อค่าครองชีพมาจัดอยู่ในหมวดสินค้าควบคุมและถอนสินค้าที่ไม่จำเป็นออกไป อีกทั้งจะติดตามปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าไฟ ซึ่งไม่มีผลมากนักแต่อาจจะนำมาเป็นข้ออ้างในการปรับราคาสินค้าได้ รวมถึงค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง แต่ยืนยันว่าในไตรมาสแรกของปีสินค้าจะยังไม่ปรับขึ้นราคาแน่นอน 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์จับตาบาทอ่อนกระทบสินค้า

Page 1222 of 1552:« First« 1219 1220 1221 1222 1223 1224 1225 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file