shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

ดัชนีเชื่อมั่นทองคำเดือนพ.ย.ฟื้นตัว

นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนพ.ย. อยู่ที่ระดับ 55.76 จุด เพิ่มขึ้น 9.05 จุด หรือ 19.37% หลังกลุ่มผู้ลงทุนและผู้ค้าทองคำมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี) จนถึงปี 57 ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนราคาทองในระยะสั้น ส่วนประเด็นการเมืองในประเทศนั้น ไม่น่ากระทบต่อราคาทองคำโดยตรง แต่อาจส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับปัจจุบัน เพราะกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะ 3 เดือนข้างหน้า ยังมีแนวโน้มเชิงบวก โดยค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 56.45 จุด เพิ่มขึ้น 8.19 จุด หรือ 16.97% จากการจัดทำในเดือนต.ค. นอกจากนี้ ยังพบว่านักลงทุนส่วนใหญ่ 35.32% จะซื้อทองคำในช่วง 1 เดือนข้างหน้า ขณะที่ 39.73% ยังไม่ซื้อทองคำ และ 24.95% ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือไม่ นายภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ผู้ค้าส่งทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ 11 ตัวอย่าง เชื่อว่าราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเดือนพ.ย.จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250 – 1,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือบาทละ 18,500-20,700 บาท ขณะที่กรอบราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,270-1,280 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือบาทละ 18,900-19,100 บาท และกรอบสูงสุด 1,360-1,380 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือบาทละ 20,400-20,700 บาท ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ ที่มีผลต่อราคาทองคำยังเป็นนโยบายคิวอี การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทโดยเฉพาะผลกระทบจากการเมืองในประเทศ การเก็งกำไรในตลาดทองคำและความต้องการทองคำในช่วงปลายปี “กลุ่มผู้ค้าทองคำมีความเห็นแตกต่างกันเรื่องการชะลอคิวอี โดยผู้ค้า 5 ราย มองว่าเฟดจะชะลอมาตรการในช่วงปลายไตรมาสแรกของปี 57 ขณะที่ 4 ราย คาดว่าน่าจะชะลอในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 57 และ 2 ราย คาดว่าจะชะลอช่วงครึ่งปีหลังของปี 57 เนื่องจากเฟดรอการตัดสินใจเรื่องเพดานหนี้ก่อนพิจารณาชะลอมาตรการคิวอี”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ดัชนีเชื่อมั่นทองคำเดือนพ.ย.ฟื้นตัว

Posts related

 














หุ้นไทยวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 พลิกปิดบวก 0.88 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 11 พ.ย. ดัชนีแกว่งตัวผันผวนอย่างหนัก ซึ่งดิ่งลงแรงกว่า 21 จุดทันทีที่เปิดตลาด เนื่องจากนักลงทุนกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศที่เริ่มร้อนแรงมากขึ้น และระหว่างวันอ่อนตัวในแดนลบอย่างหนักถึง 25.24 จุด จากนั้นฟื้นตัวขึ้นในช่วงบ่ายและพลิกกลับมาเป็นบวกได้หนุนดัชนียืนเหนือ 1,400 จุดอีกครั้ง ตามแรงเข้าซื้อกลับ เนื่องจากราคาหุ้นหลายตัวปรับลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ก่อนที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงท้ายตลาดและเด้งกลับมายืนบวกได้ ส่งผลให้ระหว่างวันดัชนีทะยานขึ้นสูงสุดที่ 1,408.53 จุด ลดลงต่ำสุดที่ 1,379.79 จุด จนมาปิดตลาดที่ 1,405.91 จุด เพิ่มขึ้น 0.88 จุด หรือ 0.06% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 32,285.22 ล้านบาท สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก 1. เอไอเอส ปิดที่ 234.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท 2. ทรู ปิดที่ 8.05 บาท ลดลง 0.05 บาท 3. อินทัช ปิดที่ 78.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท 4. ธ.ไทยพาณิชย์ ปิดที่ 167.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท 5. ซีพีออลล์ ปิดที่ 40.25 บาท ลดลง 0.25 บาท

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หุ้นไทยวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 พลิกปิดบวก 0.88 จุด

ธปท.ห่วงจีดีพีไทยทั้งปีโตไม่ถึง 3.7%

นางรุ่ง โปษยานนท์ มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ มีความเป็นไปได้ที่ภาวะเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 4 ปี 56 จะไม่ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และอาจส่งผลให้อัตราการขยายตัวทั้งปี ลดลงกว่าที่คาดการณ์อยู่ที่ 3.7% เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ล่าสุดมีความตึงเครียดมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายพื้นที่ รวมถึงกระทบต่อแนวโน้มความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคและนักธุรกิจให้ชะลอลงบ้าง ส่วนแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 57 คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.8% ซึ่งเชื่อว่ามีปัจจัยจากการใช้จ่ายของภาครัฐเข้ามาเป็นปัจจัยขับเคลื่อน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าการเมืองจะไม่รุนแรง เพราะเป็นการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย ยกเว้นไม่ได้มีการประชุมในระบบประชาธิปไตยอาจมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักท่องเที่ยว และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ “ในช่วงทศตวรรษที่ผ่านมาการเติบโตเศรษฐกิจไทยขยายตัว 4-5% นั้น มาจากตัวเลขการส่งออกที่ขยายตัว 2 หลักมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันปัญหาเศรษฐกิจโลกทำให้การส่งออกไม่ใช่เป็นตัวขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเพียงตัวเดียวแล้ว แต่ยังมีกลจักรอีก 3 ตัวคือการใช้จ่ายภาครัฐ การอุปโภคบริโภคในประเทศ และการลงทุนของภาคเอกชน นอกจากนี้เห็นว่าปัญหาการเมืองจะไม่ทำให้การลงทุนโครงสร้าง 2 ล้านล้านบาทได้รับผลกระทบ เพราะโครงการไม่ได้เกิดขึ้นในปีนี้หรือปี 57 แต่จะเริ่มในปี 58” นายอัทธิ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ขณะนี้การยุบสภาผู้แทนราษฎรสามารถแก้ปัญหาเรื่องของความวุ่นวายทางการเมืองไทยได้ในระยะสั้น ๆ แต่ไม่สามารถแก้ระยะยาวได้ ดังนั้นหากให้บรรยากาศดีขึ้นนายกรัฐมนตรีต้องออกมาแถลงความชัดเจนเพื่อแสดงความเชื่อมั่นแก่ประชาชน ก็น่าจะดีกว่าการยุบสภาฯ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธปท.ห่วงจีดีพีไทยทั้งปีโตไม่ถึง 3.7%

Page 1439 of 1552:« First« 1436 1437 1438 1439 1440 1441 1442 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file