วันนี้(20 ก.พ.) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว นายปิยชาติ รัตน์ประสาทพร กรรมการบริหาร บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชนชนส่วนใหญ่มีความกังวลในเรื่องการจ่ายบิลค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องหาเวลาเดินทางไปชำระเงินตามเคาน์เตอร์ บริษัทจึงได้ร่วมกับ มาสเตอร์การด์ เปิดบริการ อีซี่ย์บิล(easyBills) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการจ่ายบิลค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ทุกที่ทุกเวลา ผ่านเว็บไซต์ www.easyBills.in.th และผ่าน แอพพลิเคชั่น easyBills บนสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการไอโอเอสและ ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ โดยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย“ปัจจุบันในไทยมีการออกบิลค่าใช้จ่ายต่างๆจำนวนประมาณ 500 ล้านบิลต่อปี ในจำนวนนี้ 30 % จะเป็นการชำระเงินผ่านการตัดยอดจากบัญชีธนาคาร ส่วนอีก 70 % จะเป็นการถือบิลไปชำระตามเคาท์เตอร์ต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้คือกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทต้องการเสนอบริการอีซีย์บิลให้ได้ใช้ เนื่องจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้สามารถชำระเงินได้ง่าย ไม่ต้องสมัคร เพียงแค่มีบัตรเครดิตแล้วกรอกหมายเลขก็สามารถชำระเงินได้ทันที และจะมีการเรียกเก็บเงินตามรอบบัญชีของบัตรเครดิต และยังได้รับแต้มสะสมคะแนนของบัตรเครดิตที่ใช้ด้วย นอกจากนี้ในแอพพลิเคชั่นยังใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์แจ้งเตือนเมื่อถึงระยะเวลาในการชำระบิลในรอบบัญชีต่อไป”นายปิยชาติ กล่าวต่อว่า ได้เปิดให้บริการอีซี่ย์บิล ผ่านเว็บไซต์แล้วได้ประมาณเกือบ 1 เดือนมีคนเข้ามาทดลองใช้แล้วประมาณ 1,000 ราย ส่วนแอพพลิเคชั่นจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการผ่านในวันที่ 1 มี.ค. นี้ตั้งเป้าหมายจะมีคนเข้ามาใช้งานมากกว่า 10,000 รายการต่อเดือน โดยบริษัทได้เตรียมงบประมาณมากกว่า 1 ล้านบาท เพื่อทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้และเข้าถึงบริการนี้ ซึ่งในช่วงแรกถึง 30 มิ.ย.นี้จะให้ลูกค้าได้ทดลองใช้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมสำหรับ 3,000 แรกที่จ่ายในแต่ละบิลในแต่ละเดือน หลังจากนั้นจะคิดค่าธรรมเนียมเท่าการจ่ายตามเคาท์เตอร์ต่างๆ หรือประมาณ 10-15 บาทต่อรายการ“หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะสามารถชำระบิลต่างได้ 40 ประเภท และจะเพิ่มบิลต่างๆเป็นมากกว่า 100 บิลภายในสิ้นปีนี้ โดยปัจจุบันบัตรเครดิตในประเทศไทยมีจำนวน 17 ล้านบัตร และเป็นบัตรของมาสเตอร์ การ์ด จำนวน 40% บริษัทคาดหวังว่าจะมีผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ดมากกว่า 1 แสนรายมาใช้บริการอีซีย์บิล ภายในสิ้นปีนี้” นายปิยชาติ กล่าว
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “ทูซีทูพี”เปิด “easyBills” จ่ายบิลค่าสาธารณูปโภคผ่านแอพ-เว็บไซต์
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs
วันนี้ (20 ก.พ.) นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ นักวิเคราะห์อาวุโส จากบริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าวว่า เป็นเรื่องฮือฮาที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง หลังจากเฟซบุ้ค (Facebook) ประกาศว่าได้เข้าซื้อวอทส์แอพ (WhatsApp) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฟซบุ๊ก จ่ายเป็นเงินสด 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และหุ้นสามัญรวมกับหุ้น ESOP ของเฟซบุ๊กเองอีก 15,000 ล้านสหรัฐ รวมเป็นมูลค่า 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 6 แสนล้านบาท ซึ่ง มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ค ได้ออกมาแถลงหลังการเข้าซื้อว่า ตอนนี้วอทส์แอพ กำลังจะมีผู้ใช้ 1 พันล้านคนแล้ว และบริการที่มีลูกค้าขนาดนั้นถือเป็นมูลค่าที่มหาศาลมากอย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าราคาที่ เฟซบุ้คซื้อ วอทส์แอพ จะนับว่าสูงมาก (ประมาณ 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราว 521,000 ล้านบาท) แต่เมื่อมองไปที่คุณค่าและความคุ้มค่าแล้ววอทส์แอพเป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถต่อยอดให้เฟซบุ้คได้ไม่น้อย ทั้งนี้ วอทส์แอพเป็นหนึ่งในแอพพลิเคชั่นที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีผู้เข้าใช้งานมากกว่า 450 ล้านรายต่อเดือน และ 70% จากจำนวนนี้มีการเข้าใช้งานทุกวัน เมื่อเทียบกับอินสตราแกรม ที่เฟซบุ้คได้ซื้อไปก่อนหน้านี้ อินสตราแกรมมีผู้ใช้งานประจำประมาณ 1 ใน 3 ของวอทส์แอพเท่านั้น”“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การโฆษณาทางมือถือ นับว่าแหล่งรายได้หลักที่สำคัญของเฟซบุ้ค และความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของเฟซบุ้คมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้านพฤติกรรมทางสังคมของผู้ใช้งานและการเชื่อมโยงความสัมพันธ์บนสื่อสังคมออนไลน์ที่ยากจะหาคู่แข่งมาเทียบได้ในปัจจุบัน” นายธีระ กล่าวนายธีระ กล่าวว่า การเข้าซื้อวอทส์แอพเป็นการเปิดโอกาสให้เฟซบุ้คในหลายๆ ทาง อย่างแรกคือ เฟซบุ้คจะสามารถเข้าถึงผู้ใช้จำนวนมากของวอทส์แอพ และน่าสนใจยิ่งกว่าคือการที่วอทส์แอพผูกบัญชีผู้ใช้งานกับหมายเลขโทรศัพท์จริงเพื่อยืนยันตัวตน และ รายชื่อในคอนแทคลิสต์ของวอทส์แอพมาจากหมายเลขโทรศัพท์จริงที่อยู่ในเครื่องของผู้ใช้ หากเฟซบุ้คสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ร่วมกับฐานข้อมูลผู้ใช้ที่ตนมีอยู่ จะทำให้เฟซบุ้คมีความเข้าใจในพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลมีเดียของผู้ใช้ได้มากขึ้นนอกจากนี้ปัจจุบัน วอทส์แอพรองรับการใช้งานได้ถึง 7ระบบปฎิบัติการ ทั้ง PC, Android, iOS, Nokia Symbian, Nokia S40, BlackBerry, Windows Phone ซึ่งในจำนวนนี้ ยังมีผู้ใช้งานอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่มีแอคเคาน์บนเฟซบุ้ค ส่งผลให้เฟซบุ้คสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้กลุ่มใหม่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในอดีต ซึ่ง การเข้าซื้อวอทส์แอพอาจช่วยตอบโจทย์ปัญหาของเฟซบุ้คในด้านการชะลอตัวของอัตราการเติบโตของจำนวนผู้ใช้งานใหม่ได้อย่างลงตัวสำหรับผลกระทบที่วอทส์แอพจะมีต่อรายได้ของเฟซบุ้ค ยังเป็นเรื่องที่ต้องรอดูกันต่อไป เนื่องจากจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของวอทส์แอพ คือการให้บริการที่ไม่มีโฆษณา ไม่มีเกมส์ หรือสิ่งกวนใจอื่นๆ อีกทั้งยังมุ่งเน้น การให้บริการสื่อสารที่มีความเสถียรและความปลอดภัยสูง ซึ่งแตกต่างจากเฟซบุ้คที่มีรายได้หลักจากการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับทั้งสองฝ่ายที่จะหาโครงสร้างรายได้ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าต่อการลงทุนในครั้งนี้”สำหรับแผนการเข้ารุกตลาดโมบายคอมเมิร์สของเฟซบุ้ค จนถึงปัจจุบัน ฝ่ายบริหารของเฟซบุ้คยังไม่ได้ออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนถึงรูปแบบในการทำตลาดในอนาคตอันใกล้นี้ แต่เมื่อใดที่เฟซบุ้คตัดสินใจ เข้าร่วมแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดอีคอมเมิร์ส ทั้งวอทส์แอพและอินสตราแกรมจะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในทันที” นายธีระ กล่าว 
ดีแทค ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างประโยชน์และเชื่อมต่อประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา สาธารณสุข สังคม รวมถึงเกษตรกรรม บริการ *1677 ทางด่วนข้อมูลการเกษตร ให้ลูกค้าสมัครรับ SMS ข้อมูลข่าวสารด้านการเกษตรและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และต่อยอดโดยการเสนอบริการใหม่ FARMER INFO แอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน ให้ข้อมูลสินค้าเกษตร ทั้งราคารับซื้อ ราคาขาย ณ ตลาดใหญ่ในหลายพื้นที่ รวมถึงเกร็ดความรู้ด้านการเกษตรแบบครบวงจรที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และบริโภคปลอดภัย วิธีการสมัคร สมัครรับ SMS กด *1677 และโทรออก หากต้องการติดตั้งแอพพลิเคชั่น FARMER INFO บนสมาร์ทโฟน สามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store, Google Play หรือ Window Phones Store โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ภายในกลางปี 2557 นี้ ดีแทคจะร่วมกับบริษัท รักบ้านเกิด จำกัด พัฒนาช่องทาซื้อขายผ่านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) ระหว่างคนไทยกับทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ รักบ้านเกิด.คอม โดยไม่คิดค่าสมาชิก รวมทั้งจะเปิดให้บริการด้านการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Financial Services) เพื่อชำระค่าสินค้าเกษตรและอื่นๆ ให้ผู้ผลิตและผู้ซื้อทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟน ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตร ได้แก่ บริษัท เพย์สบาย จำกัด เป็นต้น 
