shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

‘โปรเมด’อีกคำตอบของปัญหาแม่บ้าน

“เดี๋ยวนี้คนไทยไม่มีใครทำงานแม่บ้านกันแล้วทั้ง ๆ ที่ลูกค้าเองก็อยากที่จะได้ลูกจ้างเป็นคนไทยเพราะคุยกันรู้เรื่องไม่ต้องมีปัญหาเรื่องภาษา”  คุณคณิยา นันทมนตรี หรือคุณเจน แห่งโปรเมดบริการจัดหาแม่บ้านที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างคนหางานกับผู้ที่อยากได้คนงาน ปัญหาการขาดแคลนแรงงานนั้นไม่ได้มีเฉพาะกับภาคอุตสาหกรรม ต่าง ๆ แต่ยังส่งผลมาถึงภาคย่อย ๆ อย่างคนทำงานบ้านด้วยซึ่งนับวันจะหายากขึ้นเรื่อย ๆ จากที่เคยเป็นผู้ใช้บริการบริษัทจัดหาแม่บ้านคุณเจนผันตัวเองมาเป็นคนจัดหาเองแบบไม่ได้ตั้งใจเพราะปัญหาที่เคยประสบจากบริษัทจัดหาต่าง ๆ ที่เอารัดเอาเปรียบไม่ว่าบริษัทนั้นจะมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือมีสัญญาระหว่างลูกค้ากับบริษัทแต่สุดท้ายแล้วก็ยังคงต้องเผชิญกับเหตุการณ์ลูกจ้างหนีงานหรือมาได้ไม่กี่วันก็ไปที่อื่นซึ่งให้ค่าจ้างดีกว่าแบบทิ้งไปดื้อ ๆ ขณะที่บริษัทผู้จัดหาเหล่านั้นก็ไม่ได้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังลูกค้าจึงทำได้แค่เพียงการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น “ปัญหาใหญ่ของครอบครัวที่มีเด็กทุกวันนี้ก็คือการขาดคนช่วยดูแลเด็กไปใช้บริการของศูนย์จัดหาแม่บ้านก็มักจะถูกโกงซึ่งตัวเองก็เคยเจอมาหลายครั้งมีสัญญากับศูนย์เป็น  10  ใบแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยต้องหาเอาเองโดยมีอดีตแม่บ้านซึ่งเป็นคนไทยใหญ่และเคยอยู่กับครอบครัวมาเกือบ 10 ปี เป็นคนช่วยหาคนมาให้”  แน่นอนว่าคนงานที่จะมารับจ้างเหล่านั้นไม่ใช่คนไทยและส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวที่ข้ามมาจากสหภาพพม่าโดยจะเป็นชาวไทยใหญ่กว่าร้อยละ 95 ส่วนอีก 5% ที่เหลือนั้นจะเป็นชาวกัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และลาว “อย่างกัมพูชากับเวียดนามมักจะมีปัญหาในเรื่องภาษา ส่วนลาวที่พูดกันเข้าใจกว่าจะมีมาน้อยคนงานส่วนใหญ่จึงเป็นคนพม่าที่เป็นไทยใหญ่เพราะจะสามารถพูดสื่อสารภาษาไทยได้มากกว่าเพราะพื้นฐานภาษาที่ใกล้เคียงกันแต่ถ้าเป็นคนพม่าเลยก็จะมีปัญหาเรื่องภาษามากกว่าเราก็แก้ไขปัญหาให้ลูกค้าด้วยการให้เบอร์แม่บ้านที่อยู่ที่บ้านซึ่งเป็นคนไทยใหญ่และพูดภาษาพม่าได้ด้วยให้คอยช่วยสื่อสารให้ไม่นานนายจ้างกับลูกจ้างก็จะสามารถเข้าใจกันได้”  การให้บริการที่มีประสบการณ์จากครอบครัวตัวเองทำให้โปรเมดแตกต่างจากศูนย์ให้บริการจัดหาคนอื่น ๆ เพราะนอกจากจะมีการทดลองคุณภาพของคนที่มาสมัครงานก่อนว่าสามารถทำอะไรได้บ้างและจะเหมาะกับความต้องการของลูกค้าคนไหนแล้วบางครั้งยังต้องบริการถึงขั้นฝึกงานให้ก่อนเป็นเวลา 1 สัปดาห์หากว่าลูกค้าร้องขอมาแต่ที่รับประกันไม่ได้แน่ ๆ เลยก็คือ ลูกจ้างจะอยู่กับนายจ้างนานแค่ไหน “ลูกค้าที่เข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นการบอกต่อกันมากกว่าจากเพื่อนไปถึงเพื่อนของเพื่อนแล้วก็บอกต่อ ๆ กันไป ซึ่งเราจะต่างจากศูนย์ตรงที่จะพูดกับลูกค้าตรง ๆ เราบอกไม่ได้ว่าลูกจ้างจะอยู่กับลูกค้านานแค่ไหนและลูกค้าจะพอใจกับคนที่ส่งไปหรือไม่เราจึงมีการรับประกันให้ภายในระยะเวลา 1 เดือนหากลูกค้าไม่พอใจก็พร้อมจะหาคนเปลี่ยนให้ แต่บางครั้งคนงานก็ขาดช่วงไปลูกค้าก็อาจจะต้องรอบ้างซึ่งเคยมีลูกค้าไม่พอใจเลยเราก็คืนเงินให้ทันที ซึ่งจะต่างจากที่ตัวเองเคยใช้บริการจากศูนย์ต่าง ๆ กว่าจะได้เงินคืนต้องรอนานแล้วบางครั้งก็หายไปเลยโทรฯหาก็ไม่รับสายหรือยกเลิกเบอร์หนีแต่สำหรับเราจะไม่มีอย่างนั้นลูกค้าจะคอมเพลนได้ตลอด” การเป็นคนกลางเชื่อมระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างของคุณเจนที่มีมากกว่าศูนย์จัดหาแม่บ้านทั่วไปจึงทำให้โปรเมดได้รับความเชื่อถือจากลูกค้ามากกว่าและยังมีคิวที่รอคนอีกกว่า 30 คิวซึ่งแม้จะมีแรงงานจากพม่าเข้ามาเกือบทุกวันเฉลี่ยวันละ 2-3 คน แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าอีกทั้งยังต้องเผชิญกับปัญหาการแย่งคนจากศูนย์แห่งอื่น ๆ ที่มาเสนอเงินเดือนให้มากกว่าอีกด้วยเพราะการเรียกเงินเดือนให้ตามความสามารถที่มีอยู่ของลูกจ้างและการทดสอบความสามารถก่อนส่งต่อทำให้ลูกจ้างบางคนเกิดอาการไม่พอใจ สำหรับการทำใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวเหล่านี้นายจ้างจะต้องเป็นผู้จัดทำให้กับลูกจ้างเองซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากค่าจ้างไปอีกราว 12,000-15,000 บาท แต่สำหรับบางคนอาจจะมีใบอนุญาตทำงานเดิมอยู่แล้วเพราะเคยทำงานที่เมืองไทยมาก่อนหน้านี้ ปัจจุบันที่บ้านคุณเจนเองจ้างแรงงานต่างด้าวเพื่อให้ช่วยดูแลลูก ๆ พร้อมกับทำงานบ้านถึง 2 คนและจ่ายค่าจ้างถึงคนละ 12,000 บาททั้ง ๆ ที่เป็นคนจัดหาเองแต่ยอมจ่ายแพงเพราะต้องการคนที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับงานและนั่นคือเหตุผลที่ลูกค้าเองก็ต้องยอมรับเช่นกันในวันที่ครอบครัวคนไทยต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าวต้อนรับเออีซี. …………………………………………………… เงื่อนไข ‘โปรเมด’ โปรเมดให้บริการจัดหา คนงาน, แม่บ้าน, พี่เลี้ยงเด็ก, คนสวน, คนดูแลผู้สูงอายุโดยนายจ้างจะต้องเป็นผู้ชำระค่าบริการจัดหาคนงานเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ชำระเพียงครั้งเดียวก่อนรับคนงานไปเริ่มงานจากนั้นนายจ้างจะเป็นผู้จ่ายเงินเดือนกับลูกจ้างได้โดยตรงโดยที่ทางโปรเมดจะไม่หักค่าบริการรายเดือนใด ๆ อีกแล้ว ทางโปรเมดจะรับประกันให้เป็นเวลา 1 เดือนสำหรับการขอเปลี่ยนตัวคนงานใหม่ได้ 1 คนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกโดยภายหลังจาก 1 เดือนไปแล้วนายจ้างสามารถแจ้งขอคนงานใหม่แทนคนงานเก่าได้ในทุกกรณีไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเพราะไม่พอใจผลการทำงานหรือคนงานหนี/ขอลาออกเองก็ตามโดยไม่จำกัดจำนวนครั้งแต่ทุกครั้งจะมีค่าใช้จ่าย 1,000 บาท หลังจาก 6 เดือนนับจากวันที่ลูกค้าชำระเงิน 5,000 บาทในครั้งแรก หากต้องการให้ทางศูนย์ส่งคนงานไปให้ใหม่ลูกค้าต้องชำระค่าบริการ  5,000 บาท เป็นการเริ่มต้นขอรับบริการใหม่ดูรายละเอียดที่ www.facebook.com/PRO-Maid

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘โปรเมด’อีกคำตอบของปัญหาแม่บ้าน

Posts related

 














สภาทนายความเตรียมย่ืนคำร้องศาลตรวจสต๊อกข้าว

ที่กระทรวงพาณิชย์วันที่ 11ก.พ.57ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่ากลุ่มชาวนายังคงปักหลักพักค้างคืนที่กระทรวงพาณิชย์เพื่อรอคำตอบจากรัฐบาลว่าจะสามารถจ่ายเงินจำนำข้าว130,000ล้านบาทให้กับชาวนาได้เมื่อไรซึ่งในช่วงเช้า นาย ธนนเวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนและถามไถ่ถึงปัญหาและความเดือดร้อนของกลุ่มชาวนาที่นอกจากนี้ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ได้เดินทางมาหารือกับกลุ่มชาวนาที่ปักหลักอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ด้วย  นาย เดชอุดมกล่าวว่า ต้องการมาห้ามกลุ่มชาวนาไม่ให้ไปบุกทำลายคลังข้าวที่รัฐฝากเก็บข้าวในโครงการรับจำนำแต่ให้เฝ้าสังเกตการณ์และปิดล้อมอยู่ด้านนอกเท่านั้นเพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเนื่องจากจะเป็นการบุกรุกและอาจเข้าข่ายการทำลายทรัพย์สินดังนั้น สภาทนายความฯจะเป็นตัวแทน ในการฟ้องร้องและยื่นเรื่องคำร้องต่อศาลเพื่อขออำนาจและให้ศาลเข้าไปตรวจค้นข้าวในคลังว่ามีอยู่จริงหรือไม่แทน ซึ่งหากไม่มีข้าวอยู่จริงก็เตรียมฟ้องร้องดำเนินการต่อรัฐได้ขณะเดียวกันได้เตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในข้อหาฉ้อโกงชาวนา ซึ่งมั่นใจว่าชาวนาจะเป็นฝ่ายชนะคดีแน่นอนเพราะข้ออ้างของรัฐบาลที่ระบุว่า ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายคืนให้ชาวนาเพราะมีม็อบไปปิดล้อมธนาคารทำให้ธนาคารไม่กล้าปล่อยกู้ให้นั้นฟังไม่ขึ้น  ”ในการฟ้องร้องนั้น เราดูที่สัญญาของชาวนาหรือใบประทวน เมื่อถึงกำหนดจ่ายเงินแล้วธก.ส.ยังไม่จ่ายเงินให้โดยอ้างว่า รัฐยังไม่หาเงินมาให้เท่ากับเป็นการผิดสัญญาหรือเบี้ยวหนี้ ซึ่งความผิดเกิดขึ้นแล้วโดยจะแบ่งการฟ้องร้องเป็นรายจังหวัดคาดจะใช้ทนายความดำเนินการสำหรับชาวนาทั่วประเทศประมาณ5,000 คนคดีจะแล้วเสร็จเมื่อไรยังตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับคิวของศาลที่จะนัดไปให้การแต่ในบางจังหวัดได้เริ่มต้นไปให้การแล้ว”   ด้านนายระวีรุ่งเรือง ประธานศูนย์ข้าวชุมนุมภาคตะวันตกแกนนำรายหนึ่งของกลุ่มชาวนาที่กระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ชาวนายังต้องการเข้าไปดูโกดังข้าวเช่นเดิมเพื่อให้ทราบว่า ข้าวยังอยู่จริงหรือไม่แต่วิธีการจะดำเนินการอย่างไรจะนำไปหารือกับแกนนำตามคำแนะนำของสภาทนายความฯก่อนอย่างไรก็ตาม แม้ว่ากลุ่มชาวนาจะปักหลักชุมนุมที่กระทรวงพาณิชย์แต่ยืนยันว่า จะไม่ขัดขวางการทำงานของข้าราชการโดยเฉพาะในวันที่ 12ก.พ.นี้กรมการค้าต่างประเทศจะเปิดให้ผู้สนใจยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ460,000 ตันตั้งแต่เวลา 09.00-16.00น.รวมทั้งในวันที่13 ก.พ.นี้จะมีการประมูลข้าวผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย(เอเฟต)อีกกว่า 220,000ตัน แม้บางครั้งอาจจะมีแกนนำพูดบนเวทีว่าจะมีการปิดกระทรวงแต่ทางกลุ่มเห็นว่าอยากให้ข้าราชการทำงานอย่างเต็มที่ 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สภาทนายความเตรียมย่ืนคำร้องศาลตรวจสต๊อกข้าว

โวยคมนาคมเมินคนพิการ

เมื่อเวลา11.00น.กระทรวงคมนาคมผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีภาคีเครือข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนขึ้นได้ทุกคัน จำนวนกว่า 50คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้พิการทางด้านร่างกายนำโดยนายอุดมโชคชูรัตน์ ประธานภาคีเครือข่ายได้มารวมตัวกันที่หน้ากระทรวงคมนาคมเพื่อมาวางพวงหรีดที่หน้ากระทรวงคมนาคมพร้อมเปิดปราศรัยโจมตีนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างรถเมล์3,183คัน นายอุดมโชคชูรัตน์ประธานภาคีเครือข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนขึ้นได้ทุกคันกล่าวว่า ทางเครือข่ายเห็นว่าการจัดซื้อจัดจ้างรถเมล์ใหม่ของรัฐบาลชุดนี้เห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้องเป็นสำคัญกว่าประโยชน์ของประชาชนเพราะหากปล่อยให้มีการใช้ทีโออาร์ฉบับที่6ในปัจจุบันทางภาคีเครือข่ายมองว่าอาจจะเอื้อประโยชน์ให้บริษัทรถบางบริษัทกำหนดให้สามารถใช้ลิฟท์แทนชานต่ำทางลาดซึ่งก่อให้เกิดปัญหาความยุ่งยากในการใช้งานสำหรับประชาชนทั่วไปเนื่องจากลิฟท์ใช้เวลาเฉลี่ยขึ้น-ลง3นาทีต่อคนขณะที่ทางลาดใช้เวลาเพียง20วินาที ดังนั้นจะทำให้เกิดปัญหารถติดและประชาชนจะตำหนิกลุ่มคนพิการที่ใช้ลิฟท์ขณะที่กลุ่มคนพิการเรียกร้องมาตลอดคือการใช้รถเมล์ชานต่ำซึ่งสามารถเข็นรถวิลแชร์ขึ้นไปได้เลยแต่ขสมก.ก้อ้างมาตลอดว่ารถเมล์ชานต่ำจะสร้างปัญหาเมื่อเกิดน้ำท่วมและเมื่อมีปัญหาเมื่อขึ้นสะพานสูงชันอย่างไรก็ตามจากการทดสอบแล้วพบว่าในกทม.มีปัญหาเพียง2 แห่งเท่านั้นในขณะที่รถเมล์ชานต่ำคนพิการกว่า40,000คนจะได้ประโยชน์และคนใช้รถเมล์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รับผลกระทบ  ดังนั้นทางเครือข่ายขอให้มีการทบทวนและขอให้อย่าให้มีการจัดซื้อจัดจ้างในทีโออาร์6มิฉะนั้นประเทศจะเสียงบประมาณโดยไม่ได้ประโยชน์ รายงานจากกระทรวงคมนาคมแจ้งว่าสำหรับร่างเงื่อนไขทีโออาร์เพื่อจัดซื้อจัดจ้างรถเมล์3,183 คันนั้นยังไม่ได้ข้อสรุปรายละเอียดที่ชัดเจนว่าจะใช้ลิฟท์ยกหรือรถชานต่ำทางลาดในรถร้อนแต่รถปรับอากาศนั้นทางคณะกรรมการร่างทีโออาร์ได้ข้อสรุปแล้วว่าจะใช้รถชานต่ำ  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : โวยคมนาคมเมินคนพิการ

Page 1054 of 1552:« First« 1051 1052 1053 1054 1055 1056 1057 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file