shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

บอร์ดกนอ.ไฟเขียวตั้ง6นิคมฯใหม่

นายวีระพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการ กนอ. เกี่ยวกับการอนุมัติจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมใหม่ว่า  คณะกรรมการคัดเลือกเหลือ 6 โครงการ จากผู้ประกอบการผ่านคุณสมบัติเข้ามา 13 โครงการ  คิดเป็นพื้นที่  4,800 ไร่ แบ่งเป็น นิคมฯ จังหวัดอุดรธานี 2,000 ไร่ ของบริษัท เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานี จำกัด  นิคมฯ จังหวัดหนองคาย 1,500 ไร่ ของบริษัท นาคา คลีนเพาเวอร์ จำกัด นิคมฯ จังหวัดนครราชสีมา 600 ไร่  ของบริษัท สวนอุตสาหกรรมพลังงาน  นิคมฯ โลจิสต์ติกส์ จังหวัดเชียงราย 300 ไร่  ของบริษัท เมืองเงินดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด ขณะที่นิคมฯเอสเอ็มอีอีก 2 แห่ง แห่งละ 200 ไร่ ของบริษัท อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียลเอสเตท (ระยอง) จำกัด  “จากการเปิดให้ยื่นตั้งนิคมฯ ครั้งนี้  แต่ละแห่งจะใช้เวลาในการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) รวมถึงลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี  คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการขายพื้นที่ได้อย่างเร็วในปลายปี58             สำหรับโครงการที่ได้รับอนุมัตินั้น บอร์ดพิจารณาจากหลักเกณฑ์ 5 ด้าน  เช่น ด้านเทคนิค การเงิน การตลาด และด้านการส่งเสริมการลงทุน”  ทั้งนี้ขั้นตอนต่อไปเมื่อได้รับอนุมัติแล้วผู้ประกอบการต้องยื่นแบบคำขอเสนอพื้นที่เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน กับ กนอ.  ด้วยการลงนามในสัญญาร่วมดำเนินงานจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม กับ กนอ. ภายใน 3 เดือน  จัดส่งเอกสารกรรมสิทธิ์ที่ดิน และเอกสารอื่นๆ เพื่อประกอบการประกาศเขตนิคมอุตสาหกรรม ภายใน 1 เดือน นับจากวันลงนามในสัญญาร่วมดำเนินงาน  พร้อมส่งรายงานผลการศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ฉบับสมบูรณ์ ต่อ กนอ. ภายใน 6 เดือน หลังจากประกาศเขตนิคมอุตสาหกรรมนอกจากนี้ต้องยื่นขออนุมัติผังแม่บท ผังจัดสรรที่ดิน และแบบก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคของโครงการนิคมอุตสาหกรรม ต่อ กนอ. ภายใน 3 เดือน หลังจากที่อีไอเอ ได้รับอนุมัติ รวมทั้งดำเนินการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี หรือ ตามที่ กนอ. เห็นชอบ หลังจาก โครงการได้รับอนุมัติผังจัดสรร จาก กนอ. และส่งมอบที่ดินให้ กนอ. เพื่อก่อสร้างศูนย์โอเอสเอส ไม่น้อยกว่า 2 ไร่ หรือ ตามที่ กนอ. กำหนดภายใน 1 ปี หลังจากที่ได้รับอนุมัติผังแม่บทสำหรับปี 57 คาดการณ์ยอดขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอยู่ในระดับ3,000-4,000 ไร่ ต่ำกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ที่มียอดขายกว่า 5,000 ไร่  เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมขยายตัว เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)  และปีนี้ยอดการลงทุนจะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยหากมองในแง่พื้นฐานเศรษฐกิจ ตอนนี้นักลงทุนยังให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยถ้าหากเหตุการณ์การเมืองในประเทศสงบ เพราะขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านมีการขยายตัวมาก ส่วนอุตสาหกรรมที่ยังจะเข้ามาลงทุนในไทยต่อเนื่องคือกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน แต่จะต้องขึ้นอยู่กับโครงการอีโคคาร์ 2 ด้วย ว่าจะเกิดขึ้นได้ภายในปีนี้หรือไม่ รองลงมาเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมเหล็ก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐาน เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมทุกประเภท 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บอร์ดกนอ.ไฟเขียวตั้ง6นิคมฯใหม่

Posts related

 














ร้านก๋วยเตี๋ยว-หมูปิ้งแห่ปรับราคารับปีม้า

 รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ขณะนี้มีร้านอาหารปรุงสำเร็จรูป เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยวในบางพื้นที่ของกรุงเทพฯ ได้มีการปิดป้ายให้ลูกค้ารับทราบว่ามีการปรับขึ้นราคาอีก5 บาทต่อชาม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 57  จากเดิมราคาต่ำสุดที่ 35 บาท จะเพิ่มเป็น 40 บาทและจากชามละ 40 บาท เพิ่มเป็น 45 บาท เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น ขณะที่บางรายเตรียมจะมีการปรับขึ้นราคาหมูปิ้งและหมูทอดอีกครั้งในช่วงตรุษจีนปลายเดือน ม.ค. นี้จากราคาหมูที่ทะยอยปรับขึ้นราคา   ทั้งนี้ราคาเนื้อหมูที่เริ่มปรับเพิ่มขึ้นทำให้กรมการค้าภายในได้กำหนดราคาประกาศรับซื้อและจำหน่ายสุกรในวันที่2-7 ม.ค. 57 ปรับเพิ่มเช่นกัน โดยราคารับซื้อและราคาจำหน่ายสุกรหน้าฟาร์มไม่ต่ำกว่า68-74 บาทต่อกก. สูงกว่าราคาแนะนำวันที่ 26-30 ธ.ค. 56 ที่ 2 บาทต่อกก.  และราคาจำหน่ายปลีกหมูเนื้อแดงตัดแต่งราคาไม่เกิน 138-148 บาท เพิ่มขึ้น  2-5บาทต่อกก. นายสันติชัย  สารถวัลย์แพศย์  รองอธิบดีกรมการค้าภายใน  กล่าวว่า กรมฯอยู่ระหว่างการศึกษาทบทวนโครงสร้างต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จและราคาเมนูอาหารแนะนำเนื่องจากราคาเมนูอาหารแนะนำ ที่กำหนดไว้ 25-35 บาท นั้นได้ดำเนินการมาแล้ว 2 ปีอาจต้องทบทวนให้เหมาะสมกับสถานการณ์และปัจจัยต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น  ขณะเดียวกันกำลังทบทวนว่าควรจะนำมาตรการควบคุมดูแลอาหารปรุงสำเร็จมาใช้เหมือนสินค้าควบคุมอีก43 รายการหรือยังเพราะขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าอาหารปรุงสำเร็จทั้งภายในห้างและนอกห้างทยอยปรับเปลี่ยนราคาเพิ่มขึ้น อย่างต่ำเมนูละ 5-10  บาท  “เร็วๆนี้จะเชิญสมาคม ตัวแทนร้านค้า ค้าปลีก เครือข่ายร้านธงฟ้า และผู้เกี่ยวข้องมาประชุมหารือและตรวจสอบสถานการณ์ว่าจะร่วมมือกันอย่างไรที่จะดูแลไม่ให้อาหารปรุงสำเร็จราคาสูงจนกระทบต่อผู้บริโภคหลังจากนั้นถึงดูว่าจะดำเนินการกันอย่างไร ควบคู่กับการเพิ่มร้านอาหารธงฟ้าที่มีอยู่เดิมกว่า5,000 รายโดยช่วยเหลือในเรื่องต้นทุนผลิตให้ถูกกว่าร้านอาหารทั่วไป”  ทั้งนี้ในช่วง 2 ปีมานี้ปัจจัยต่อต้นทุนเปลี่ยนไป ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าแก๊สหุงต้ม ค่าแรงงาน  แต่ราคาอาหารที่ประชาชนส่วนใหญ่รับได้ในภาวะเศรษฐกิจและกำลังบริโภคไม่ดีนักไม่ควรเกินเมนูละ 35 บาท ซึ่งกรมฯ คงผ่อนปรนเพดานราคา 25 บาท แต่ก็ยังคงราคาเพดานสูงไว้ไม่เกิน35 บาท  แต่ขณะนี้ต้องตรวจสอบก่อนว่าราคาที่ร้านอาหารปรับขึ้นนั้นเหมาะสมจริงหรือไม่หากราคาสูงไปก็คงต้องใช้มาตาการกฎหมายควบคุม ตามม.29ของกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการระบุไว้หากผู้ค้าสร้างความปั่นป่วนและขายสินค้าเกินราคา จะมีโทษเท่าขายสินค้าทั่วไปเกินราคาโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   ส่วนการติตตามภาวะราคาสินค้าในช่วงที่จะมีการชุมนุมปิดกรุงเทพฯในวันที่ 13 ม.ค.57 นั้น กรมฯ ได้มีการหารือกับผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ช่วยดูแลให้สินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบเพราะปัจจุบัน มีห้างค้าปลีกสมัยใหม่กระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ น.ส.กัญญาณัฐ ปราชญ์เรืองไกร เจ้าของน้ำผลไม้ปั่นแอปเปิ้ล สมูลตี้ ภายในกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทางร้านจะยังคงราคาขายเดิมและยังไม่มีกำหนดที่จะปรับเพิ่มราคาขาย  เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้กำลังซื้อลดลง ยอดขายต่อวันหายไปวันละ 20-30%  ทั้งๆที่ต้นทุนผลิตโดยเฉพาะผลไม้สด ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก ราคาแพงขึ้นขณะนี้ราคาผลไม้สดที่มีราคาสูง คือ เสาวรส แคนตาลูป แอปเปิ้ล   เพราะผู้ค้าผลไม้อ้างต้องปรับราคาจากค่าขนส่งสูงตามราคาน้ำมันและผลผลิตลดลง   นายสมชาติ สร้อยทองอธิบดีกรมการค้าภายใน  กล่าวถึงแผนการดูแลราคาสินค้าในปี 57 หลังจากมาตรการขอความร่วมมือตรึงราคาจะสิ้นสุดในเดือนธ.ค.56 ว่า แนวโน้มราคาสินค้าในปี 57 ในช่วงต้นปีจะยังคงอยู่ในภาวะทรงตัวเนื่องจากปัจจัยที่มีผลต่อราคาสินค้าทั้งวัตถุดิบและค่าแรงงานยังทรงตัวอยู่ในระดับเดิม ขณะที่น้ำมันดิบดูไบคาดว่าจะอยู่ที่ 95-115 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 29-30 บาทต่อเหรียญสหรัฐและราคาน้ำมันดีเซลในประเทศทรงตัวอยู่ที่ 29.99บาทต่อลิตร จึงไม่มีผลต่อต้นทุนการผลิตและราคาจำหน่ายสินค้า                

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ร้านก๋วยเตี๋ยว-หมูปิ้งแห่ปรับราคารับปีม้า

พาณิชย์ผุดตั้งสำนักงานรับมือเออีซี

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดตั้งสำนักงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เพื่อบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดในรูปแบบคณะกรรมการ โดยจะมีหน้าที่กำหนดกรอบยุทธศาสตร์และแผนการทำงาน เพื่อให้ไทยมีความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 58 และได้ประโยชน์จากเออีซีมากที่สุด ทั้งนี้ การทำงานจะเน้นการสร้างความพร้อมให้กับผู้ประกอบการที่จะใช้ประโยชน์จากเออีซี ซึ่งจะเป็นรูปแบบของการปฏิบัติ ไม่ใช่แค่เพียงทฤษฎี โดยมีหลายกรมที่จะเข้ามาร่วมงาน ทั้งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่จะช่วยพัฒนาผู้ประกอบการรายใหม่ ที่จะเข้าทำธุรกิจในเออีซี ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบการขยายแฟรนไชส์ การส่งออกและการเข้าไปลงทุน ขณะเดียวกันจะปรับระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับเออีซีใหม่ทั้งหมด ซึ่งต้องสามารถตอบคำถามให้กับผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจเกี่ยวกับตลาดเออีซีได้ ไม่ว่าจะเป็นคำถามในด้านการค้า การบริการ การลงทุนและอื่นๆ ที่สำคัญจะต้องเป็นข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ได้จริง สำหรับการอำนวยความสะดวกในด้านการค้า กรมฯ ต่างๆ ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์จะมีหน่วยงานที่ดูแลในด้านเออีซีเป็นการเฉพาะ ซึ่งในส่วนของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะมีศูนย์ดูแลผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ที่ต้องการจะบุกตลาดเออีซี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดูแลและพัฒนาผู้ประกอบการรายใหม่ๆ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ดูแลในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาของไทยในตลาดเออีซี กรมการค้าต่างประเทศ ดูแลและอำนวยความสะดวกในด้านใบอนุญาตทางการค้าต่างๆ เป็นต้น  ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ มีแผนที่จะพิจารณาปรับปรุงและเสนอให้แก้ไขกฎหมายบางฉบับที่ล้าหลัง และเป็นอุปสรรคต่อการเปิดเสรี เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงปีสุดท้ายก่อนจะมีการเปิดเสรี ล่าสุดอาเซียนได้มีการเปิดเสรีในด้านต่างๆ มีความคืบหน้าไปมาก โดยด้านการค้าเปิดเสรีเกือบหมดแล้ว การค้าบริการ การลงทุน ก็ใกล้จะเปิดเสรีเกือบทั้งหมด แต่การเปิดเสรีอาจจะติดขัดข้อกฎหมาย ทำให้การเปิดเสรีทำไม่ได้ หรือเป็นกฎหมายที่ไม่สามารถใช้ได้ในปัจจุบัน โดยขณะนี้กำลังดำเนินการศึกษาอยู่ และเมื่อได้ข้อสรุป ก็จะเสนอต่อรัฐบาลเพื่อให้มีการแก้ไขต่อไป นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังมีแผนที่จะปรับบทบาทการทำงานของพาณิชย์จังหวัดที่ประจำอยู่ในจังหวัดต่างๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการผลักดันการค้าเพิ่มมากขึ้น ทั้งการขยายการค้าภายในจังหวัด หรือการค้าต่างประเทศ เพราะเมื่อเปิดเออีซี จังหวัดที่ติดชายแดน จะมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น พาณิชย์จังหวัดจะต้องช่วยผู้ประกอบการในส่วนภูมิภาคให้เข้าสู่ตลาดเออีซี  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์ผุดตั้งสำนักงานรับมือเออีซี

Page 1219 of 1552:« First« 1216 1217 1218 1219 1220 1221 1222 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file