shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

คนไทยยังแห่เที่ยวนอก

นายสุทธิพงศ์ เผื่อนพิภพ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า การเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศ(เอาท์บาวด์) ปี 56 สดใสมาก คาดว่าภาพรวมทั้งปีจะเติบโต 10% ทั้งรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยว โดยจะทำรายได้ 130,000 ล้านบาท ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 5.5 ล้านคน โดยปัจจัยที่เติบโตหลักมาจากตลาดนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางระยะสั้นเติบโตสูง คือ ญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นถึง 60%  ส่วนในปีหน้าก็คาดว่าจะโต 10-15% ถึงแม้จะมีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง แต่ก็ไม่มีผลกับการท่องเที่ยวระยะยาว เนื่องจากเป็นตลาดที่ฟื้นตัวได้เร็วและช่วงเกิดเหตุการณ์ไม่ใช่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยคนไทยจะเริ่มจองแพ็กเกจประมาณเดือนเม.ย.ซึ่งการเมืองจะเข้าที่เข้าทางแล้ว นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ทำให้ทัวร์เอาท์บาวด์เติบโตได้ดี เนื่องจาก ราคาทัวร์ในประเทศ โดยเฉพาะทัวร์เที่ยวภาคใต้กับภาคเหนือยังมีราคาแพ็กเกจซึ่งรวมการเดินทางยังมีราคาสูง เฉลี่ยประมาณ 20,000 บาทต่อคน และหากเทียบราคาแพ็กเก็จของต่างชาติบางประเทศ เช่น เกาหลี หรือ สิงคโปร์ก็ถือว่าราคาไม่ได้ต่างกันมาก ทั้งยังออกแพ็กเกจแบบลด แลก แจก แถมด้วย  จึงกระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยได้มากยิ่งขึ้น “ทัวร์เอาท์บาวด์ไทยจะเรียกว่า เป็นการท่องเที่ยวที่บุญหล่นทับอยู่ตลอดก็ เป็นได้ เพราะตั้งแต่เหตุการณ์น้ำท่วม หรือเหตุการณ์การเมืองครั้งที่ผ่านๆมา เมื่อเรื่องสงบ ผู้คนก็จะเริ่มแสวงหาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อที่จะสร้างความเบิกบานใจให้กับตนเองหรือครอบครัว เพราะถือว่าที่ผ่านมาเจอกับเหตุการณ์ที่ตึงเครียดมามากแล้ว” นายสุทธิพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้เมื่อยุบสภาแล้ว สิ่งที่รัฐบาลควรจะหันมาสนใจภาคการท่องเที่ยวใหม่ก็คือ การวางแผนนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติใหม่ เพราะที่ผ่านมาทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวแบบเอาท์บาวด์มากเกินไป หากอยากทำให้การท่องเที่ยวแข็งแกร่งควรจะต้องเริ่มที่คนไทยเที่ยวไทย(โดเมสติก)ก่อน  และเมื่อดูจากประเทศที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโตได้ดี เช่น จีน ญี่ปุ่น สิ่งที่เริ่มก่อนคือ การสร้างความแข็งแกร็งในโดเมสติก ไทยควรจะเอาโมเดลจากตรงนี้มาใช้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คนไทยยังแห่เที่ยวนอก

Posts related

 














จำนำข้าวนาปรังปี 57 ล่ม

นายทนุศักดิ์เล็กอุทัย รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ยืนยันถึงการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ปี 56/57 สามารถดำเนินการต่อได้เฉพาะช่วงนาปีโดยที่ไม่ขัดต่อกฎหมายการเลือกตั้ง เพราะเป็นโครงการต่อเนื่องที่ดำเนินการมาแล้ว และมีกำหนดสิ้นสุดโครงการในวันที่28 ก.พ.57 ส่วนโครงการรับจำนำข้าวนาปรังซึ่งกำหนดเดิมจะต้องเริ่มต่อจากช่วงนาปีนั้น หากจะดำเนินการต่อคงต้องเสนอให้กกต.พิจารณาอีกครั้งว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ “ขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ก็กำลังทยอยจ่ายเงินให้เกษตรกรที่นำข้าวเข้าร่วมโครงการทุกวันวันละหลายพันล้านบาทล่าสุดได้จ่ายไปแล้วประมาณ 20,000 ล้านบาท ส่วนกรณีเกษตรกรนำข้าวเข้ามาร่วมโครงการตั้งแต่ตอนเริ่มโครงการแล้วยังไม่ได้รับเงินนั้นตอนนี้กำลังทยอยจ่ายเรื่อยๆ เชื่อว่า ในช่วงกลางเดือนม.ค.57 จะสามารถจ่ายได้ครบทั้งหมดโดยกรอบวงเงินที่จะดำเนินการในช่วงนาปี จะใช้เงิน 150,000 ล้านบาท ซึ่งเกษตรกรจะต้องนำข้าวงเข้าร่วมโครงการภายใน 28 ก.พ.57 และนำใบประทวนมาขึ้นเงินได้ ภายใน 31มี.ค.57”   นายอำพน กิตติอำพนรักษาการเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวยังดำเนินการได้ตามปกติเพราะไม่ได้เป็นการอนุมัติงบประมาณที่ผูกพันกับงบประมาณของรัฐบาลต่อไปและไม่ต้องขออนุญาตกับกกต. ก่อน เพราะงบประมาณที่ต้องขออนุญาตคืองบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็น ส่วนกรณีที่รัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่นั้นคงไม่สามารถออกได้เพราะอาจจะมีผลผูกพันกับรัฐบาลต่อไป “มาตรการที่จะผูกพัน เป็นเหตุผลที่กฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนให้มีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน เพื่อที่จะให้มีรัฐบาลใหม่มาตัดสินใจเรื่องกฎหมายที่ค้างและรออยู่เช่น กรณีของการกู้เงิน 2 ล้านล้านตอนนี้ยังมีเวลาอีกประมาณ 60 ถึง 90 วัน ที่รัฐบาลจะสามารถดูว่าเศรษฐกิจจะชะลอลงมากน้อยแค่ไหน หากเศรษฐกิจและการส่งออกไม่สามารถเติบโตได้เลย ถือเป็นกรณีฉุกเฉินที่จะสามารถออกมาตรการได้เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระบุไว้ชัดคือเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ” ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวว่าการกู้เงินเพื่อโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 2 ล้านล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าต้องตกไปตามการประกาศยุบสภาหรือไม่นั้น ยืนยันว่า การดำเนินโครงการอาจช้าไปบ้างแต่กฎหมายดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาจากสภาในวาระที่3 ไปเรียบร้อยแล้วเหลือเพียงรอศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาก่อน จากนั้นจึงรอให้รัฐบาลใหม่รอนำทูลเกล้าฯต่อไป ขณะที่โครงการลงทุนอื่นๆ หน่วยงานที่รับผิดชอบก็ยังไม่ดำเนินการตามขั้นตอนอยู่เช่น การศึกษารายละเอียด และเตรียมความพร้อม หากรัฐบาลใหม่มาก็เข้ามาเดินต่อได้ทันที

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : จำนำข้าวนาปรังปี 57 ล่ม

เจาะแผนปฏิรูปเศรษฐกิจจีน…เป้าหมายการขยายตัวอย่างยั่งยืน – โลกการเงิน

ในครั้งที่แล้ว ผมได้เล่าถึงแผนการปฏิรูประบบเศรษฐกิจการเงินของกลุ่มยูโรโซนที่มีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงที่วิกฤติเศรษฐกิจจะย้อนรอยกลับมาอีกในยุโรป มาในครั้งนี้ ขออนุญาตกล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปของเศรษฐกิจจีนบ้างหลังจากที่เพิ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดของ การประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ที่ปิดฉากไปก่อนหน้านี้ไม่นานครับ เริ่มแรก จะขอปูพื้นถึงโจทย์สำคัญต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจที่ทางการจีนกำลังเผชิญอยู่ ดังนี้ครับ …หลังจากที่เศรษฐกิจโลก รวมถึงจีนได้ถูกกระทบจากวิกฤติซับไพร์มของสหรัฐในปี พ.ศ. 2551 ทางการจีนก็ได้พยายามฟื้นเศรษฐกิจโดยมาตรการกระตุ้นทางการเงินและการคลังต่าง ๆ ซึ่งมาตรการทางการเงินนั้น รวมไปถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการให้สถาบันการเงินเร่งขยายสินเชื่อ   ส่วนมาตรการทางการคลัง ได้แก่ การให้รัฐวิสาหกิจและรัฐบาลท้องถิ่นเร่งเดินหน้าในโครงการลงทุนต่าง ๆ ทั้งนี้ แม้ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวจะช่วยให้เศรษฐกิจจีน สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ แต่การขยายสินเชื่อที่รวดเร็วก็นำมาสู่ประเด็นเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาฯ   ขณะเดียวกัน การลงทุนจำนวนมาก ยังนำมาสู่ปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินที่ไม่มีประสิทธิภาพ ขณะที่หนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้นจากการระดมเงินเพื่อนำไปสร้างโครงการต่าง ๆ ก็กลายเป็นประเด็นที่อาจนำมาสู่ความเสี่ยงได้ ในขณะเดียวกัน จีนยังเผชิญกับโจทย์ทางด้านสังคม อาทิ ประชากรของจีนที่เข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ต่าง ๆ ไม่ได้รับสิทธิทางด้านสวัสดิการสังคม เนื่องจากเป็นแรงงานต่างถิ่นที่ไม่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเมืองนั้น ๆ ในขณะที่ประชากรในเมืองเอง ก็มีภาระจากราคาที่อยู่อาศัย ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับรายได้รวมถึงยังมีภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ที่รัฐบาลให้สวัสดิการเฉพาะข้าราชการ นอกจากนี้ อัตราการเกิดของประชากรที่ต่ำ เนื่องมาจากการควบคุมของทางการนั้นยังทำให้อีกไม่นานนี้ จีนคงจะต้องเผชิญกับโจทย์ของการเป็นสังคมผู้สูงอายุ  ซึ่งประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้การบริโภคของประชาชนขยายตัวได้ค่อนข้างจำกัด  ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจจำต้องพึ่งการลงทุนมากกว่าที่ควรจะเป็น นอกจากประเด็นด้านสวัสดิการสังคมแล้ว ยังมีประเด็นด้านการจัดสรรสิทธิการใช้ที่ดินซึ่งอำนาจอยู่ในมือของรัฐบาลท้องถิ่นที่มักจะอนุมัติสิทธิการใช้ที่ดินเพื่อการก่อสร้าง, โครงการอสังหาฯ และการลงทุนของภาคธุรกิจ มากกว่าการพัฒนาด้านการเกษตร เพราะรัฐบาลได้รับผลตอบแทนมากกว่า แต่ก็ส่งผลให้การขยายการผลิตทางการเกษตรเผชิญกับข้อจำกัด และกระทบเป็นลูกโซ่มายังราคาอาหารและภาวะเงินเฟ้อ จากโจทย์ที่เผชิญต่าง ๆ เหล่านี้ ทางการจีนจึงมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการปฏิรูประบบเศรษฐกิจเพื่อที่จะให้การขยายตัวในช่วงข้างหน้ามีความยั่งยืนมากขึ้น ทั้งนี้ สาระสำคัญโดยสรุปของแผนการปฏิรูปล่าสุดครอบคลุมประเด็นหลัก ๆ ได้แก่ 1. การให้ความสำคัญต่อกลไกตลาดในระบบเศรษฐกิจ เช่น ลดบทบาทและการแทรกแซงของภาครัฐในการกำหนดราคาสาธารณูปโภคต่าง ๆ รวมถึงการปรับปรุงการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจ 2. การปฏิรูประบบสวัสดิการสังคม ที่ให้สิทธิแก่ประชากร และแรงงานที่ไปทำงานต่างถิ่นอย่างทั่วถึงมากขึ้น รวมถึงการปฏิรูประบบการให้สิทธิในการใช้ที่ดิน 3. การปฏิรูปการคลัง ซึ่งรวมไปถึงการปฏิรูปการกำกับดูแลฐานะการคลังของรัฐบาลท้องถิ่น 4. การปฏิรูปด้านการเงิน ซึ่งครอบคลุมประเด็นด้านอัตราดอกเบี้ย, อัตราแลกเปลี่ยน, การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ ตลอดจนการกำกับดูแลความเสี่ยงของระบบสถาบันการเงินและ 5. การปกป้องสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งรวมไปถึงการปฏิรูปนโยบายด้านประชากรอาทิ การผ่อนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับจำนวนการมีบุตร จากเดิมที่จำกัดไว้ที่เพียงหนึ่งคน ผมมองว่า การดำเนินการปฏิรูปที่ครอบคลุมในหลายด้านดังกล่าว น่าที่จะช่วยให้เศรษฐกิจจีนสามารถตอบโจทย์ในด้านคุณภาพของการขยายตัวของเศรษฐกิจรวมถึงตอบโจทย์ในด้านสวัสดิการแก่ประชากร  ซึ่งน่าจะมีผลต่อเนื่องในการช่วยเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค ในขณะเดียวกัน การปฏิรูประบบการเงิน เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ย ที่คงจะทยอยเป็นไปตามกลไกตลาดมากขึ้น ก็น่าจะช่วยการจัดสรรทรัพยากรให้แก่ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มีปัญหาในการเข้าถึงบริการของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ แน่นอนว่า การดำเนินการปฏิิรูปในประเด็นที่หลากหลายดังกล่าวย่อมที่จะต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม จากการที่ทางการจีนได้หันไปเน้นประเด็นด้านคุณภาพของ การเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าขนาดของอัตราการขยายตัว ทำให้คาดได้ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงข้างหน้าคงจะไม่หวือหวา แต่น่าที่จะมีเสถียรภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ประเด็นด้านเสถียรภาพของเศรษฐกิจทั้งในด้านการเงิน การคลัง ก็น่าที่จะแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งย่อมจะส่งผลดี ทั้งต่อเศรษฐกิจจีนและต่อเศรษฐกิจต่าง ๆ ในภูมิภาค รวมถึงไทย ที่ล้วนมีจีนเป็นคู่ค้าสำคัญทั้งสิ้นครับ. ดร.เชาว์ เก่งชน ck.at.kr@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เจาะแผนปฏิรูปเศรษฐกิจจีน…เป้าหมายการขยายตัวอย่างยั่งยืน – โลกการเงิน

Page 1307 of 1552:« First« 1304 1305 1306 1307 1308 1309 1310 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file