shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

อึ้ง นม–โยเกิร์ต ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด

นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสถาบันอาหาร วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งแต่ขั้นตอนการได้มาของวัตถุดิบ การผลิต การกระจายสินค้า การใช้งาน และการจัดการซาก ของผู้ผลิตนม และผลิตภัณฑ์จากนม คือ นมสดพาสเจอร์ไรส์รสธรรมชาติ และโยเกิร์ต พบว่า นมสดพาสเจอร์ไรส์ มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดในขั้นตอนการผลิต คิดเป็นสัดส่วน 50 % รองลงมาขั้นตอนการได้มาของวัตถุดิบ 30% ส่วนโยเกิร์ตปล่อยก๊าซ ฯ สูงสุดขั้นตอนการได้มาของวัตถุดิบ คิดเป็นสัดส่วนถึง 90% อย่างไรก็ตามจากข้อมูลดังกล่าว ทำให้ผู้ผลิตนม และผลิตภัณฑ์จากนม ทราบว่า หากจะผลิตสินค้าให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยลดก๊าซเรือนกระจกต้องปรับปรุงการผลิตที่ขั้นตอนใด เช่น กรณีนมสดพาสเจอร์ไรส์ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขั้นตอนการผลิตมากที่สุด เพราะการใช้ไฟฟ้าในกระบวนการผลิต ทำให้มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูง ดังนั้นแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คือ นำเชื้อเพลิงชีวมวล เช่น ไบโอแก๊สจากน้ำเสีย มาใช้ในการผลิตแทนการใช้ไฟฟ้า เนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผาชีวมวลจะถูกหมุนเวียนกลับไปใช้โดยพืชเพื่อสังเคราะห์แสง จึงไม่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ส่วนกรณีโยเกิร์ต ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงในขั้นตอนการได้มาของวัตถุดิบ โดยวัตถุดิบที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุด ได้แก่ น้ำนมดิบ ซึ่งเกิดจากการเลี้ยงโค ออร์แกนิก ซึ่งจะปลูกพืชอาหารสัตว์คุณภาพดี โดยลดการใช้ปุ๋ยเคมีในการปลูก จะช่วยลดก๊าซไนตรัสออกไซด์ที่ปลดปล่อยออกจากดินและน้ำได้ และแปลงพืชอาหารสัตว์ดังกล่าว ยังจะทำหน้าที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศอีกด้วย ซึ่งหากผู้ผลิตดำเนินปรับปรุงตามแนวทางดังกล่าว ผู้ผลิตจะมีส่วนร่วมในการช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศ” “นอกจากนมและผลิตภัณฑ์จากนมแล้ว ยังมีสินค้าอาหารอีกหลายประเภท ที่ สศอ. และสถาบันอาหารได้ให้คำปรึกษาและเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก เช่น เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว ทั้งนี้ เพื่อให้อุตสาหกรรมอาหารมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม และพร้อมรับกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่หลายประเทศกำหนด”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : อึ้ง นม–โยเกิร์ต ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด

Posts related

 














กลต.จีบไปรษณีย์-ค้าปลีก ขายกองทุน

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.มีแผนเพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูลและเพิ่มช่องทางการลงทุนของนักลงทุนให้มากขึ้น โดยได้เชิญบริษัทไปรษณีย์ไทย และบริษัทที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีก ทั้งร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น และเทสโก้ โลตัส รวมถึงธนาคารออมสิน ซึ่งมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศมาหารือ เพื่อเป็นช่องทางในการขายกองทุนต่าง ๆ ให้นักลงทุนเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งบริษัทดังกล่าวก็สนใจเพราะจะช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัทอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ ในปี 57 ก.ล.ต.ประเมินว่าจะมีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยและตลาดตราสารหนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรืออาจทะลุ 100,000 ราย จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีนักลงทุนหน้าใหม่ตามเป้าหมายที่ 80,000-90,000 ราย เนื่องจากก.ล.ต.มีแผนให้ความรู้ความเข้าใจกับนักลงทุนต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นทางเลือกให้นักลงทุน เช่น หุ้นที่เข้าจดทะเบียนใหม่ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ ยังมีกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือกองรีทส์ ที่ล่าสุดกรมสรรพากรได้อนุมัติเรื่องภาษี แล้ว โดยจะเริ่มจัดตั้งกองทุนได้ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งมั่นใจว่าจะมีผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีข้อดีมากกว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ เพราะสามารถระดมเงินทุนเองได้ และเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถือหุ้นได้สูงถึง 50% ในขณะที่กองทุนอสังหาฯเปิดให้ถือได้สูงสุดแค่ 1ใน 3 ทำให้เจ้าของกิจการน่าจะมีความต้องการออกกองทุนมากขึ้น เป็นผลจากยังมีความเป็นเจ้าของอยู่ โดยขณะนี้มีผู้ยื่นตั้งกองรีทส์แล้ว 1 รายคือ บริษัทลูกของบีแลนด์ “ในเดือนธ.ค.นี้ ก.ล.ต.เตรียมเปิดโครงการหุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัดครั้งที่ 3 เพื่อส่งเสริมให้บริษัทเอกชนในต่างจังหวัดเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น หลังโครงการที่ 1 และโครงการที่ 2 ประสบความสำเร็จอย่างดี โดยมีบริษัทที่เข้าตลาดและมีแผนที่จะเข้าตลาดแล้วกว่า 20% ของจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 119 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทที่เข้าตลาดฯ แล้ว 12 บริษัท และบริษัทที่ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)แล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาของก.ล.ต.อีกไม่น้อยกว่า 6-7 บริษัท”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กลต.จีบไปรษณีย์-ค้าปลีก ขายกองทุน

หุ้นไทยวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 ปิดร่วง 7.63 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 20 พ.ย. ดัชนีแกว่งตัวผันผวน ซึ่งช่วงเช้าปรับเพิ่มขึ้นได้ตามแรงซื้อเก็งกำไร แต่ช่วงบ่ายดัชนีอ่อนตัวลงกว่า 10 จุด หลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยในประเด็นแก้ไขที่มาของส.ว. ว่า ขัดต่อระเบียบข้อบังคับของสภาฯและขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้มีคำสั่งยุบพรรคการเมือง ทำให้นักลงทุนกังวลว่าการเมืองในประเทศอาจกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ส่งผลให้ระหว่างวันดัชนีลดลงต่ำสุดที่ 1,401.50 จุด ทะยานขึ้นสูงสุดที่ 1,420.93 จุด จนมาปิดตลาดที่ 1,404.81 จุด ลดลง 7.63 จุด หรือ 0.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 41,697.27 ล้านบาท สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก 1.ทรู ปิดที่ 8.95 บาท ลดลง 0.05 บาท 2. เอไอเอส ปิดที่ 226.00 บาท ลดลง 2.00 บาท 3. เมก้า ปิดที่ 20.80 บาท ลดลง 0.50 บาท 4. จัสมิน ปิดที่ 8.10 บาท ลดลง 0.10 บาท 5. ปตท. ปิดที่ 305.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หุ้นไทยวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 ปิดร่วง 7.63 จุด

Page 1397 of 1552:« First« 1394 1395 1396 1397 1398 1399 1400 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file