shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

ระดมกึ๋นดันส่งออกปี57

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า  ในวันที่ 11 พ.ย. 56  นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ จะเชิญตัวแทนภาคธุรกิจและกลุ่มอุตสาหกรรมส่งออก 50 รายในกลุ่มเกษตรและอาหาร,  ยานยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, วัสดุก่อสร้าง, แฟชั่นและไลฟ์สไตล์,ธุรกิจบริการ,ธุรกิจสุขภาพและความงาม มาร่วมประเมินสถานการณ์การส่งออกปี 56  และเป้าหมายในปี 57   เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ต้องการทำงานร่วมกับภาคเอกชนมากขึ้นหลังจากปี 56 ผู้ส่งออกประสบปัญหาเศรษฐกิจผู้ค้าชะลอตัว จนส่งผงให้ยอดการส่งออกในปีนี้ต่ำกว่าเป้าหมายมากจากเดิมที่เคยประเมินไว้ ขยายตัว 7-7.5% แต่การส่งออก 9 เดือน (ม.ค. – ก.ย.) ส่งออกขยายตัวเพียง 0.05% “ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ประเมินเป้าปี 57 อย่างไม่เป็นทางการที่ 252,000 – 253,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือขยายตัว 5-7% เนื่อง จากเศรษฐกิจหลายตลาดได้ฟื้นตัว เช่น สหรัฐและอเมริกาเหนือส่งออกไทยน่าจะขยายตัว 3% , ยุโรป 5%, จีนและฮ่องกง  5% , ญี่ปุ่น 6%, อาเซียน เพิ่ม 10%, ตะวันออกกลาง เพิ่ม 9%, แอฟริกา เพิ่ม 10%, ออสเตรเลีย เพิ่ม 15% และ เอเซียใต้ เพิ่ม 10% เป็นต้น” ทั้งนี้ทางหอการค้าไทย จะนำเสนอแนวทางส่งเสริมและผลักดันการส่งออกในปี 57 ให้ฟื้นตัวจากปี 56 ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณา โดย เน้นการลดต้นทุนการผลิต การออกมาตรการลดหย่อนด้านภาษีและการเงิน รวมถึงงบประมาณช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะด้านสำหรับอุตสาหกรรมที่ กำลังประสบปัญหา  โดยภาคเอกชนมองว่าการส่งออกในปี 57 อยู่ในระดับทรงตัวและปรับเพิ่มเล็กน้อยไม่เกิน 3-4% นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สมาคมฯจะเสนอให้รัฐบาลทบทวนโครงการรับจำนำ โดยให้กำหนดปริมาณรับจำนำข้าวรวมในแต่ละปีเหมือนในอดีต  เพี่อ การลดภาระงบประมาณรัฐบาล ก็จะมีผลให้ชาวนาคุมผลผลิตการเพาะปลูก และ เพิ่มความคล่องตัวของการซื้อขายในตลาดของพ่อค้าข้าว ขณะเดียวกันออกมาตรการช่วยเหลือลดต้นทุนชาวนาโดยตรงเพื่อชาวนาจะไม่ต้องแย่ง ผลิตเพื่อป้อนจำนำอย่างเดียว “ ยังไม่เห็นปัจจัยหนุนที่จะช่วยให้การส่งออกข้าวไทยสูงขึ้นในปี 57 เบื้องต้นยังประเมินตัวเลขการส่งออกใกล้เคียงปีนี้คือ 6-6.5 ล้านตัน หากโชคดีก็อาจถึง 7 ล้านตัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาขายข้าวจีทูจี “ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า การส่งออกปี 57 หากสถานการณ์การเมืองไม่ถึงขั้นวิกฤต น่าจะขยายตัวได้ 3-4%  สูงกว่าปีนี้ที่ขยายตัวต่ำกว่า 2%  เพราะการส่งออกไทยเผชิญกับเศรษฐกิจประเทศคู้ค้ายังน่าเป็นห่วง การฟื้นตัวยังไม่ชัดเจน และกำลังซื้อยังไม่กลับมา นอกจากนี้ยังพบว่าความได้เปรียบของการส่งออกไทยลดลงต่อเนื่องประกอบกับมีคู่ แข่งด้านส่งออกเพิ่มขึ้น และรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการส่งออกน้อยไป ยังขาดการวางแผน การเตรียมตัวและแผนรับมือกรณีฉุกเฉิน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ระดมกึ๋นดันส่งออกปี57

Posts related

 














แห่ซื้อสินค้ากักตุนหวั่นการเมืองแรง

นายวชิร  คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  เปิด เผยว่า ขณะนี้มีประชาชนและผู้ประกอบการเริ่มทยอยซื้อสินค้ากักตุนไว้จำนวนหนึ่งส่วน ใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทอาหาร เนื่องจากหลายรายกังวลว่าสถานการณ์ทางการเมืองอาจมีความรุนแรงเหมือนกับ เหตุการณ์ในปี 53 ที่นำไปสู่การประกาศกฎอัยการศึก จนทำให้คนในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ๆตื่นตระหนกแย่งซื้ออาหารในซุบเปอร์มาเก็ต มาเก็บไว้จำนวนมาก “สอด คล้องกับผลสำรวจของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชุมนุมพบว่าการบริโภคและการซื้อ สินค้าของประชาชนจะมีเพิ่มขึ้นถึง 22.5% แม้ว่าจะเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าปริมาณบริโภที่ซื้อสินค้าในระดับน้อยลงหรือ เท่าเดิม แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตุว่าเริ่มมีการซื้อสินค้าตุนไว้บ้างแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่อาศัยในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ที่มีการต่อต้านพ.ร.บ. นิรโทษกรรมกันมากๆ” ทั้งนี้แม้ว่าชาวบ้านและผู้ประกอบการบางส่วนจะมีการกักตุนสินค้าแต่ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ไม่มากจนทำให้สินค้าต้องขาดแคลน ส่วนใหญ่สินค้าที่เริ่มกักตุนจะเป็นอาหารสำเร็จรูป, น้ำมันพืช เพื่อไว้รับประทานเองเนื่องจากเก็บไว้ได้นาน  ส่วนการซื้อมาเพื่อหวังเก็งกำไรในช่วงนี้คงมีน้อยมาก นาย วชิร กล่าวว่า ยอมรับว่าในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวประกอบกับปัญหาทางการเมืองเริ่มมีความขัด แย้งมากขึ้นยิ่งทำให้การบริโภคโดยรวมของประเทศชะลอตัวมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำทั้งข้าวที่อยู่นอกโครงการรับ จำนำ  ยางพารา  ข้าวโพด มันสำปะหลัง รวมถึงกลุ่มที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปที่ไม่ใช่พนักงานประจำ ก็มีรายได้ที่ทรงตัวและลดลง ส่งผลให้เกิดการชะลอการใช้จ่ายลงเช่นกัน นอกจากนี้หลายรายที่ซื้อรถยนต์ในโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งกลุ่มนี้ก็จะประสบปัญหาเรื่องของสภาพคล่องจำเป็นต้องประหยัดรายจ่ายที่ ไม่จำเป็นลง เพื่อจะนำเงินไปผ่อนรถยนต์เดือนละ 7,000-8,000 บาท ในส่วนของการเมืองนั้นหากรัฐบาลไม่สามารถหาทางออกได้ก็จะส่งผลของการบริโภค ในประเทศต่อไปแน่นอน แต่หากสามารถเจรจาและหาข้อยุติได้เชื่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เชื่อว่าในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. น่าจะไม่ลดต่ำลงกว่าในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากในเดือน พ.ย. จะมีเทศกาลลอยกระทง และเดือน ธ.ค. ก็จะมีวันหยุดเยอะรวมทั้งมีเทศกาลคริสมาสและปีใหม่ ที่จะทำให้ประชาชนมาจับจ่ายใช้สอยกันจำนวนมาก สำหรับเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศนั้นศูนย์ฯได้ประเมินในปีนี้ว่าในปี 56 เศรษฐกิจจะขยายตัว 3.5% โดยกลุ่มที่ช่วยพยุงให้เศรษฐกิจไม่ต่ำลงกว่านี้มาจากการท่องเที่ยว และกลุ่มการค้าชายแดน เพื่อชดเชยการส่งออกและการบริโภคที่ลดลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้ามีการส่งข้อความแชร์ทางไลน์และทางเฟสบุคว่า ขอแจ้งข่าวให้ประชาชนตุนอาหารไว้บ้างเพราะขณะได้มีข่าวว่าได้มีการเกณฑ์ชาย ฉกรรจ์จากต่างจังหวัดจำนวนมากเข้ากรุงเทพฯ เพื่อต่อต้านคนที่ออกมาคัดค้านพ.ร.บ. นิรโทษกรรม รวมถึงคนที่มาต่อต้านรัฐบาล เพราะหากมีการปะทะกันอาจทำให้เกิดความวุ่นวายในประเทศได้ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นแหล่งชุมนุมต่อต้าน อย่างไรก็ตามข่าวดังกล่าวเป็นเพียงความวิตกกังวลเท่านั้นซึ่งอาจไม่เป็นความ จริงก็ได้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แห่ซื้อสินค้ากักตุนหวั่นการเมืองแรง

ผุดโรงเรียนนักการค้า

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มีแนวคิดที่จะจัดตั้งโรงเรียนนักการค้า เหมือนกับที่กระทรวงมหาดไทยมีโรงเรียนนายอำเภอ เพื่อปั้นข้าราชการให้เป็นนักการค้า ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งพาณิชย์จังหวัด หรือผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) เพราะในปัจจุบันนี้ ผู้ที่จะไปเป็นผู้บริหารจะรู้เพียงด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ แต่ต้องรู้รอบด้าน โดยเฉพาะด้านการค้า เพราะถือเป็นภารกิจหลักของกระทรวงพาณิชย์  “ต่อ ไปผู้ที่จะถูกแต่งตั้งให้ไปเป็นพาณิชย์จังหวัด หรือเป็นทูตพาณิชย์ จะต้องมาผ่านโรงเรียนนักการค้าก่อน ถือเป็นหลักสูตรที่จะสร้างความพร้อมให้กับบุคลากรของเรา เพราอยากให้คนที่จะไปเป็นผู้บริหาร ต้องเรียนรู้ และมีความเข้าใจกับทิศทางการค้าโลกในแง่มุมต่างๆ เนื่องจากปัจจุบันนี้ ทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันหมด ยิ่งเปิดเสรีเพิ่มมากขึ้น การเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ ก็จะมีมากขึ้น” ทั้ง นี้ หลักสูตรนักการค้า จะสอนงานที่อยู่ในภารกิจของกระทรวงพาณิชย์ทั้งหมด ทั้งเรื่องการดูแลสินค้าเกษตร การพัฒนาผู้ประกอบการ การส่งเสริมทรัพย์สินทางปัญญา การดูแลและปกป้องทางการค้า การส่งเสริมและผลักดันการส่งออก การเจรจาการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งการติวเข้มในเรื่องที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่อให้คนที่จะไปเป็นผู้บริหาร สามารถนำนโยบายไปสู่ภาคปฏิบัติได้ถูกต้อง นาง ศรีรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังคนทั้งในส่วนภูมิภาคและ ต่างประเทศ โดยต่อไปคนที่เป็นพาณิชย์จังหวัด ก็สามารถที่จะสมัครไปเป็นทูตพาณิชย์ได้ หรือคนที่เป็นทูตพาณิชย์ หากกลับมาแล้ว ก็จะผลักดันให้ไปเป็นพาณิชย์จังหวัด เพื่อให้นำความรู้ ประสบการณ์ไปช่วยพัฒนาในส่วนจังหวัด เพราะคนเหล่านี้ถือเป็นมันสมองของกระทรวงฯ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ผุดโรงเรียนนักการค้า

Page 1443 of 1552:« First« 1440 1441 1442 1443 1444 1445 1446 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file