shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

เอคเซนเชอร์ เปิดบริการดิจิทัล ช่วยธุรกิจลูกค้า

 วันนี้ (19 ก.พ.) ที่อาคารอับดุลราฮิม สีลม นายนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์ดิจิทัลก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อการดำเนินธุรกิจของลูกค้าของบริษัทอย่างมาก ตั้งแต่วิธีการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ประชาชน และซัพพลายเออร์ ไปจนถึงแนวทางการบริหารจัดการบุคลากร ดังนั้น เอคเซนเชอร์ จึงตั้งกลุ่มธุรกิจ เอคเซนเชอร์ ดิจิทัล (Accenture Digital) ซึ่งผสานรวมทรัพยากรดิจิทัล ซอฟต์แวร์ และบริการของบริษัท ครอบคลุมทั้งในส่วนของการตลาดดิจิทัล โมบิลิตี้ และการวิเคราะห์ข้อมูล โดยแพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้ลูกค้าใช้เทคโนโลยีระบบดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและสร้างสรรค์ธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ  ทั้งนี้ บริษัทจะเพิ่มบุคลากรกว่า 10 คน จากปกติอยู่ประมาณ 50 คน เพราะกลุ่มธุรกิจ เอคเซนเชอร์ จะช่วยให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์เชื่อมต่อและอุปกรณ์พกพาที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน โดยกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกโดยใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ก้าวล้ำ และเสริมสร้างประสบการณ์และการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น การเน้นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ถือเป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว องค์กรธุรกิจทุกแห่งจะต้องรองรับและขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัล กลุ่มบริษัท ได้ลงทุนอย่างจริงจังใน เอคเซนเชอร์ อินเตอร์แอคทีฟ (Accenture Interactive) รวมไปถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูลและโมบิลิตี้ และตอนนี้บริษัทกำลังเปิดตัวบริการดิจิทัลแบบครบวงจร เพื่อช่วยให้ลูกค้าแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นายนนทวัฒน์ กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจ เอคเซนเชอร์ ซึ่งรวมเอาบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ 23,000 คน จะใช้ประโยชน์จากความรู้ความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งของเอคเซนเชอร์ในเทคโนโลยีคลาวด์ การควบรวมระบบ และแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กร รวมไปถึงเครือข่ายการให้บริการทั่วโลก เพื่อช่วยให้ลูกค้าผสานรวมเทคโนโลยีดิจิทัลไว้ในทุกแง่มุมขององค์กร และปฏิรูปธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอคเซนเชอร์ เปิดบริการดิจิทัล ช่วยธุรกิจลูกค้า

Posts related

 














เผยหน่วยงานราชการแห่ขอใช้ “คลาวด์ภาครัฐ”จนเต็มระบบ

 วันนี้( 19 ก.พ.) ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)หรือ EGA เปิดเผยว่า หลังจากเปิดให้ใช้งานระบบคอมพิวเตอร์แบบคลาวด์ภาครัฐจนถึงปัจจุบันมีความต้องการใช้ระบบสูงขึ้นอย่างมาก โดยขณะนี้ความสามารถในการรองรับของ EGA เดิมได้ตั้งเป้าว่า จะมีระบบคลาวด์ภาครัฐมาใช้งาน40ระบบ แต่ปรากฎว่าปัจจุบันระบบคลาวด์ภาครัฐของ EGA ต้องแบกรับการทำงานอยู่ทั้งหมด 259 ระบบ และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นโดยวัดจากการขอเข้าใช้ของหน่วยงานต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา      “ระบบคลาวด์ภาครัฐถือเป็นความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้งานด้านไอทีของภาครัฐใหม่ เพื่อลดความซ้ำซ้อน และลดภาระการบริหารงานระบบคอมพิวเตอร์ไปอย่างมาก โดยหน่วยงานภาครัฐที่เข้าร่วมในโครงการนี้มีถึง 129 หน่วยงาน และคาดว่าจะสูงถึง 250 หน่วยงานภายในปลายปีนี้ อย่างไรก็ตามพฤติกรรมการใช้งานระบบคลาวด์ของภาครัฐในปัจจุบันยังต้องมีกระบวนการเรียนรู้จากเดิมมากขึ้น เนื่องจากหลายหน่วยงานยังร้องขอปริมาณสำรองระบบมาจำนวนมากทั้งที่ไม่ได้ใช้งานจริง ทำให้เสียโอกาสในการให้บริการกับหน่วยงานอื่นๆ  ดังนั้นในแผนงานต่อไปจะมีการปรับระบบสำรองของคลาวด์ภาครัฐให้เป็นตามพฤติกรรมการใช้งานจริง ” ดร.ศักดิ์กล่าว     ดร.ศักดิ์ กล่าวต่อว่า   สำหรับแผนงานในปีงบประมาณ 2557 จะเสริมระบบสาธารณูปโภคของระบบคลาวด์ ภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตภายนอก ที่จะทำให้ระบบคลาวด์ของ EGA มีการกระจายตัว และมีความยืดหยุ่นในการบริการ ส่งผลทางด้านการรักษาความปลอดภัยที่สูงขึ้น กระจายความเสี่ยงได้มากขึ้น คาดว่าภายในปีหน้าระบบคลาวด์ของภาครัฐจะสามารถรองรับระบบได้มากถึง 500 ระบบ โดยจะยังคงเงื่อนไขการรับบริการแบบเดิมคือ หน่วยงานต่างๆ ต้องแสดงความประสงค์จะ ใช้งานเข้ามา โดยจะพิจารณาจากความพร้อมของหน่วยงานนั้นๆ รวมถึงการวางแผนงบประมาณ การใช้ไอทีโดยรวมขององค์กร ซึ่งบริการคลาวด์ภาครัฐของ EGA จะไม่คิดค่าบริการจากหน่วยงานรัฐแต่ อย่างใด      ที่ผ่านมามีหน่วยงานที่ใช้บริการคลาวด์ภาครัฐ เช่น ระบบบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (สลน.) ระบบเยียวยาฟื้นฟูผู้ประสบภัย3จังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) ระบบรายงานผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติงานทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-SAR) (สำนักงาน กพร.) ระบบบริหารจัดการสารสนเทศด้านสาธารณภัยในภาวะวิกฤต (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) เป็นต้น     ทั้งนี้ระบบคลาวด์คอมพิวติ้งถือเป็นเทคโนโลยีที่ทั่วโลกนำมาใช้ ซึ่งสามารถลดการค่าใช้จ่าย และมีความยืดหยุ่นสูง เพราะรองรับการขยายการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นจากข้อมูลล่าสุดของการ์ทเนอร์ได้คาดการณ์ว่า ค่าใช้จ่ายในขององค์กรที่เกิดขึ้นไปกับการลงทุนคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud)จะมีการเติบโตสูง กว่า 28% ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป แต่การลงทุนในการสร้างคลาวด์ส่วนตัว (Private Cloud) จะมีมูลค่ามากกว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับการลงทุนคลาวด์สาธารณะถึง 3 เท่า ชี้ให้เห็นแนวโน้มการใช้งานแบบสาธารณะเพิ่มขึ้นไปด้วย ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาและให้บริการคลาวด์ภาครัฐที่ทางEGAเปิดให้บริการแก่หน่วยงานภาครัฐ.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เผยหน่วยงานราชการแห่ขอใช้ “คลาวด์ภาครัฐ”จนเต็มระบบ

เลือกไทยตั้งศูนย์บริการงานเทคนิคแห่งอาเซียน

เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญของประเทศ กับอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะเฟส 2  ที่เน้นการส่งเสริมให้บริษัทชั้นนำจากต่างประเทศเข้ามาทำวิจัยและพัฒนาในประเทศไทย ล่าสุด…บริษัทโพลีพลาสติกส์ มาร์เก็ตติ้ง (ที) จำกัด ผู้ผลิตพลาสติกวิศวกรรมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทุ่มเงินกว่า 50 ล้านบาท เปิด “ศูนย์บริการงานเทคนิคแห่งอาเซียน” หรือ ASEAN Technical Solution Center ที่อาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 ในอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ รังสิตแห่งนี้ เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าในอาเซียนอินเดีย   “ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล” ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ( สวทช.) บอกว่า โพลีพลาสติกส์เป็นบริษัทเอกชนรายแรก ๆ ที่เข้ามาอยู่ในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 โดยเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายชั้นนำระดับโลกด้านวิศวกรรมพลาสติก ทั้งในประเทศญี่ปุ่น อาเซียน จีน อินเดีย อเมริกาใต้ ยุโรป กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงอุปกรณ์อิเล็ก ทรอนิกส์ อุปกรณ์เครื่องมือและวัสดุภัณฑ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทมองเห็นทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนที่มีอย่างต่อเนื่องจึงขยายฐานการให้บริการลูกค้าและเลือกเปิดศูนย์บริการงานเทคนิคแห่งอาเซียนขึ้นในประเทศไทย ศูนย์บริการนี้จะให้บริการคำปรึกษาทางด้านการออกแบบหรือปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกด้านวิศวกรรมด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย เจ้าหน้าที่ของโพลีพลาสติกส์บอกว่า ผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกมักเกิดปัญหาว่าชิ้นงานที่ออกแบบมานั้น จะสามารถนำไปขึ้นรูปได้หรือไม่ หรือหากเกิดการแตกหักก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรศูนย์นี้คือคำตอบ โดยนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริการลูกค้าเข้าไปช่วยในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ออกแบบ ซึ่งจะมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์จำลองแบบมาช่วยให้สามารถเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับงาน การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อวิเคราะห์คุณสมบัติเชิงกล การสร้างแบบแม่พิมพ์และจำลองการฉีดขึ้นรูปผลิตภัณฑ์พลาสติก ที่เหมาะสมช่วยลูกค้าให้วางแนวทางอย่างเป็นระบบ และผลิตชิ้นงานได้เรียบร้อย ตลอดจนสามารถที่จะทดสอบและวิเคราะห์ได้ว่ามีปัญหาใด ๆ บ้างโดยไม่ทำลายชิ้นงาน ดร.ทวีศักดิ์ บอกว่า ที่ผ่านมา สวทช.มีความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำที่เข้ามาทำวิจัยและพัฒนาในอุทยานวิทยาศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 60 บริษัททำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนางานวิจัยที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาห กรรมได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีอีก 150 บริษัท เข้ามาอยู่ในอาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 แห่งนี้ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต่างประเทศให้ความสนใจที่จะเข้ามาทำวิจัยก็คือด้านชิ้นส่วนยานยนต์ และด้านอาหารและการเกษตรนั่นเอง   …ฝากไว้กับการผลักดันให้เป็นยุทธศาสตร์ของประเทศ…เพื่อให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางแห่งการวิจัยและพัฒนาในอาเซียนไม่ใช่ใช้เงินซื้อเทคโน โลยีอย่างเดียว !!!. นาตยา คชินทร nattayap.k@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เลือกไทยตั้งศูนย์บริการงานเทคนิคแห่งอาเซียน

Page 546 of 805:« First« 543 544 545 546 547 548 549 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file