shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

เทเลนอร์ กรุ๊ป ทุ่ม 3.4 หมื่นล้านบาท ให้ดีแทคพัฒนาเครือข่ายอย่างทั่วถึง

เทเลนอร์ กรุ๊ป หนุนดีแทค ทุ่มงบลงทุนพัฒนาโครงข่าย 3 จี และ 4 จี 3 ปี 57-59 จำนวน 3.4 หมื่นล้านบาท หวังประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึง นายจอน เฟรดริค บัคซอส ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า กว่า 90% ของประชากรทั้งโลกจำนวน 7.2 พันล้านคน อยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือครอบคลุม แต่ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึง โดยผลสำรวจขององค์การสหประชาชาติ เมื่อปี 2553 โทรศัพท์มือถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยให้หลุดพ้นจากความยากจน เพราะการสื่อสารมีบทบาทในการก้าวไปสู่สังคมที่พึ่งพาตัวเองได้ สำหรับเป้าหมายของเทเลนอร์คือทำให้ทุกชีวิตในประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชียที่เทเลนอร์เข้าไปทำธุรกิจ รวมทั้งประเทศไทยได้มีโอกาสเข้าถึงอินเทอร์เน็ต รวมถึงพัฒนาคลื่นลูกใหม่ในวงการการสื่อสารไร้สายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้ สมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตจะไม่ใช่สิ่งไกลตัวอีกต่อไป แต่จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับทุกชีวิต ซึ่งผู้ให้บริการเครือข่ายจะต้องขยายสัญญาณให้ครอบคลุมและนำเสนออุปกรณ์การใช้งานในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น “เทเลนอร์ และดีแทค ในการพัฒนาแพ็กเกจและอุปกรณ์สมาร์ทโฟนในราคาที่ถูกลง ซึ่งในไตรมาส 3/56 ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยเติบโตถึง 29.1% โดยเพิ่มขึ้นจาก 7.1 ล้านเครื่องเป็น 8 ล้านเครื่อง” นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียม ดีแทคจะมุ่งสร้างโครงข่าย 3 จี เพื่อรองรับการใช้งานทั่วประเทศ และขณะนี้โครงข่าย 3 จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ได้ครอบคลุมประชากร 55% ของประเทศ และดีแทคจะขยายเครือข่าย 3 จี ทั่วประเทศต่อไป และเตรียมพร้อมสู่การให้บริการเครือข่าย 4 จี ด้วย โดยจะใช้งบลงทุนโครงข่ายปีพ.ศ. 2557-2559 ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เทเลนอร์ กรุ๊ป ทุ่ม 3.4 หมื่นล้านบาท ให้ดีแทคพัฒนาเครือข่ายอย่างทั่วถึง

Posts related

 














ลุ้น ‘ไอซอน ‘ดาวหางแห่งปี’

กลับมาตื่นเต้นกันอีกครั้ง.. เมื่อใกล้ถึงเวลาที่ดาวหาง “ไอซอน” จะโคจรเฉียดดวงอาทิตย์ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ แม้จะไม่อาจคาดเดาได้ถึงความสุกสว่าง ว่าจะมีมากน้อยเพียงใด แต่ก็น่าลุ้น! เพราะดาวหางดวงนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นดาวหางแห่งปี ที่นักดาราศาสตร์ทั่วโลกรวมถึงชาวไทยต่างรู้จัก และเฝ้าติดตามการมาเยือน นับจากที่ถูกค้นพบโดยสองนักดาราศาสตร์สมัครเล่น “ไวตาลี เนฟสกี้” ชาวเบลารุส และ “อาร์เตียม โนวิคโคนอค” ชาวรัสเซีย ภายใต้โครงการไอซอน (ISON: International Scientific Optical Network) เมื่อเดือนกันยายน 2555 “ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา” รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือสดร. บอกว่า การเฝ้าติดตามก่อนหน้านี้ เคยพบว่าดาวหางไอซอนอาจไม่สุกสว่างอย่างที่นักดาราศาสตร์ทั่วโลกเคยคาดกันว่าจะสว่างถึงขนาดเท่ากับแสงของดวงจันทร์ แต่เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กลับพบว่าดาวหางดวงนี้มีพัฒนาการของความสว่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ดาวหางไอซอนมีการประทุของก๊าซออกมา ส่งผลให้ความสว่างเพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้จะยังไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ก็กลับมาเป็นที่สนใจของนักดาราศาสตร์ทั่วโลกอีกครั้ง ทำให้จากนี้ไปต้องลุ้นกันว่า ดาวหางไอซอนจะสว่างพอที่จะสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหรือไม่ ก่อนที่จะโคจรเข้าสู่จุดที่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ซึ่งอยู่ห่างจากผิวดวงอาทิตย์ เพียง 1.2 ล้านกิโลเมตรเท่านั้น การเฉียดดวงอาทิตย์ครั้งนี้จะทำให้ดาวหางไอซอนมีอุณหภูมิสูงถึง 2,000 องศาเซลเซียส ซึ่งอาจจะระเหิดไปหมด หรือแตกเป็นเสี่ยงได้ แต่หากพิจารณาจากขนาดและการโคจรแล้ว ดร.ศรัณย์ บอกว่า มีโอกาสค่อนข้างมากที่ดาวหางไอซอนจะรอดกลับมาให้เราได้ชมดาวหางที่สว่างและสวยงามอีกครั้งหนึ่งในต้นเดือนธันวาคม สำหรับดาวหางไอซอนหรือ C/2012 S1 (ISON) เป็นดาวหางคาบยาว เนื่องจากมีคาบการโคจรนานกว่า 300 ปี และเป็นดาวหางใหม่ที่เข้ามาในระบบสุริยะเพียงเที่ยวเดียว และจะไม่กลับมาอีก การเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นช่วงที่ดาวหางน่าจะมีความสว่างมากที่สุด แต่เนื่องจากเวลาดังกล่าวจะไม่สามารถมองเห็นได้เพราะถูกแสงของดวงอาทิตย์กลบ ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดู คือช่วงวันที่ 15-25 พฤศจิกายน 2556 ที่ดาวหางโคจรก่อนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ และหลังเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ วันที่ 3-15 ธันวาคม 2556 โดยสังเกตได้ในเวลาเช้ามืดทางทิศตะวันออกก่อนอาทิตย์ขึ้น บริเวณกลุ่มดาวหญิงสาว แต่การสังเกตอาจจะไม่ชัดเจนมากนักเนื่องจากแสงตอนเช้ารบกวน ควรใช้กล้องโทรทรรศน์กำลังขยาย 20-30 เท่า หรือใช้กล้องสองตา กำลังขยาย 7 เท่า ก็พอมองเห็นได้ นอกจากนี้ในช่วงเวลาที่ดาวหางไอซอนมาเยือนโลก คนไทยยังมีโอกาสสังเกตเห็นดาวหางคาบสั้นอีก 3 ดวง ในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย คือ ดาวหางเลิฟจอย (Lovejoy X1) ดาวหางลีเนีย (LINEAR X1) และดาวหางเองเค (2P Enke) โดยดาวหางเลิฟจอยถูกค้นพบเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา มีความสว่างปานกลาง และจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่งของวันที่ 23 ธันวาคม 2556 ตามเวลาประเทศไทย ส่วนดาวหางลีเนีย และดาวหางเองเค เป็นดาวหางที่ค้นพบมานานแล้ว และเป็นดาวหางที่มีคาบการโคจร ปัจจุบันมีการค้นพบดาวหางได้มากขึ้น เนื่องจากพัฒนาการของเทคโนโลยีที่ดีขึ้น ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะค้นพบดาวหางขนาดใหญ่ประมาณ 10 กว่าดวงในรอบ 100 ปี นักดาราศาสตร์ใช้ดาวหางในการศึกษาถึงที่มาของระบบสุริยจักรวาล สนามแม่เหล็กต่าง ๆ ดาวหางอาจเป็นที่มาของน้ำในมหาสมุทร แต่การเกิดดาวหางที่มาเยือนโลกพร้อมกันถึง 4 ดวง ดร.ศรัณย์ ยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โลกร้อน ภัยพิบัติ รวมถึงเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะนี่คือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่อยู่ห่างไกลจากโลกมากจริง ๆ !!!. นาตยา คชินทร nattayap.k@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ลุ้น ‘ไอซอน ‘ดาวหางแห่งปี’

ไทยยังละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์สูง

อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ป่วน ภาคธุรกิจยังละเมิดลิขสิทธิ์สูง บก.ปอศ.เผยแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง หวังปลดล็อกไทยจากประเทศที่ถูกจับตาเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์สูงในเอเชียแปซิฟิก พ.ต.อ.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รองผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันองค์กรธุรกิจในไทยได้ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ช่วงปี 2556 ตั้งแต่เดือนม.ค-ต.ค. มีการดำเนินคดีไปแล้วจำนวน 247 คดี โดยอุตสาหกรรมวิศวกรรมและการก่อสร้าง มีการละเมิดมากที่สุด รองลงมาคือ อุตสาหกรรมโรงงานผลิตอุตสาหกรรมเครื่องจักร อุตสาหกรรมบริษัทรับเหมาช่วงต่อ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมออกแบบ และอุตสาหกรรมตัวแทนจำหน่ายและธุรกิจค้าส่ง โดยอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ยังเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงปี 2554 ซึ่งการละเมิดลิขสิทธิ์ส่งผลให้เกิดความเสียหายไปแล้วจำนวน 510.85 ล้านบาท ที่ผ่านมา บก.ปอศ. ได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพราะประเทศไทยกำลังถูกจับตามองเป็นพิเศษ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต่อต้านและควบคุมสินค้าซอฟต์แวร์ของไทย เนื่องจากในปี 2554 ประเทศไทยมีอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ถึง 72% และอยู่ในลำดับที่ 7 ของการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงได้ตั้งเป้าลดการละเมิดลงในปี 2557 ซึ่งมีการดำเนินการแจ้งเตือนกลุ่มอุตสาหกรรมข้างต้นให้ดำเนินการแก้ไขก่อนที่จะมีการจับตรวจค้น เนื่องจากไม่ต้องการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการ เพราะเข้าใจว่าต้องการลดต้นทุนขององค์กร อยากให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์ เนื่องจากพบว่าบริษัทมีรายรับต่อปีเฉลี่ยประมาณ 231 ล้านบาท ในขณะที่มูลค่าซอฟต์แวร์ที่ถูกละเมิดเฉลี่ยประมาณ 2.06 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า หากผู้ประกอบการไทยใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์ จะเพิ่มค่าใช้จ่ายเพียงประมาณ 2 ล้านบาท เมื่อเทียบกับการใช้งานขององค์กรที่ทำได้อย่างเปิดเผย พ.ต.อ.ชัยณรงค์ กล่าวว่า หากประเทศไทยสามารถลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ได้จะปลดล็อกออกจากประเทศที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ จากประเทศสหรัฐอเมริกาและเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับเออีซีที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานสินค้าและสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไทยยังละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์สูง

Page 713 of 805:« First« 710 711 712 713 714 715 716 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file