shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวไอที นวัตกรรมใหม่ๆ

‘หนุมาน’แชมป์หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ตัวแทนไทยแข่งชิงแชมป์โลกที่บราซิล

การแข่งขันฟุตบอลหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2556 ซึ่งทาง บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับสมาคมวิชาการหุ่นยนต์แห่งประเทศ ไทย และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และสร้างความชำนาญในสาขาเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติให้แก่นิสิตนักศึกษา อีกทั้งเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการทำโครงการหุ่นยนต์ที่มีความซับซ้อนสูงและคัดเลือกตัวแทนของประเทศไปเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ชิงแชมป์โลก 2014 (World Robocup Soccer 2014 : Humanoid League) ณ ประเทศบราซิล ในเดือน ก.ค. 2557 โดยทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศในการแข่งขันปีนี้ คือทีมหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ “หนุมาน” จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม เกล้าธนบุรี (มจธ.) ซึ่งในรอบชิงชนะเลิศ เอาชนะทีม “บีเอสอาร์ยู-ทรี (BSRU-III) จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) ด้วยคะแนน 7 ประตูต่อ 3 ซึ่งการแข่งขันฟุตบอลหุ่นยนต์รายการนี้จะเน้นความสามารถของหุ่นยนต์ให้มีความคล้ายกับมนุษย์ หุ่นยนต์จะใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ และการประมวลผลภาพจากกล้องที่อยู่ที่ตัวหุ่น ทำการประมวลผลโดยหน่วยประมวลผล ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ตัวหุ่นเช่นกัน โดยหุ่นยนต์จะต้องรู้จักตำแหน่งของตนเองทั้งในและนอกสนาม และจะต้องสามารถจำแนกวัตถุหลัก ๆ ในสนาม คือ ลูกบอล หุ่นยนต์ฝั่งตนเอง หุ่นยนต์ฝั่งตรงข้ามหรือสิ่งกีดขวาง เช่น เสาประตู เป็นต้น จากนั้นหุ่นยนต์จะต้องเตะลูกบอลให้เข้าประตูฝั่งตรงข้ามเพื่อทำคะแนนให้ได้มากกว่าอีกทีม ซึ่งในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ แต่ละทีมต้องสร้างหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์จำนวน 2 ตัวเพื่อเข้าแข่งขันและทีมที่ทำคะแนนสูงสุดในเวลาการแข่งขัน 20 นาที จึงเป็นผู้ชนะ นายนครินทร์ สรรพคุณ นักศึกษาระดับปริญญาเอก สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม สาขาวิชาวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในฐานะหัวหน้าทีมหนุมาน กล่าวว่า ใช้เวลาในการเตรียมทีมเข้าแข่งขันในปีนี้เป็นเวลา 3 เดือน โดยสมาชิกในทีมเป็นการรวมตัวกันระหว่างนักศึกษาปริญญาเอก ปริญญาโทและปริญญาตรี โดยจะใช้ความถนัดและความชำนาญของแต่ละคนเพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ให้มีความพร้อมในส่วนของการมองเห็น ส่วนสมอง และส่วนของการควบคุมการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ ซึ่งการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์มีความยุ่งยากซับซ้อนกว่าการพัฒนาหุ่นยนต์ชนิดอื่นเพราะในหุ่นยนต์ฮิว มานอยด์นั้นค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญกับการเดินค่อนข้างมาก และจากการที่หุ่นยนต์มีสองขาทำให้มีความจำเป็น ที่หุ่นยนต์จะต้องมีความสามารถในการรักษาการทรงตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้หุ่นยนต์มีเสถียรภาพไม่ว่าจะในขณะที่เคลื่อนที่หรือเมื่ออยู่กับที่ก็ตาม ส่วนกล้องรับภาพของหุ่นยนต์จะใช้ในการมองหาลูกบอล ประตูและผู้เล่นในสนาม จึงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากในหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ โดยการทำงานของกล้องจะใช้ควบคู่กับการประมวลผลภาพ (image processing) นอกจากนี้ หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์จะต้องมีศักย ภาพในการคำนวณระยะตำแหน่งวัตถุด้วย สุดท้าย นายนครินทร์ กล่าวถึงการเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ชิงแชมป์โลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ช่วงปีหน้า ว่า ทางทีมจะเตรียมแผนการเล่นใหม่ ๆ เช่น ทำอย่างไรจึงจะสามารถรับ-ส่งลูกบอลระหว่างหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ได้เร็วขึ้น และมีแผนในการพัฒนาศักยภาพของหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ในการหลบหลีกสิ่งกีดขวางโดยทำให้หุ่นยนต์สามารถเลี้ยงบอลหลบหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ที่เป็นทีมคู่แข่ง และความแม่นยำในการรับรู้ว่าลูกบอลอยู่ตรงส่วนไหนของสนาม เป็นต้น ต้องติดตามกันต่อไปว่าทีมหนุมานจากไทยจะไปไกลแค่ไหนในการแข่งขันฟุต บอลหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ชิงแชมป์โลกในปีหน้าที่บราซิล.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘หนุมาน’แชมป์หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ตัวแทนไทยแข่งชิงแชมป์โลกที่บราซิล

Posts related

 














‘เครื่องขุดย้ายต้นไม้แบบกึ่งอัตโนมัติ’ฝีมือนิสิตปริญญาโท คณะเกษตร มก. – ฉลาดสุดๆ

ปัจจุบันการขุดล้อมต้นไม้ของนักจัดสวนในไทยโดยทั่วไปยังไม่มีการกำหนดขนาดที่เป็นมาตรฐาน ต้นไม้ที่ถูกขุดล้อมจึงมีขนาดของตุ้มดินไม่เท่ากัน จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และความถนัดของผู้ที่ทำการขุดล้อม ในกรณีการขุดล้อมและย้ายปลูกต้นไม้สำหรับการจัดสวน หลุมที่ขุดปลูกจำเป็นต้องปรับให้มีขนาดให้เท่ากับตุ้มดินด้วย ซึ่งหากมีอุปกรณ์ทุ่นแรงที่สามารถขุดหลุมปลูกต้นไม้ และเคลื่อนย้ายต้นไม้ไปในตำแหน่งที่ต้องการโดยใช้เครื่องจักรกลเข้าช่วยได้ จะช่วยให้เกษตรกรผู้ขายต้นไม้ นักจัดสวนและปรับปรุงภูมิทัศน์มีคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดีขึ้นได้ เนื่องจากสามารถลดต้นทุนด้านแรงงาน และลดเวลาในการทำงานได้ จากแนวคิดดังกล่าว นายฤาชา บุญยกิจ โณทัย นิสิตระดับปริญญาโท สาขาเทคโนโลยีระบบเกษตร ภาควิชาเกษตรกลวิธาน คณะเกษตร มหา วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้ทำการคิดค้นและพัฒนา “เครื่องขุดย้ายต้นไม้แบบกึ่งอัตโนมัติ” ขึ้นมา ซึ่งได้พัฒนาต่อยอดมาจากเครื่องขุดย้ายต้นไม้ โดยมี ผศ.ดร.ศุภกิตต์ สายสุนทร รศ.ดร.บัญญัติ เศรษฐฐิติ และ ผศ.ดร.สุดสายสิน แก้วเรือง เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา โดยมีจุดประสงค์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานด้านการขุดย้ายต้นไม้ ขุดหลุมปลูก และเคลื่อนย้ายต้นไม้ไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ สามารถทำงานได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยตุ้มดินและรากได้รับความกระทบกระเทือนน้อย ต้นไม้ไม่ช้ำและมีอัตราการรอดสูงเมื่อนำไปปลูกยังพื้นที่ใหม่ นายฤาชา บุญยกิจโณทัย กล่าวว่า เครื่องขุดย้ายต้นไม้แบบกึ่งอัตโนมัติ ที่พัฒนาและออกแบบโดยใช้ระบบไฮดรอลิกเป็นอุปกรณ์ทำงานนั้น ยังไม่เคยปรากฏว่ามีการใช้งานในประเทศไทย จึงนับเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดทางการเกษตร มีกลไกการทำงานที่ไม่ซับซ้อน ซ่อมบำรุงง่าย เกษตรกรผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องขุดต้นไม้แบบกึ่งอัตโนมัติได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้หลักการและวิธีการทำงานของเครื่อง จะใช้ต่อเข้ากับพ่วงสามจุด (Three point hitch) ของรถแทรกเตอร์ขนาด 40-60 แรงม้า และมีชุดควบคุมระบบไฮดรอลิก ที่ใช้น้ำมันไฮดรอลิกจาก รถแทรกเตอร์ หรือระบบภายนอกได้ โดยมีส่วนที่สำคัญ คือ คานรูปตัวยูที่เคลื่อนที่ขึ้น-ลงได้ในแนวดิ่งโดยอาศัยกระบอกไฮดรอลิกในการเคลื่อนที่ขึ้น-ลง และสามารถหมุนโยกได้ เพื่อทำการขุดล้อมหรือทำการหมุนเพื่อตัดรากให้ขาด ส่วนที่แขนทั้งสองข้างมีพลั่วโค้งครึ่งวงกลมปลายแหลมติดตั้งอยู่ ซึ่งพลั่วทั้งสองนี้สามารถเคลื่อนที่ขึ้น–ลงได้ในแนวเอียง โดยอาศัยแรงดันจากกระบอกไฮดรอลิกในการเคลื่อนที่ และเมื่อพลั่วทั้งสองเคลื่อนที่ลงต่ำสุดจะประกบกันเป็นรูปกรวยอยู่ใต้ดิน นายฤาชา กล่าวต่อว่า วิธีการใช้งานนั้น เมื่อต้องการขุดย้ายต้นไม้ให้ถอยรถแทรกเตอร์เข้าหาต้นไม้ที่ต้องการขุดย้าย ทำการควบคุมระบบไฮดรอลิก ให้พลั่วเคลื่อนที่ไปอยู่ ณ ตำแหน่งบนสุด ทำให้ปลายพลั่วทั้งสองข้างแยกห่างจากกัน ถอยรถแทรกเตอร์จนคานรูปตัวยูเข้าไปคร่อมต้นไม้ ในตำแหน่งที่พร้อมขุด จากนั้นวางเครื่องขุดย้ายต้นไม้ให้แนบกับพื้นดิน ทำการควบคุมระบบไฮดรอลิกเพื่อให้คานรูปตัวยูเคลื่อนที่ลงมาแนบกับพื้นดิน หลังจากนั้นให้ควบคุมระบบไฮดรอลิกเพื่อให้พลั่วทั้งสองเคลื่อนที่ลงเพื่อทำการขุดต้นไม้ โดยกดลงไปในดินจนสุดใบพลั่ว ซึ่งขั้นตอนนี้ สามารถบังคับให้เคลื่อนที่พร้อมกันทั้งสองข้าง หรือเคลื่อนที่สลับทีละข้างก็ได้ ขึ้นอยู่กับชนิดต้นไม้และสภาพดินที่ขุด ต่อจากนั้นให้ควบคุมชุดระบบไฮดรอลิก เพื่อให้คานรูปตัวยูเคลื่อนที่ขึ้น ทำให้ต้นไม้พร้อมรากและดินถูกยกขึ้นจากพื้นดิน ซึ่งปลายพลั่วและต้นไม้จะลอยอยู่เหนือพื้นดิน ส่วนลำต้นก็จะถูกพยุงไว้โดยอุปกรณ์ประคองต้นไม้ สำหรับในกรณีต้องการขุดหลุมปลูกก็ทำเช่นเดียวกัน โดยหลุมที่ขุดได้จะมีลักษณะเหมือนกับหลุมที่ขุดต้นไม้ทุกประการ ส่วนการวางต้นไม้ลงไปในหลุมนั้น ก็เพียงแต่ทำการควบคุมชุดระบบไฮดรอลิก ให้คานรูปตัวยูเคลื่อนที่ลงแนบกับพื้นดิน พลั่วและดินพร้อมรากของต้นไม้ก็จะลงไปอยู่ในหลุม แล้วจึงดึงพลั่วขึ้นเป็นการเสร็จขั้นตอนการทำงาน “จุดเด่นของเครื่องนี้ คือสามารถใช้งานในการขุดต้นไม้ เช่น ต้นปาล์ม เพื่อรอการจำหน่าย รวมถึงในการจัดภูมิทัศน์ จัดสวนประดับตกแต่งให้สวยงาม เมื่อขุดต้นไม้ขึ้นมาและนำมาห่อตุ้มดินไว้ ดินจะไม่แตกออกจากราก ทำให้รากได้รับความกระทบกระเทือนน้อย ต้นไม้ไม่ช้ำ ขนย้ายสะดวก และนำไปปลูกก็ง่ายเพราะหลุมที่ขุด ก็มาจากการใช้เครื่องนี้ทำให้สภาพและขนาดของหลุมที่ขุดขึ้นจึงเหมือนกันทุกประการ เป็นการพัฒนาขึ้นเพื่อให้มีความเหมาะสมกับผู้ใช้งานต่าง ๆ” นายฤาชา กล่าว อย่างไรก็ตามผลงาน “เครื่องขุดย้ายต้นไม้แบบกึ่งอัตโนมัติ” ของนายฤาชา บุญยกิจโณทัย ได้ส่งเข้าประกวดใน “โครงการส่งเสริมการวิจัยสิ่งประดิษฐ์ และเครือข่ายนวัตกรรมอุดมศึกษา ประจำปี 2556” จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยได้รับรางวัลระดับดีเด่น 2 รางวัล คือ รางวัลดีเด่นประเภทการเขียนข้อเสนอโครงการสิ่งประดิษฐ์คิดค้น และรางวัลดีเด่นประเภทการประกวดผลงานประดิษฐ์คิดค้นเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตร (ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และเตรียมจะเข้ารับรางวัลในงาน “วันนักประดิษฐ์” ประจำปี 2557 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 ก.พ. 2557 จากรางวัลที่ได้รับเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า “เครื่องขุดย้ายต้นไม้แบบกึ่งอัตโนมัติ” ที่พัฒนาขึ้นสามารถทำงานด้วยความสะดวกและรวดเร็ว ช่วยให้ผู้จัดสวนและเกษตรกรผู้ขายต้นไม้มีคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดีขึ้นได้ สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ภาควิชาเกษตรกลวิธาน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โทร. 0-2561-3482.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘เครื่องขุดย้ายต้นไม้แบบกึ่งอัตโนมัติ’ฝีมือนิสิตปริญญาโท คณะเกษตร มก. – ฉลาดสุดๆ

กสทช.อนุมัติหลักปฎิบัติประมูลทีวีดิจิทัล

วันนี้(18พ.ย.)ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.)เปิดเผยว่า ที่ประชุมกสท. อนุมัติร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล ประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ 24 ช่อง เพื่อนำไปเป็นแนวทางปฎิบัติให้แก่ผู้เข้าร่วมการประมูลที่ได้ยื่นเอกสารขอรับการประมูล 29 ราย 41 ซองคำขอ โดยจะแจ้งร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวภายใน 45 วันหลังจากการตรวจสอบคุณสมบัติ เอกสาร โดยจะครบกำหนด วันที่ 13 ธ.ค.56 หลังจากนั้นภายใน 7 วันสำนักงานจะแจ้งวัน เวลา สถานที่ในการจัดการประมูลให้แก่ผู้เข้าร่วมการประมูลทุกรายทราบก่อนการประมูล โดยการประมูลจะเริ่มต้นจากช่องวาไรตี้คุณภาพคมชัดสูง ( เอชดี ) ตามด้วยวาไรตี้คุณภาพมาตรฐาน(เอสดี) ช่องข่าว และช่องเด็ก / เยาวชน/ ครอบครัว ตามลำดับ ให้ผู้เข้าร่วมประมูลส่งรายขื่อตัวแทนผู้เข้าร่วมบริษัทละไม่เกิน 5 คนในแต่ละหมวดให้สำนักงานกสทช.ล่วงหน้า 5 วันก่อนการประมูล ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า การประมูลจะมีในช่วงกลางเดือนธ.ค.56 ถึงกลางเดือนม.ค.57 สำหรับตัวแทนที่จะเข้าร่วมการประมูลต้องรายงานตัว และให้เตรียมตัวแทน 1 คน เพื่อจับสลากกำหนดลำดับการจับสลาก หลังจากนั้นจะจับสลากเลือกซองบรรจุหมายเลขห้องประมูล และเลือกซองบรรจุ Username หรือชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบการประมูล ในขณะเดียวกันเมื่อเข้าห้องประมูลเรียบร้อยแล้ว ผู้แทนที่เข้าร่วมกันประมูลจะเปลี่ยนหรือเพิ่มไม่ได้ สำหรับร่างดังกล่าวนี้ กำหนดการปฎิบัติผู้ประมูลไว้ 6 หมวด ดังนี้ 1.การเตรียมการประมูล 2.การเข้าสู่สถานที่การจัดประมูล 3.การประมูล 4.การติดต่อสื่อสารระหว่างการประมูล 5.การประกาศและรับรองผลการประมูล 6.มาตรการรักษาความเป็นธรรม และผลประโยชน์ของรัฐในการประมูล และได้กำหนดหนังสือยินยอมเพื่อการรักษาข้อมูลสารสนเทศที่ต้องห้ามเปิดเผยและป้องกันการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และ สิ่งของและอุปกรณ์ที่อนุญาตนำเข้าห้องประมูล “ตอนนี้ยังไม่ระบุวัน เวลา สถานที่การประมูล เพราะต้องรอกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ขอยื่นรับการประมูลให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลา 45 วันนับจากวันที่ยื่นซองเมื่อวันที่ 28-29 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยคาดว่าการประชุมครั้งหน้าก็จะไม่สามารถประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติได้ เนื่องจากสำนักงานกสทช. ยังตรวจสอบเอกสารไม่เสร็จ ในขณะที่กสท.เองจะไม่เข้าไปยุ่งในการตรวจสอบฯ และยังไม่ได้รับรายงานว่า ใครไม่ผ่านคุณสมบัติ” พ.อ.ดร.นทีกล่าว นอกจากนี้กสท.ยังให้ใบอนุญาตสำหรับการให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้่านกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ (เสาส่งสัญญาณ ) จำนวน 2 ราย ได้แก่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) 1 ใบอนุญาต จำนวน 31 สถานีส่ง และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) 1 ใบอนุญาต จำนวน 48 สถานีส่ง เพื่อให้ผู้ประกอบการโครงข่ายเช่าใช้ และอนุมัติต่ออายุใบอนุญาต 2 ปี ให้แก่ช่องรายการทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีจำนวน 27 ช่องรายการ ได้แก่ จีเอ็มเอ็ม 3 ช่อง จีเอ็มเอ็มบี 9 ช่อง และมูลนิธิไกลกังวล 15 ช่องซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่หมดอายุในวันที่ 25 พ.ย.56 นอกจากนี้ยังอนุญาตทดลองวิทยุเพิ่มเติม 81 ใบอนุญาต แบ่งเป็นธุรกิจ 62 ใบอนุญาต สาธารณะ 17 ใบอนุญาต และชุมชน 2 ใบอนุญาต รวมออกใบอนุญาตทั้งหมด 3,209 ใบอนุญาต

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสทช.อนุมัติหลักปฎิบัติประมูลทีวีดิจิทัล

Page 725 of 805:« First« 722 723 724 725 726 727 728 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file